Categories
Technical Analysis การลงทุน

Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement

Fibonacci Retracement เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นตลาด หุ้น ทอง น้ำมัน forex หรือ สินทรัพย์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ ความเสี่ยงสูงหรือความเสี่ยงต่ำต่างก็ยอมรับ ในตัวของ Fibonacci หรืออาจรู้จักกันในชื่อ สัดส่วนทองคำ

ซึ่งเป็นชุดสัดส่วนตัวเลขที่นับว่ามี ความมหัศจรรย์ เป็นอย่างมาก และสัดส่วนนี้ได้รับ การทดลอง ทดสอบหลายต่อหลายครั้ง กับ ด้านอื่นๆ ที่ไม่ใช่การเทรด หรือ แม้แต่ มนุษย์ ก็ถูกนำมาทดลองวัด สัดส่วนทองคำ ฟิโบนัชชี ด้วย ว่ากันว่า ผู้ที่หน้าตาดีนั้นจะมีสัดส่วนใบหน้าที่ลงตัวกับสัดส่วนตัวเลข ฟิโบนัชชี เป็นอย่างมาก หรือพื้นฐานของ องค์ประกอบธรรมชาติ เช่น ดอกไม้ เกสรดอกไม้ รังผึ้ง วงก้นหอย

 

ในโลกตะวันตก มันคือ ความงดงามทางคณิตศาสตร์ ชุดตัวเลขที่เกี่ยวกับสัดส่วนทางคณิตศาสตร์ ที่มีความพิเศษ สัดส่วนตัวเลข Fibonacci ที่แฝงอยู่ตามธรรมชาติ สถาปัตยกรรม ชีววิทยา รวมไปถึงตลาดหุ้น, Forex อีกด้วย โดยพื้นฐาน Fibonacci มันคือ “สัดส่วนของธรรมชาติ” มันจึงได้นำมาปรับใช้กับเครื่องมือในการวัดสัดส่วน ความเคลื่อนไหวของตลาดการเงิน จึงเป็นสาเหตุที่นักเทรด ทั้งหลาย เลือกที่จะใช้กลยุทธ์การเทรดด้วย Fibonacci 

 
fibonacci Retracement Goo Invest Trade

ความเป็นมาของ Fibonacci Retracement

เลโอนาร์โด ฟีโบนัชชี (Leonardo Fibonacci) หรือรู้กันในชื่อสั้น ๆ ว่า ฟีโบนัชชี Fibonacci (มักจะสะกดผิดว่า ฟีโบนักชี หรือ ฟิโบนักชี) เป็นนักคณิตศาสตร์ชาวอิตาลี มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดจากการค้นพบจำนวนฟีโบนัชชี และบทบาทในการเผยแพร่การเขียนและวิธีการคำนวณระบบจำนวนฐานสิบที่ให้ค่าตามหลักแบบอาราบิก (Arabic positional decimal system) ที่ใช้กันในปัจจุบัน หลายคนยกย่องว่าเขาเป็นนักคณิตศาสตร์ที่เก่งที่สุดในยุคกลาง และต่อมา โยฮันเนส เคปเลอร์  Johannes Kepler ชาวเยอรมัน ค้นพบ อัตราส่วนทอง ของ Fibonacci มันคือตัวเลขสำคัญที่เราใช้เทรดกันนั่นเองเองฐานของการค้นพบตัวเลข 1.618

อัตราส่วนทองคำ นั้นเป็นรากฐานสิ่งกำเนิดสรรพสิ่ง ในจักรวาลที่นำมาเชื่อมโยงกับ มนุษย์  สัตว์ พืช โครงสร้างระดับอะตอม งานปฏิมากรรมสำคัญของโลก และยังเกี่ยวข้องกับความงดงามและสุนทรียศาสตร์ “พีทาโกรัส” นักปราชญ์ยุคกรีกได้สันนิษฐานถึงความถึง ความสัมพันธุ์ระหว่างคณิตศาสตร์ และความสวยงาม

พีทาโกรัสสังเกตว่าสิ่งต่างๆ ที่มีสัดส่วนตามสัดส่วนทองคำ มักจะถูกมองว่ามีความสวยงามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ที่มีหน้าตาร่างกาย แม้แต่ภาพวาด “โมนาลิซ่า” ภาพวาดของ ลีโอนาโด ดาวินชี ภาพก็ถูกวาดได้ตามอัตราส่วนทองคำ และถูกยกย่องให้เป็นภาพวาดผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก

การใช้งาน Fibonacci Retracement

การประยุกต์ใช้ Fibonacci ในการวิเคราะห์จะมีระดับราคาสำคัญดังนี้คือ 0, 23.6, 38.2, 50, 61.8, 78.6, 100, 127, 161.8 และมักจะนำมาใช้งานกับกลยุทธ์ต่างเช่น Dow Theory, Chart Patterns, Elliot waves, Harmonic Pattern เพื่อหาตัวอย่างการพักตัวและเป้าหมายของราคาซึ่งมีความสอดคล้องกันอย่างน่าอัศจรรย์มาก และ นักเทรดทั้งหลายก็ได้นำมาเป็นเครื่องมือหลักในการวิเคราะห์กันจำนวนมาก 

 

ก่อนที่จะเริ่มต้นการลากหรือ Fibonacci คุณควรจะมีพื้นฐานของการดูแล้วโน้มกันสักหน่อยเพื่อจะได้รู้ว่ากำลังใช้งานเพื่อหาสิ่งใดโดยอาจใช้เครื่องมือการดูแนวโน้มอื่นๆประกอบเช่น Trendline MA 

การหาแนวโน้มด้วย Fibonacci ในช่วงสภาวะขาขึ้น

fibonacci Retracement uptrend Goo Invest Trade

การลากเส้นหรือตีเส้นในช่วงตลาดขาขึ้นนั้นให้วางแนวค่า 0 ที่บริเวณสวิงโลว์ และ วางแนวค่า 100 ที่สวิงไฮ โดยมีแนวรับสำคัญที่บริเวณ 38.2 – 61.8 โดยมีเป้าหมาย ที่ 127 และ 161.8

การหาแนวโน้มด้วย Fibonacci ในช่วงสภาวะขาลง

fibonacci Retracement downtrend Goo Invest Trade

การลากเส้นหรือตีเส้นในช่วงตลาดขาขึ้นนั้นให้วางแนวค่า 0 ที่บริเวณสวิงไฮ และ วางแนวค่า 100 ที่สวิงโลว์ โดยมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 38.2 – 61.8 โดยมีเป้าหมาย ที่ 127 และ 161.8

Facebook
Twitter
Categories
Technical Analysis การลงทุน

Bollinger Bands

Bollinger Bands

Bollinger Bands เป็น Indicator หนึ่งที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในวงการ การเทรดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น หุ้น Futures ทองคำ น้ำมัน หรือ แม้แต่ Forex เนื่องจากมีประโยชน์หลากหลายและสามารถพลิกแพลงเทคนิคให้แปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย John Bollinger ในช่วงปี 1980s เป็นหนึ่งในนักวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีชื่อเสียงของโลก 

จุดประสงค์หลักของมันมีแนวคิดหลักคือการวัด “ความผันผวน” ของตลาด ซึ่งนิยมจัดให้เป็นเครื่องมือ “Technical Analysis” ในกลุ่ม Trend หรือใช้เพื่อเทรดในตลาดที่มีแนวโน้ม แต่ในขณะเดียวกันมันยังสามารถหาก Overbought และ Oversold ได้อีกด้วย โดยการสร้าง “Band” หรือกรอบราคาขึ้นมาอีก 2 เส้น ซึ่งช่วยหาจุดเข้าออกให้นักเทรดไปด้วยในเวลาเดียวกัน โดยส่วนประกอบของ Bolinger Band จะประกอบไปด้วยเส้นทั้งหมด 3 เส้นคือ

  1. เส้น Moving Average period20 เป็นค่ากลาง
  2. เส้น Upper Band
  3. เส้น Lower Band
bollinger Bands Goo invest trade

สูตรการคำนวณ

สำหรับการคำนวณ Bollinger Band นั้น สามารถสร้างได้ด้วยสูตรง่าย ๆ แบบ Excel หรือการคำนวณด้วยโปรแกรม MT4 โดยเราต้องเห็นภาพของหลักการก่อน ดังนี้

 

BOLU=MA(TP,n)+m∗σ[TP,n]
BOLD=MA(TP,n)−m∗σ[TP,n]

BOLU คือสูตรของ Upper Bollinger Band
BOLD คือสูตรของ Lower Bollinger Band
MA=Moving average เส้นค่าเฉลี่ย
TP (typical price) ค่าราคาวันปัจุบัน =(High+Low+Close)÷3
n = ค่า period ของ MA (ปรกติ Bollinger Band จะใช้ค่า 20)
m = standard deviations ( ค่าที่ใช้ทั่วไปคือ 2 )
σ[TP,n]=Standard Deviation ค่าที่สร้างขึ้นมาเป็นกรอบระยะห่าง

การใช้งาน Bollinger bands

1. ดูแนวโน้มตลาด

Bollinger Bands Trend Goo Invest Trade
Bollinger Bands up trend Goo invest trade

Bollinger Bands แม้จะนิยมใช้ในการดูจังหวะ Overbought หรือ Oversold แต่ค่าพื้นฐานของ Bollinger Bands นั้นถูกสร้างขึ้นมาจาก MA หรือ Moving Average ซึ่งเป็นที่ยอมรับและใช้งานกันอย่างมากในการหาแนวโน้ม และ เส้น MA ก็ได้ถูกใส่ลองมาในเครื่องมือ Bollinger Band อีกด้วยนั่นคือเส้นตรงกลางของ Bolling Band 

 

กลยุทธ์

สามารถใช้กลยุทธ์พื้นฐานการหาแนวโน้มของ MA ในการเข้าออเดอร์ได้เลยเมื่อเข้าออเดอร์ได้แล้วสามารถปิดออเดอร์ทำกำไรบริเวณ Upper Band หรือ Lower Band ได้เช่น

  • แนวโน้มขาขึ้นให้เข้า Buy หรือ Long ที่บริเวณ MA และปิดออเดอร์ที่ Upper Band
  • แนวโน้มขาลงให้เข้า Sell หรือ Short ที่บริเวณ MA และปิดออเดอร์ที่ lower Band
 

2. Overbought Oversold

สัญญาณ Overbought Oversold Bollinger Bands Goo Invest Trade

Overbought บอกถึงสภาวะการซื้อมากเกินไป และ Oversold บอกถึงสภาวะการขายมากเกินไป หากราคาขึ้นไปบริเวณ Upper Band จะเป็นการแสดงถึงสภาวะการซื้อที่มากเกินไปมีโอกาศที่ราคาจะมีการพักตัวในไม่ช้า และ หากราคาขึ้นไปบริเวณ Lower Band จะเป็นการแสดงถึงสภาวะการขายที่มากเกินไปมีโอกาศที่ราคาจะมีการพักตัวในไม่ช้า

 

 

 กลยุทธ์
  • เข้าออเดอร์ Sell หรือ Short บริเวณ Upper Band  อาจใช้สัญญาณจาก กราฟแท่งเทียน เป็นตัวช่วยยืนยันจังหวะ การเกิดสัญญาณกลับตัวที่ปิดสูงกว่า Upper Band จะเป็นสัญญาณที่ดีกว่า การที่ราคาปิดต่ำกว่า Upper Band
  • เข้าออเดอร์ Buy หรือ Long บริเวณ Lower Band  อาจใช้สัญญาณจาก กราฟแท่งเทียน เป็นตัวช่วยยืนยันจังหวะ การเกิดสัญญาณกลับตัวที่ปิดตำกว่า Lower Band จะเป็นสัญญาณที่ดีกว่า การที่ราคาปิดสูงกว่า Lower Band

3. ใช้เป็น แนวรับ แนวต้าน

แนวรับ แนวต้าน Bollinger Bands Goo Invest Trade

เมื่อตลาดอยู่ในช่วงแนวโน้มที่เป็น Sideway สามารถใช้ Lower Band และ Upper Band เป็นแนวรับและแนวต้านได้ ซึ่งจะสังเกตุได้ว่าในช่วงที่ Sideway เส้น Upper Band และ Lower Band จะบีบเข้าหากันและเคลื่อนไหวไปในแนวระนาบหรือยังไม่มีการขึ้นลงที่ขัดเจน โดยให้เส้น Upper Band = ทำหน้าที่เป็นแนวต้าน และ  Lower Band = ทำหน้าที่เป็นแนวรับ.

 

กลยุทธ์

  • เข้าออเดอร์บริเวณที่เป็นแนวรับแนวต้านหรือบริเวณเส้น Upper Band หรือ Lower Band อาจใช้สัญญาณจาก กราฟแท่งเทียน เป็นตัวช่วยยืนยันจังหวะ การเข้าออเดอร์โดยเข้า Sell หรือ Short บริเวณ แนวต้าน และ เข้า Buy หรือ Long บริเวณ แนวรับ
  • Breakeout หรือการที่ราคาวิ่งหลุดแนวต้านขึ้นไป หรือ ราคาวิ่งหลุดแนวรับลงมาเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่มักใช้กับบริเวณ แนวรับ แนวต้าน เข้าออเดอร์โดยเข้า Sell หรือ Short เมื่อราคาวิ่งหลุดแนวรับลงมาเป็นการ Follow trend ขาลง หรือ เข้า buy หรือ Long เมื่อราคาวิ่งหลุดแนวต้านขึ้นมาเป็นการ Follow trend ขาขึ้น แล้วจึงใช้ เส้น MA หรือ Trend Line ช่วยหาแนวโน้ม

4. วัดความผันผวนของตลาด

Volume Bollinger Band Goo Invest Trade

Bollinger Bands สามารถบอกเราให้ทราบถึงความผันผวนและปริมาณการซื้อขายของตลาดว่า สถานะของตลาดเป็นยังไง มีการซื้อที่มากน้อยเพียงใดโดยจะแสดงออกโดยระยะห่างของเส้น Upper Band และ Lower Band หรืออยู่ในช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายน้อย โดยให้ประเมิณจากระยะหากของเส้น Upper Band และ Lower Band ถ้าหากเส้นมีลักษณะ บีบ ชิดเข้าหากัน เป็นช่วงแคบ นั้นหมายถึงตลาดมีปริมาณซื้อขายน้อย แต่ถ้าเส้นแยกออกห่างออกจากกัน แล้วอยู่ห่างๆ กันยิ่งมากเมื่อไหร่ นั้นหมายถึง ยิ่งมีปริมาณซื้อขายที่มากขึ้นเท่านั้น 

 

กลยุทธ์

  •  หากอยู่ในช่วงที่ Upper Band และ Lower Band บีบตัวเข้าหากกันหรืออยู่ในช่วงที่แคบแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ที่เหมือนกับ Sideway โดยทำกำไรในระยะสั้น
  • หากอยู่ในช่วงที่ Upper Band และ Lower Band ออกห่างจากกัน แนะนำให้ใช้กลยุทธ์ ที่เล่นตามแนวโน้มจะปลอดภัยกว่า หรือให้เข้าตอนตลาดพักตัวที่เส้น MA ซึ่งหมายถึงเส้นกลาง ของ Bollinger Band ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานในการเล่นกับแนวโน้มตามหลักการ MA
Facebook
Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Technical Analysis การลงทุน

Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator เป็น indicator ที่เหมาะกับการวิเคราะห์ในตลาด ที่เป็น Sideways รวมทั้งการลงทุน หรือเก็งกำไรในระยะสั้น สามารถจับเคลื่อนไหว หรือการแกว่งตาม momentum ได้เป็นอย่างดี แต่ไม่เหมาะในช่วงสภาวะตลาดที่มีแนวโน้ม

Stochastic ถูกคิดค้นและพัฒนามาโดย Dr. George C. Lane. เมื่อปี 1950 และเป็นหนึ่งใน Indicator ที่ได้รับนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งสามารถใช้งานได้ดีทั้งในตลาด Forex หุ้น รวมถึงสินค้าอื่นๆ อย่างเช่น ทองคำ น้ำมัน โดยนิยมนำไปใช้ในการหาจุดกลับตัวของและยังสามารถบอกภาวะการซื้อหรือขายที่มากไป Overbought  Oversold

ส่วนประกอบหลักในการใช้งาน

Stochastic Oscillator Goo Invest

Stochastic เป็น อินดิเคเตอร์ ที่เป็น ดัชนี หรือ Index ที่เป็นการชี้วัดการเคลื่อนที่ของตลาดโดยจะมีค่าต่ำสุดคือ 0 และสูงสุด 100 และจะมีเส้น Stochastic ที่เรียกกันว่าเส้น %K และมีเส้นค่าเฉลี่ยอีเส้นเป็นเส้น Signal หรือเส้น %D โดยเส้น %K หรือเส้น Stochastic จะมีสูตรดังนี้

%K = 100*(ราคาปิดวันนี้-ราคาต่ำสุด) / (ราคาสูงสุด-ราคาต่ำสุด)

การใช้งาน Stochastic Oscillator

1. Overbought Oversold

Stochastic Oscillator Overbought Oversold goo invest สัญญาณ Overbought Oversold

Overbought ของตัว Stochastic ก็จะมีลักษณะการ Overbought คล้ายกับการใช้งาน RSI Relative Strength Index คือดู “ปริมาณการซื้อที่มากเกินไป” ของพฤติกรรมราคาช่วงเวลานั้นแต่ต่างกันที่ระดับค่า Overbought ของ RSI จะอยู่ที่ 70 – 100 แต่ STO จะอยู่ที่ระดับ 80 – 100 ซึ่งหมายความว่ามีปริมาณการซื้อ มากเกินไป มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงมาได้สูง 

 

Oversold ของตัว Stochastic ก็จะมีลักษณะการ Oversold คล้ายกับการใช้งาน RSI Relative Strength Index คือดู “ปริมาณการขายที่มากเกินไป” ของพฤติกรรมราคาช่วงเวลานั้นแต่ต่างกันที่ระดับค่า Oversold ของ RSI จะอยู่ที่ 0 – 30 แต่ STO จะอยู่ที่ระดับ 0 – 20 ซึ่งหมายความว่ามีปริมาณการขาย มากเกินไป มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นมาได้สูง

 

2. การ Cross กันของเส้น %K และ %D

Stochastic Oscillator Signal Goo Invest

สัญญาณ Overbought และ Oversold อย่างเดียวอาจจะยังไม่ใช่สัญญาณเข้า ซื้อ ขาย ที่ดีนักอย่างที่ได้เกรินไปตั้งแต่ช่วงแรกว่า Stochastic เป็น Indicator ที่สามารถทำงานได้ดี ในช่วงตลาด  Sideway เพื่อป้องกันไม่ให้เราเข้าซื้อหรือขาย ที่เร็วเกินไปหลังจากเกิดสัญญาณ Overbought Oversold แล้วจึงให้เราเตรียมตัวการพักตัวเท่านั้น และให้การ Cross เป็นสัญญาณเข้าจะดีกว่า

เส้น %D ตัดเส้น %K ลงหลังจากที่ราคาเข้าไปอยู่ใน ZONE Overbought ให้ถือเป็นสัญญาณการขาย

เส้น %D ตัดเส้น %K ขึ้นหลังจากที่ราคาเข้าไปอยู่ใน ZONE Oversold ให้ถือเป็นสัญญาณการซื้อ

3. Stochastic Oscillator Divergence

RSI indicator Relative Strength Index Divergence type Goo Invest

สัญญาณ Divergence คือความขัดแย้งกัน ระหว่างราคากับการเคลื่อนไหวของ Sto โดยปรกติแล้วราคากับดัชนีจะต้องแกว่งไปในทิศทางเดียวกันแต่จะมีความปิดปรกติในช่วงบางเวลาที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างราคาและ Sto ซึ่งจะเรียกความขัดแย้งนี้ว่า Divergence

 

ความขัดแย้ง ในสภาวะขาขึ้นว่า Bearish Divergence

ความขัดแย้ง ในสภาวะขาลงว่า Bullish Divergence

Stochastic Oscillator Bearish Divergence goo invest
Stochastic Oscillator Bullish Divergence goo invest
Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
การลงทุน ธุรกิจ

Goo Invest Trade Copytrade

Goo Invest Copy Trade

สารบัญหน้า

Goo Invest Trade

Goo Invest Trade ขอต้อนรับนักลงทุนทุกท่าน เรายินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่ง ในการเป็นที่ปรึกษา เป็นแหล่งการเรียนรู้ หรือเสนอ แผนการออมเงินให้กับท่าน ไม่ว่าจะเป็นการออมใน สินทรัพย์ใด เราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้ท่านสามารถมีผลตอบแทนการออมในสินทรัพย์ ต่างๆ เราพยายามอย่างมากในการ พัฒนา ค้นหาสินทรัพย์ มาอย่างยาวนาน กว่า 10 ปีที่ผ่านมาเราได้เก็บเกี่ยวนักบริหารที่มีฝีมือในตลาดการลงทุนสินทรัพย์ทั่วโลกไว้มากมายเพื่อ ที่จะสร้างผลตอบแทนให้ท่านอย่างต่อเนื่อง และยังยังไม่หยุดที่จะค้นหา นักเทรด นักบริหารสินทรัพย์ มาเพื่อนำเสนอให้ท่านได้สามารถตัดสินใจเลือกในการสร้างผลตอบแทนให้คุณ

Goo invest copy trade 3

Copy Trade หรือ Social Trade ของ Exness คืออะไร

Copy Trade หรือ Social Trading คือ การคัดลอก (copy) คำสั่งซื้อ-ขายแบบอัตโนมัติ ที่คุณได้ติดตามเทรดเดอร์นั้นๆ โดยที่คุณสามารถทำกำไรได้โดย ไม่ต้องต้อง ซื้อ-ขายด้วยตัวเอง แปลได้ง่ายๆว่า คุณได้ copy การชื้อขายจากเทรดเดอร์ไว้ และเวลาที่เทรดเดอร์คนนั้น มีคำสั่งซื้อหรือขาย คำสั่งซื้อของคุณ ก็จะถูกซื้อขายตามเทรดเดอร์คนนั้นอัตโนมัติ copy trade จึงเหมาะกับผู้ที่อยากลงทุน แต่ยังไม่มีความรู้หรือเทคนิคในการเทรดของตัวเอง ซึ่งสำหรับผู้เริ่มต้นลงทุนใหม่อาจเสียเวลาเรียนรู้เป็นเวลานานกว่าที่จะทำกำไรได้ Social Trade จำเป็นทางเลือกที่ดีในการเริ่มต้นลงทุน ในระหว่างที่คุณกำลังศึกษาเทคนิคการเทรดด้วยตัวเอง ทำให้คุณสามารถทำกำไรจากตลาดได้ทันทีระหว่างการเรียนรู้ของคุณ ถือเป็นทางเลือกอีกทางที่น่าสนใจสำหรับมือใหม่ และเรียนรู้ไปพร้อมๆกับเทรดเดอร์

Goo invest copy trade 2

รู้ก่อน copy trade

ก่อนที่คุณจะลงทุน หรือ เลือก Copy Trade กับใคร สิ่งที่คุณต้องหาข้อมูลหรือต้องคำนึงเป็นสิ่งแรกเลยคือ เค้ามีศักยภาพพอหรือไม่ เค้าสร้างกำไรได้จริงหรือไม่ บางทีอาจจะโชว์แค่กำไรในส่วนที่ได้ ไม่ได้โชว์ในส่วนที่ขาดทุนบางครั้งถ้าดูไม่ดีแล้วลงทุนไปคุณอาจจะขาดทุนจนต้องล้างพอร์ตก็ได้ ความเสี่ยงในการเข้าซื้อ-ขายของเค้าเสี่ยงแค่ไหน เพราะถ้าเสี่ยงพอร์ตคุณเองก็เสี่ยงเหมือนกัน หรือ เงื่อนไขต่างๆว่าคุณสามารถรับได้ไหม เช่น ค่าบริการเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ คุณรับได้หรือไม่ และอีกสิ่งหนึ่งนั้นก็คือ ระบบการฝากถอน ต้องถอนเงินออกมาได้ และไม่ล่าช้า หรือ ไม่ซับซ้อน และต้องดูเงื่อนไข ว่าตรงกับสิ่งที่คุณต้องการหรือไม่ และโบรคเกอร์ ควรเป็นที่รู้จักและไว้ใจได้ ตรวจสอบได้

ข้อดีของ Copy Trade

  • ลงทุนได้ระหว่างที่คุณเริ่มต้นเรียนรู้ เทคนิคต่างๆ เพราะเครื่องมือในการเทรดนั้นมีเยอะมาก กว่าจะเข้าใจ หรือหาเครื่องมือที่เหมาะกับตัวเองต้องใช้เวลาศึกษาเป็นเวลานานและ การลองผิดลองถูกอีกพอสมควรเลย
  • มีการจัดการความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ ไม่ต้องเสียเวลาคิดคำนวน ความเสี่ยง เนื่องจากการเทรดแน่นอน มันมีความเสียงที่คุณต้องคิดคำนวน และต้องใช้การตัดสินใจที่ค่อนข้างยาก ทำให้เรากังวลการเข้าเทรด หรือบางทีอาจจะเสียโอกาศนั้นไปเลยก็ได้
  • ไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าหน้าจอ เฝ้ากราฟ แน่นอน ไม่ว่าจะใคร มือเก่าหรือมือใหม่ คุณอาจจะต้องติดตามกราฟ ยิ่งมือใหม่แล้วยิ่งติดตามจนแทบจะไม่ได้ทำอะไรกันเลย แทบจะตลอดเวลา เพื่อเฝ้าดูการเติบโตหรือการเปลี่ยนแปลง หรือบางที คุณจะอยู่กับมันแบบนั้นทั้งวัน และไม่แน่คุณอาจจะพลาดอะไรหลายๆในชีวิตคุณไป ถ้าเลือกใช้ Copy Trade คุณจะได้มีเวลาทำอะไรอย่างอื่นอีกมากมาย
  • เงินปลอดภัยด้วยการนำเงินเข้าบัญชีเทรดส่วนตัวของท่าน โดยไม่ผ่านคนกลาง หรือ บัญชีบุคคลอื่น
  • สามารถติดตามการเทรด หรือ ยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ

ออมเงิน ยังไงให้ได้ ประสิทธิภาพและ ผลตอบแทนสูง

กราฟ ออมเงิน ดอกเบี้ยทบต้น goo invest

หลายท่านอาจเคยได้ยินคำว่าดอกเบี้ยทบต้นกันมาบ้าง แต่ส่วนใหญ่คงรู้จักมันในฐานะของลูกหนี้และรู้กันดีว่าดอกเบี้ยทบต้นนั้นเจ็บปวดแค่ไหน แต่หากเรานำมาในการสร้างผลตอบแทนให้เรามันจะทรงพลังเพียงใด

ยกตัวอย่างว่า ท่านมี เครื่องมือการ ลงทุนหรือ ธุรกิจ ใดที่ สร้างผลตอบแทน ให้ท่านได้เพียง 3% ต่อเดือน ท่านสามารถ วางแผนการออมเงินได้

ตัวอย่างเช่น ออมเงิน เดือนละ 1,000 บาท ต่อเนื่อง 20เดือน คิดเป็นเงินทุน 20,000 บาท และภายใน 36 เดือน เงินต้นพร้อมผลตอบ แทนที่ท่านได้รับจะกลายเป็น 44,413 บาท หรือคิดเป็น 122.06%

ซึ่งบริการ Copy Trade ของเราก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่สามารถสร้างผลตอบแทนต่อเดือนได้เฉลี่ย 2-3% จากสถิติในช่วงที่ผ่านมา ท่านสามารถศึกษา รายละเอียดประวิติ การซื้อขายสถิติการเทรดของเราได้อย่างละเอียด หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เจ้าหน้าที่ของเราผ่านทาง Line OA

ตารางดอกเบี้ยทบต้น goo invest

ขั้นตอนการ Copy Trade

ขั้นตอนสำหรับการ Copy Trade ด้วยระบบ Social Trade 

หากท่านมีบัญชีเทรดกับ Exness แล้วท่านสามารถติดตั้ง App จากหน้าเว็บโดยเลือกที่เมนู Social Trade หรือคัดลอกการซื้อขาย

 

หลังจากดำเนินการติดตั้ง App Social Trade เรียบร้อย ให้ท่านกดลิ้ง Master ของเราและกด คัดลอกการซื้อขาย

เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถ Copy การซื้อขายจากเราได้แล้ว

ติดต่อเราสอบถามเพิ่มเติม

Line Official Account : @gooinvesttrade

หากท่านยังไม่มีบัญชีเทรดกับทาง  Exness ท่านจะต้องเปิดบัญชีส่วนบุคคลกับโบรคเกอร์ Exness ก่อน โดยกด สมัครที่นี่ และมีขึ้นตอนการสมัครดังนี้ หากท่านมีบัญชีเทรดกับ Exness แล้วให้ข้ามไปขั้นตอนนี้และทำรายการก่อนหน้าได้ทันที  หรือหากต้องการย้าย IB เพื่อรับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม กรุณาติดต่อเรา

Line Official Account : @gooinvesttrade

หลังดำเนินการสมัครเรียบร้อยแล้วให้ท่านดำเนินการนำเงินเข้าไปที่ Social Trade ติดตั้ง App จากหน้าเว็บโดยเลือกที่เมนู Social Trade ให้ท่านติดตั้งและกดดำเนินการฝากเงินผ่าน App Social Trade

หลังจากดำเนินการฝากเงินเข้า Social Trade เรียบร้อยให้ท่านกดลิ้ง Master ของเราและกด คัดลอกการซื้อขาย

เพียงเท่านี้ท่านก็สามารถ Copy การซื้อขายจากเราได้แล้ว

ติดต่อเรา

Line Official Account : @gooinvesttrade

Categories
Technical Analysis การลงทุน

RSI indicator Relative Strength Index

RSI Indicator

RSI  Relative Strength Index พัฒนาโดย J.Welles Wilder โดยมีการพัฒนามาจาก ค่าความสัมพันธ์สัมพัทธ์เริ่มต้น หรือ RS เป็น Indicator ที่จัดว่าอยู่ในกลุ่ม Oscillator ที่เทรดเดอร์สาย Technical Analysis นิยมใช้กันอย่างกว้างขวาง ประสิทธิภาพของมันเป็นที่ยอมรับในวงการเทรดทั่วโลก โดย RSI จัดอยู่ในหมวด Indicator ประเภท Momentum ที่เป็นดัชนีชี้ความแข็งแรง และการแกว่งของราคา หลายคนจะรู้จัก RSI มีดีเพียงแค่ ในช่วงตลาด Sidewat โดยไว้ใช้สำหรับดู Overbought  Oversold เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยหา Divergence หรือจะใช้วัดการแกว่งของตลาดตอนมี แนวโน้ม ได้อีกด้วย และมันเป็นประโยชน์อย่างมากในการเทรดสำหรับเทรดเดอร์

สูตรการคำนวณ RSI

การคำนวณของ  RSRelative Strength Index คือ การวัดอัตราส่วนของ ” ขาขึ้น ” เปรียบเทียบกับราคา ” ขาลง ” ในช่วงเวลาหนึ่ง ว่า มีการเพิ่มขึ้น หรือลดลงของราคามากกว่ากันในช่วงเวลาหนึ่ง โดยจะแสดงผลออกมาเป็น ดัชนี Index 0-100 เปรียบเทียบว่า ในช่วงเวลาหนึ่ง ของขาขึ้นกับขาลงว่าแนวโน้มใดแข็งแกร่งกว่ากัน จึงตั้งชื่อว่า “Relative Strength” 

ก่อนที่จะคำนวณสูตร RSI ได้ เราต้องได้ รู้จักค่า RS ก่อน ค่า RS คือค่าความสัมพันธ์สัมพัทธ์ โดยได้มาจากการคำนวณ ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 14 วัน ที่ราคาปิด ซึ่งจะแยกเป็นการนับจากเฉลี่ยย้อนหลัง ของวันที่ขึ้น กับค่าเฉลี่ยของวันที่ลง

 

สูตร RS = ค่าเฉลี่ยวันขึ้น 14วันย้อนหลัง/ค่าเฉลี่ยวันลง 14วันย้อนหลัง

 

ตัวเศษ : ค่าเฉลี่ยย้อนหลังของวันที่ขึ้น (14 วัน ย้อนหลัง มีขึ้นกี่วัน ก็ใช้ค่านั้นมาคำนวณ)
ตัวส่วน : ค่าเฉลี่ยย้อนหลังของวันที่ลง (14 วัน ย้อนหลัง มีลงกี่วัน ก็ใช้ค่านั้นมาคำนวณ)

จากสูตร RS J.Welles Wilder  ได้พัฒนามาเป็น สูตรสำหรับตัวบ่งชี้ RSI ค่า RSI ที่แท้จริง จะอยู่ในรูปของดัชนี Oscillator ซึ่ง RSI Formula ของการแปลงเป็นดัชนี จะมีสูตรดังนี้

สูตร RSI = 100 – (100 /1 + RS)

การใช้งาน RSI Indicator

RSI indicator Relative Strength Index Goo Invest

ก่อนจะได้รู้จักการใช้งาน  RSI  Relative Strength Index เราต้องรู้จักส่วนประกอบต่างๆของมันเสียก่อน และหากท่านยังไม่มีโปรแกรม กราฟ MT4 สามารถ โหลดฟรีที่นี่ ซึ่งที่ได้แนะนำไปจะเป็นส่วนประกอบหลัก ที่นำมาใช้ในการอ่านค่าแก่

  •  เส้น RSI
  • เส้นระดับราคา 30
  • เส้นระดับราคา 70
ซึ่ง 3 ส่วนประกอบนี้ จะเป็นส่วนประกอบหลักที่จะใช้ อ่านสัญญาณที่จะได้เกิดขึ้นดังต่อไปนี้

1. สัญญาณ Overbought และ Oversold

RSI indicator Relative Strength Index Overbought Oversold Goo Invest สัญญาณ Overbought Oversold

Overbought บ่งบอกถึงสภาวะตลาด ที่มีการซื้อมาเกินไป เป็นสัญญาณว่า ราคาจะมีการปรับตัวลง หรือ เป็นจุดขาย โดยการอ่านสัญญาณ Overbought ใน RSI นั้นเกิดขึ้นเมื่อระดับค่า RIS อยู่ที่ระดับ 70 หรือสูงกว่า

Oversold บ่งบอกถึงสภาวะตลาด ที่มีการขายมาเกินไป เป็นสัญญาณว่า ราคาจะมีการปรับตัวขึ้น หรือ เป็นจุดซื้อ โดยการอ่านสัญญาณ Oversold ใน RSI นั้นเกิดขึ้นเมื่อระดับค่า RIS อยู่ที่ระดับ 30 หรือต่ำกว่า

2. สัญญาณ Divergence

RSI indicator Relative Strength Index Divergence type Goo Invest

สัญญาณ Divergence คือความขัดแย้งกัน ระหว่างราคากับการเคลื่อนไหวของค่า RSI เกิดขึ้นทั้งในสภาวะขาขึ้น และ สภาวะขาลง 

 

ความขัดแย้ง ในสภาวะขาขึ้นว่า Bearish Divergence

ความขัดแย้ง ในสภาวะขาลงว่า Bullish Divergence

RSI indicator Relative Strength Index Bearish Divergence Goo Invest

การอ่าน Trend หรือ แนวโน้ม ด้วย RSI Indicator

RSI indicator Relative Strength Index การอ่านแน้วโน้ม Trend Goo Invest

ใช่คุณฟังไม่ผิด แน่นอน หลายคนอาจไม่ทราบ หรือ ว่า RSI Relative Strength Index สามารถช่วยอ่าน แนวโน้มตลาดได้ ไม่ใช่แค่ อินดิเคเตอร์ Trend อย่าง MACD TRENDLINE หรือ MA อาจฟังดูแปลก เพราะหลายคน อาจทราบเพียงว่า RSI ใช้ช่วยหา  Overbought และ Oversold แต่ RSI มันสามารถทำได้ดีกว่านั้น อย่างที่ทราบกันดีว่า RSI นั้นเป็น Indicator ที่มีไว้จับการแกว่าง ของตลาด หรือ Momentum ดังนั้นการที่ Momentum แกว่งไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง มันจึงเกิดเป็นแนวโน้มเกิดขึ้น โดยการอ่านนั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อน

  • แนวโน้ม ขาขึ้นค่าของ RSI จะไม่ลงต่ำกว่า ค่า RSI 30 และจะแกว่งไปในทิศทาง Overbought อย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณ แนวโน้มขาขึ้น
  • แนวโน้ม ขาลงค่าของ RSI จะไม่ขึ้นสูงกว่า ค่า RSI 70 และจะแกว่งไปในทิศทาง Oversold อย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณ แนวโน้มขาลง
Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
การลงทุน ข่าวหุ้น ธุรกิจ

PTT OR IPO ใหม่ มาแรง

PTTOR IPO ใหม่ มาแรงทำระบบ แบงค์ล่ม

PTT OR IPO ใหม่ มาแรง หรือ OR  บริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  IPO ใหม่ มาแรงทำระบบ แบงค์ ที่เปิดให้จองซื้อหุ้น OR ล่ม ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 ใน วันเปิดจองวันแรก โดยที่เสนอขายครั้งแรก ที่ราคา 18 บาท / หุ้น แต่อย่างใดระบบก็สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปรกติ และจะสิ้นสุดการดำเนินการขายวันที่ 2 ก.พ. 2564

PTT OR IPO ใหม่ มาแรง ข่าว หุ้น ลงทุน PTTOR OR เปิดจองวันแรก IPO ราคาหุ้น ปตท ค้าปลีก OR GOO Invest

โดยการจัดสรรหุ้นแบบ small lot first คือผู้จองซื้อจำนวนน้อยได้รับการจัดสรรหุ้นก่อน กำหนดให้จองซื้อขั้นต่ำ 300 หุ้น ราคาหุ้นล่ะ 18 บาท เป็นเงิน 5400 บาท ถ้ามีหุ้นเหลือก็จัดสรรเพิ่มให้แต่ละรายเท่ากันจนกว่าหุ้นจะหมด

 

ครั้งนี้ เสนอขายหุ้น ipo ไม่เกิน 3000ล้านหุ้น ราคาหุ้นล่ะ 18 บาท และหุ้นจะออกเสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก 2,610 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 22.5 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายได้แล้วของ OR 

หุ้นสำรองไว้ที่ 390 ล้านหุ้น โดยจะนำออกขายเพิ่มเติมหากหุ้นไม่เพียงพอต่อการขาย แต่มีการจัดสรรให้นักลงทุนรายย่อย เพียง 300 ล้านหุ้น เท่านั้นทำให้นักลงทุน ต่างเข้าไปแย่งกัน จองซื้อหุ้น กันเป็นจำนวนมาก นับว่า PTT OR IPO ใหม่ มาแรง จริงๆ สำหรับ นักเทรดหุ้น สายเทคนิค อาจต้องรอหลังขึ้นกระดานกันก่อน

 

กระทั่งทำให้ระบบเว็บธนาคารที่ให้บริการจองซื้อหุ้นสัญญานล่ม ทำให้จองซื้อหุ้นไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามระบบสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปรกติแล้ว และยังมีเวลาจองซื้อหุ้นถึงวันที่ 2 ก.พ.2564 ท่านใดสนใจศึกษา OR เพิ่มเติมลองเข้าไปดูกันที่เว็บ https://www.pttor.com/th

PTTOR ทำอะไรบ้างหลายคนอาจจะสงสัย วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง บริษัท ปตท.นำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ ที่เราเรียกกันว่า pttor เป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก และถือว่า หุ้นipo ตัวนี้ เป็นหุ้นแห่งปีเลยก็ว่าได้ จะมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 2700ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญให้แกผู้ถือหุ้นเดิมของ ปตท. ไม่เกิน300ล้านหุ้น เรามาทำความรู้จัก กับ PTTOR กันดีกว่าว่า เค้าทำธุรกิจอะไรบ้าง ผลประกอบการ รายได้ของแต่ละธุรกิจเป็นอย่างไรกันบ้าง และ อนาคตของ PTTORนั้นจะพัฒนาไปในรูปแบบใด

ธุรกิจน้ำมัน

แน่นอนว่า ธุรกิจแรกของ ปตท.ต้องเป็นการค้าที่เกี่ยวกับน้ำมัน และสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเลย สถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่ครอบคลุมทั้วประเทศ มีจำนวนสถานีถึง 1,900 สาขา ซึ่งถือว่าเป็นปั้มที่มีจำนวนเยอะที่สุด ในประเทศเราแล้ว และเป็นปั้มที่ทันสมัย พร้อมการปรับตัวหรือการพัฒนาสู่อนาคต ในเรื่องของ พลังงานไฟฟ้า ที่ตอนนี้คนหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งปตท.นั้น ก็ติดตั้ง อุปกรณ์ สายชาร์ต ที่ทันสมัย และชาร์ตได้รวดเร็วตามความต้องการในอนาคต ซึ่งตอนนี้ติดตั้ง ไปแล้วประมาณ 14 สถานี ซึ่งอนาคตที่ปตท. มีเป้าหมายติดตั้ง ให้ครอบคลุมทั้วประเทศ เพื่อ ตอบสนองความต้องการ หรือ การให้บริการ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และนอกจากนี้ pttor ยังจำหน่ายผลิตภัฌฑ์ ปิโตเลียม เชิงพานิชย์ ให้กับกลุมธุรกิจ อากาศยาน อุตสาหกรรม เรือขนส่งสินค้า ไปจนถึง PTT LPG ผลิตภัณฑ์ น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricants และศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ซึ่งผลกำไรของการทำธุรกิจน้ำมันนั้นตกเป็นเงินประมาณ 291,764.65 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ของ PTTOR

ธุรกิจค้าปลีกสินค้า หรือ Non-oil

ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่เราเห็นหลักๆในทุกๆสถานี ได้แก่ Cafe Amazon / Texas Chiken / Hua Seng Hong Dimsum และ Pearly Tea ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ Jiffy ซึ่งเป็นธุรกิจลองลงมา ซึ่งทำกำไรให้กับ PTTOR ไม่น้อยเลยทีเดียวโดยมูลค้า ของธุรกิจนี้สูงถึง 11,690.81 ล้านบาท ถือได้ว่า PTTOR เห็นช่องทางและโอกาศที่ดี ที่ทำธุรกิจควบคู่กันไป จึงทำให้สถานีบริการของ ปตท. นั้น ครบครันทั้งเครื่องดื่ม อาหาร ร้านสะดวกซื้อ เพราะนอกจากคนที่แวะเข้ามาใช้บริการเติมน้ำมันแล้วนั้น ก็มีอีกหลายคนที่แวะเข้ามาพัก ทานข้าว หรือซื้อเครื่องดื่ม เช่นกาแฟ เป็นต้น

 

ธุรกิจในต่างประเทศ

และเป็นการต่อยอดของ PTTOR ทีประสบความสำเร็จในธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station Cafe Amazon / Jiffy / และ FIT Auto ในประเทศไทย ซึ่ง PTTOR มีศักยภาพ พอที่จะพัฒนาหรือขยายธุรกิจ ออกๆไปให้กว้างกว่าเดิม โดยการขยายสถานีบริการน้ำมันในต่างประเทศ พร้อมกับธุรกิจค้าปลีก ที่เราพูดถึงเมื่อข้างต้น โดยเริ่มต้นจาก ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆเราเช่น ประเทศ ลาว / กัมพูชา / มาเลเชีย / เมียนม่า / ฟิลิปปินส์ / ญี่ปุ่น / สิงคโปร์ / โอมาน และประเทศจีน ซึ่งมีรายได้จากตัวเลขอ้างอิง ประมาณ 15,845.98 ล้านบาท ซึ่งถ้ามองดูแล้ว ก็ถือได้ว่า PTTOR ได้ก้าวเข้าสู่ประตูแห่งความสำเร็จไปอีกขั้นแล้วนั้นเอง

และในขณะเดียวกัน ผลประกอบการโดยรวมของ PTTOR อ้างอิงข้อมูลล่าสุดปี 2561 มีรายได้รวมที่ 500,000ล้านบาท และกำไรสุทธิ ที่ประมาณ 7,900 ล้านบาท เมื่อคิดเป็นมาจิ้นแล้วจะอยู่ที่ 1.58% ซึ่งดูตัวเลขแล้วค่อนข้างน้อย แต่เมื่อเทียบกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอื่นๆ ตัวเลขระดับนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจน้ำมัน

ธุรกิจที่ PTT OR ให้ความสนใจและร่วม ธุรกิจในอนาคต

นั้นก็คือในเรื่องของแบตเตอร์รี่ ซึ่งเป็นหัวใจหลักหรือหัวใจสำคัญของรถ ที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า แบตเตอร์รี่ตัวไหน ใช้ทนทานกว่า ใช้ได้นานกว่า หรือทำให้รถวิ่งๆได้ไกลกว่า ทำให้ or ได้จับมือกับ GPSC และหลายคนต้องสงสัยกับ GPSC ว่าเค้าทำธุรกิจอะไร GPSCนั้นเป็นบริษัทที่พัฒนาพลังงานทดแทน หรือพลังงานไฟฟ้า แบตเตอร์รี่ ต่างๆ

 

รวมกระทั้งเครื่องกักเก็บพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ เช่นพลังงานแสงอาทิตย์ และ or เล็งเห็นว่า คนเริ่มหันมาใส่ใจโลกมากขึ้น หันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นจึงเป็นเรื่องดีที่ or และ GPSC ร่วมกันพัฒนา เพื่อเป็นผู้นำในการให้บริการพลังลังงานทั้งพลังงานจากปิโตเลียม จนไปถึงพลังงานสะอาดอย่างพลังงานไฟฟ้า และลดต้นทุนในการชื่อจากต่างประเทศ จึงร่วมมือกันพัฒนา แบตเตอร์รี่ต้นแบบ semisolid ที่ให้กำลังไฟเยอะ แต่ต้นทุนแพง

 

ซึ่งor ได้ร่วมลงทุนกับ GPSCในการพัฒนาแบตตัวนี้ถึง 20ล้านเหรียญ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 600 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปี 2562 ตั้งแต่เดือนสิงหา ซึ่งเป็นเวลา เกือบสองปีที่ร่วมพัฒนา และตอนนี้ก็บอกได้เลยว่า ได้ทำต้นแบบของแบตเตอร์รี่ส่วนนี้สำเร็จแล้ว

 

ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าจะเริ่มผลิตเมื่อไหร่เท่านั้นเอง ซึ่งที่คาดการ น่าจะนำมาผลิตที่ประเทศไทย โดย ราคาอยู่ที่ 100us/kWh หรือ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 3000บาท/kWh เท่ากับที่ TESLA ทำเอาไว้ ซึ่งข่าวตอนนี้บอกว่าโรงงานผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขาดแต่เครื่องจักและการเซ็ตอัพ ซึ่งก็ติดปัญหาเรื่องของโควิด จึงทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือเดินทางมาเซ็ทอัพได้แต่อย่างไรนั้น ถ้าผลิตได้นั้น แน่นอนครับว่านอกจากที่ขายภายในประเทศแล้วนั้น ยังสามารถส่งออกได้ เนื่องจาก ทุกคนต่างต้องการเเท็คโนโลยีที่ดี และราคาที่สามารถสู้กับ เจ้าอื่นได้นั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของ or เลยทีเดียว

อีกหนึ่งธุรกิจของ or นั้นเป็นก้าวที่ใหญ่ และท้าทายเลยทีเดียวคือการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทาง orนั้นได้เดินทางไปคุยกับบริษัท รถยนต์ไฟฟ้า สัญชาติจีน ที่เป็นบริษัท น้องใหม่ที่มีกระแสมาแรงมากๆ นั้นก็คือ ค่าย WM motor หรือ WELTMEISTER ซึ่งไปเซ็นสัญญาต่างๆเรียบร้อยแล้ว ซึ่งบอกเลยว่า ค่ายWM motor เป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในหลายๆด่านไม่น้อยหน้าTESLA เลยทีเดียว ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับต้นๆของจีน แพ้ ค่าย NIO,Li Auto,Xpeng แค่นิดเดียว เท่านั้นเอง

นี้ถือเป็นโอกาสที่ดีของ or ที่จะพัฒนาธุรกิจ และสร้างผลกำไรในอนาคต และนี้เองคือเหตุผลที่ทำให้การเปิดขายหุ้น ของ PTT.OR เป็นกระแสที่มาแรง และมีคนสนใจเป็นจำนวนมาก แล้วถ้ามีข้อมูลอัพเดทหรือข่าวคราวเพิ่มเติมเราจะมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง

Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Technical Analysis การลงทุน ธุรกิจ

trend line เทรนไลน์

TREND LINE เทรนไลน์

trend line เทรนไลน์ เป็นอีกหนึ่ง เทคนิคการวิเคราะห์กราฟ ที่ได้รับความนิยม และ เทรดเดอร์ ทุกคนต้องรู้จัก ไม่แพ้ กราฟแท่งเทียน เป็นเครื่องมือหนึ่ง ในการช่วยหาแนวโน้ม หรือ แนวรับ – แนวต้าน แต่ เทรนไลน์ ไม่มีสูตรคำนวนที่ตายตัวว่า การตีเทรนไลน์ของแต่ละคนก็อาจแตกต่างไป ไม่มีถูกผิด ขึ้นกับประสบการณ์และการนำไปประยุคต์ใช้  แต่ก็มีหลักการพื้นฐานการตีเดียวกัน

 

การใช้งาน TREND LINE

การสร้างเส้น แนวโน้ม หรือ Trend Line มีประโยชน์เพื่อหา แนวโน้มตลาด ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพื่อนำมาประกอบในการวางแผนการเทรด โดยมีหลักการ ตีเส้นเทรนไลน์ หลักๆ ด้วยกัน 2 แบบคือ

1. แนวโน้มขาขึ้น Low to Higher Low

Trend Line เทรนไลน์ การตีเทรนไลน์ แนวโน้ม ขาขึ้น Low to Higher Low support แนวรับ Goo Invest

การตีเส้น เทรนไลน์ จากจุดต่ำ Low ไป หาจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น Higher Low เกิดขึ้นในช่วงสภาวะตลาด แนวโน้มขาขึ้น โดยแนวเส้นเทรนไลน์ จะอยู่ใต้ราคา และบริเส้นเทรนไลน์ จะถือว่าเป็นเส้น แนวรับ support line สำหรับใครที่เทรดด้วย Trend Line สามารถใช้เส้นเทรนไลน์เป็นตัวกำหนดกลยุทธ์เช่นใช้เข้า ออเดอร์ Buy ( Long ) บริเวณที่ราคาลงมาทดสอบเส้นแนวโน้ม หรือใช้เป็นเกณฑ์ ในขายทำกำไร เมื่อราคาลงต่ำกว่าแนวเส้น Trend Line

2. แนวโน้มขาลง High to Lower High

Trend Line เทรนไลน์ การตีเทรนไลน์ แนวโน้ม ขาลง High to Lower High Resistant แนวต้าน Goo Invest

การตีเส้น เทรนไลน์ จากจุดสูง High ไป หาจุดสูงที่ต่ำลง Lower High เกิดขึ้นในช่วงสภาวะตลาด แนวโน้มขาลง โดยแนวเส้นเทรนไลน์ จะอยู่ต่ำกว่าราคา และบริเส้นเทรนไลน์ จะถือว่าเป็นเส้น แนวต้าน resistance line สำหรับใครที่เทรดด้วย Trend Line สามารถใช้เส้นเทรนไลน์เป็นตัวกำหนดกลยุทธ์เช่นใช้เข้า ออเดอร์ Sell ( Short ) บริเวณที่ราคาขึ้นมาทดสอบเส้นแนวโน้ม หรือใช้เป็นเกณฑ์ ในขายทำกำไร เมื่อราคาขึ้นสูงกว่าแนวเส้น Trend Line

3. ไม่มีแนวโน้ม หรือ Sideway High to High , Low to Low

Trend Line เทรนไลน์ การตีเทรนไลน์ แนวโน้ม Sideway High to High Resistant แนวต้าน, Low to Low Support แนวรับ Goo Invest

การตีเส้น เทรนไลน์ จากจุดสูง High ไป หาจุดสูง High ในระดับเดียวกัน เกิดขึ้นในช่วงสภาวะตลาด แบบไม่มีแนวโน้มหรือ Sideway โดยแนวเส้นเทรนไลน์ จะอยู่เหนือราคา และบริเส้นเทรนไลน์ จะถือว่าเป็นเส้น แนวต้าน resistance line 

 

การตีเส้น เทรนไลน์ จากจุดต่ำ Low ไป หาจุดต่ำ Low ในระดับเดียวกัน เกิดขึ้นในช่วงสภาวะตลาด แบบไม่มีแนวโน้มหรือ Sideway โดยแนวเส้นเทรนไลน์ จะอยู่ใต้ราคา และบริเส้นเทรนไลน์ จะถือว่าเป็นเส้น แนวรับ Support line 

 

สำหรับใครที่เทรดด้วย Trend Line สามารถใช้เส้นเทรนไลน์เป็นตัวกำหนดกลยุทธ์เช่นใช้เข้า ออเดอร์ Sell ( Short ) บริเวณที่ราคาขึ้นมาทดสอบเส้น แนวต้าน Resistant หรือใช้เป็นเกณฑ์ ตัดขาดทุน เมื่อราคาขึ้นสูงกว่าแนวเส้น แนวต้าน Resistant ในทางกลับกันสามารถใช้เข้า ออเดอร์ Buy ( Long ) บริเวณที่ราคาลงมาทดสอบเส้น แนวรับ Support หรือใช้เป็นเกณฑ์ ตัดขาดทุน เมื่อราคาขึ้นสูงกว่าแนวเส้น แนวรับ support

ความชันของ Trend Line บอกความแข็งแรงของแนวโน้ม

หลายคนอาจได้ศึกษาเรื่อง Trend Line เทรนไลน์ มาอยู่บ้างแต่ทราบหรือไม่ว่า ความชันของเส้นแนวโน้ม มีผลของความแข็งแรงของเส้นเทรนไลน์ และสามารถบอกถึงแนวโน้มตลาดได้อีกด้วย โดยจะแบ่งได้หลักๆ 3 แนวโน้ม

Trend Line เทรนไลน์ ความชัน ความแข็งแรงของแนวโน้ม Goo Invest

1. แนวโน้มขาขึ้น

ความชันของเส้น Trend Line ขาขึ้น 1 – 45 องศา วัดจาก จุดที่หนึ่ง ไปยังจุดที่สอง ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นยังแบ่งย่อยระดับความชัน ลงได้อีก 3 ระยะ คือ 

  • ความชัน 1 – 5 องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาขึ้นแต่ยังไม่แข็งแรง มักเรียกแนวโน้มระดับความชันนี้ว่า Sideway Up
  • ความชัน 6 – 15  องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาขึ้น ที่มีความแข็งแรงและเส้นแนวโน้มในช่วงความชันนี้จะใช้งานได้ดี
  • ความชัน 16 – 45 องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาขึ้น ที่มีปริมาณซื้อขายปริมาณมากกว่าปรกติ เส้นแนวโน้มในช่วงความชันนี้จะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆเท่านั้นราคาอาจมีการทดสอบเส้นราคาเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้นก่อนที่จุดตัดเส้นแนวโน้มลง เหมาะกับคนที่เล่นใน ระยะสั้น

2. แนวโน้มขาลง

ความชันของเส้น Trend Line เทรนไลน์ ขาลง 315 – 359 วัดจาก จุดที่หนึ่ง ไปยังจุดที่สอง ในช่วงแนวโน้มขาลงยังแบ่งย่อยระดับความชัน ลงได้อีก 3 ระยะ คือ 

  • ความชัน 355 – 359 องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาลงแต่ยังไม่แข็งแรง มักเรียกแนวโน้มระดับความชันนี้ว่า Sideway Down
  • ความชัน 345 – 354 องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาลง ที่มีความแข็งแรงและเส้นแนวโน้มในช่วงความชันนี้จะใช้งานได้ดี
  • ความชัน 315 – 344 องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาลง ที่มีปริมาณซื้อขายปริมาณมากกว่าปรกติ เส้นแนวโน้มในช่วงความชันนี้จะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆเท่านั้นราคาอาจมีการทดสอบเส้นราคาเพียง 2-3 ครั้งเท่านั้นก่อนที่จุดตัดเส้นแนวโน้มขึ้น เหมาะกับคนที่เล่นใน ระยะสั้น

3. ตลาดไม่มีแนวโน้ม Sideway

ความชันของเส้น Trend Line แบบไม่มีแนวโน้ม หรือ Sideway 356 – 4 องศา วัดจาก จุดที่หนึ่ง ไปยังจุดที่สอง ในช่วงแนวโน้มขาลงยังแบ่งย่อยระดับความชัน ลงได้อีก 3 ระยะ คือ 

  • ความชัน 0 องศา ถือเป็นตลาดไม่มีแนวโน้ม หรือ Sideway 
  • ความชัน 1 – 5 องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาขึ้นเล็กน้อย แต่ยังไม่แข็งแรงถือว่ายังไม่มีแนวโน้มชัดเจน มักเรียกแนวโน้มระดับความชันนี้ว่า Sideway Up
  • ความชัน 355 – 359 องศา ถือเป็นแนวโน้มตลาดขาลงเล็กน้อย แต่ยังไม่แข็งแรง ถือว่ายังไม่มีแนวโน้มชัดเจน มักเรียกแนวโน้มระดับความชันนี้ว่า Sideway Down
Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Technical Analysis การลงทุน ธุรกิจ

กราฟแท่งเทียน Candlesticks

กราฟแท่งเทียน Candlesticks

กราฟแท่งเทียน ( Candlesticks ) เป็นรูปแบบการแสดงผลของกราฟราคาชนิดหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แท่งเทียนเพียงหนึ่งแท่ง สามารถบอกอะไรได้หลายอย่าง ทั้งยังสามารถสื่อถึงอารมณ์ หรือพฤติกรรมของนักเทรด ที่แสดงออกมาในรูปแบบของแท่งเทียน ซึ่งนั่นหมายความว่า มันสามารถบอกถึง ความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้น ในอนาคตได้ ด้วยตัวมันเอง รวมถึงยังมีการอ่านกราฟแบบหลายแท่ง ที่มีรูปแบบ ( Candlesticks pattern ) เป็นอีกหนึ่งประเภทกราฟที่ โปรแกรม MT4 มีให้บริการ และ สำหรับนักวิเคราะห์ แนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น เพราะ MT4 สมัครง่ายไม่ยุ่งยากมีให้โหลดใช้ได้ทั่วไป ท่านสามาถ ขอ Log in ฟรี จากผู้ให้บริการได้ต่างจากโปรแกรมสำหรับหุ้น ที่มีขั้นตอนมากกว่า จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเริ่มต้นศึกษา

กราฟแท่งเทียน หนึ่งแท่ง ประกอบไปด้วย

  • ราคาเปิด (Open Price) เป็นราคาซื้อขายแรกที่เกิดขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด
  • ราคาสูงสุด (High Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาสูงสุดในวันทำการ
  • ราคาต่ำสุด (Low Price) การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ณ ระดับราคาต่ำสุดในวันทำการ
  • ราคาปิด (Close Price) เป็นราคาสุดท้ายที่เกิดขึ้นจากการซื้อขายสิ้นสุดของวัน
  • ถ้าราคาปิด สูงกว่า ราคาเปิด แท่งเทียน สีเขียว
  • ถ้าราคาปิด ต่ำกว่า ราคาเปิด แท่งเทียน สีแดง
  • ระยะห่างระหว่างราคาเปิดและราคาปิดจะแสดงเป็นแท่งทึบเรียกว่า Body ( เนื้อเทียน )
  • ส่วนที่ราคาเคยวิ่งไประหว่างแท่งยังไม่ปิดที่เกินกว่าราคาเปิดและราคาปิดจะแสดงเป็นเส้นตรงทำมุมแนวตั้ง 90 องศา เรียก Shadow ( ไส้เทียน )
กราฟแท่งเทียน Candlesticks Goo Invest

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน candlestick pattern

การอ่าน สัญญาณ กราฟแท่งเทียน แบบเดี่ยว

สัญญาณแบบเดี่ยว Single เป็น การอ่านแบบกราฟ แบบแท่งสัญญาณเดียว โดยไม่ได้อ้างอิงจากแท่งสัญญาณก่อนหน้าแต่อ้างอิงจากแนวโน้มเดิม และตำแหน่งที่เกิดสัญญาณ โดยที่แต่ละสัญญาณจะมีชื่อเฉพาะตัวและสามาถบอกถึง ลักษณะรูปแบบการซื้อขาย ของทางนักลงทุน ที่สะท้อนพฤติกรรมกการซื้อขายหรือ หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าอารมณ์ตลาด ออกมาในรูป แบบของแท่งราคา

Hammer

กราฟแท่งเทียน Candlesticks shooting star Goo Invest.

รูปแบบการกลับตัวแบบแท่งเดี่ยว ที่เกิดขึ้นในช่วงสภาวะตลาดขาลง ลักษณะจะเป็นแท่งเทียนที่มี body สั้นๆ แต่จะมีใส้เทียนด้านล่าง ( lower shadow ) ยาวเป็นอย่างน้อยสองเท่าของ body ลักษณะคล้ายๆกับ Hanging Man แต่กลับกันที่ Hanging Man จะเกิดในช่วงสภาวะขาขึ้น 

 

สัญญา กราฟแท่งเทียน Hammer บอกได้ถึง มีปริมาณแรงขายในช่วงแรก แต่มีการซื้อกลับเข้ามา อย่างมากระหว่างวัน หรือ ในช่วงเวลาของแท่งเทียนนั้น ( Timeframe ) ส่งผลทำให้ มีโอกาส ที่จะมีแรงซื้อ เข้ามาต่อเนื่องในวัน หรือ แท่งเทียน ถัดไป

Invert Hammer

กราฟแท่งเทียน Candlesticks inverted hammer Goo Invest

รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้น ในช่วงภาวะตลาดขาลง ลักษณะ เป็นแท่งเทียนที่มี body สั้นกว่าไส้เทียน เป็น 1 ใน 3 ของ หางหรือไส้เทียนด้านบน ( Upper Shadow ) ที่มีความยาวอย่างน้อย 2 ใน 3 ของ Body และมีราคา ปิดสูง หรือ ปิดต่ำ กว่า ราคาเปิดก็ได้ ลักษณะคล้ายกับ Shooting star แต่ต่างกันที่ Shooting star เกิดในช่วงสภาวะขาขึ้น

 

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน Invert Hammer บอกถึง แรงซื้อที่มีเข้ามาในตลาดจำนวนมากซึ่ง ส่งผลทำให้ มีโอกาส ที่จะมีแรงซื้อ เข้ามาต่อเนื่องในวัน หรือ แท่งเทียน ถัดไป

Bullish Doji

กราฟแท่งเทียน Candlesticks bullish doji Goo Invest

รูปแบบการกลับตัว Bullish Doji เกิดขึ้น ในช่วงภาวะตลาดขาลง ลักษณะ เป็นแท่งเทียนแบบไม่มี Body เนื่องจากมีราคาเปิดและปิดที่ราคาเดียวกัน หรือใกล้กันมากจนกระทั่งมองเห็นตัว body และมีไส้ด้านบนและด้านล่างยาวใกล้เคียงกัน

 

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน Bullish Doji บอกถึง ความลังเลของตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายที่เท่ากัน ของวันนั้น หรือ แท่งเทียนแท่งวัน ในช่วง Timeframe นั้น มีโอกาส ที่ตลาดเข้าสู่การพักตัวจากแนวโน้มที่ลงมาอย่างต่อเนื่อง ในแท่งเทียน ถัดไป

Bearish Doji

กราฟแท่งเทียน Candlesticks bearish doji Goo Invest

รูปแบบการกลับตัว Bearish Doji เกิดขึ้น ในช่วงภาวะตลาดขาขึ้น ลักษณะ เป็นแท่งเทียนแบบไม่มี Body เนื่องจากมีราคาเปิดและปิดที่ราคาเดียวกัน หรือใกล้กันมากจนกระทั่งมองเห็นตัว body และมีไส้ด้านบนและด้านล่างยาวใกล้เคียงกัน

 

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน Bearish Doji บอกถึง ความลังเลของตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายที่เท่ากัน ของวันนั้น หรือ แท่งเทียนแท่งวัน ในช่วง Timeframe นั้น มีโอกาส ที่ตลาดเข้าสู่การพักตัวจากแนวโน้มที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในแท่งเทียน ถัดไป

Long Legged Doji

กราฟแท่งเทียน Candlesticks long legged doji Goo Invest

รูปแบบการกลับตัว Long Legged Doji เกิดขึ้น ในช่วงภาวะตลาดขาขึ้น ลักษณะ เป็นแท่งเทียนแบบไม่มี Body เนื่องจากมีราคาเปิดและปิดที่ราคาเดียวกัน หรือใกล้กันมากจนกระทั่งมองเห็นตัว body และมีใส้ด้านบนและด้านล่างยาวใกล้เคียงกัน แต่จะมีความยาวมาก มากกว่า Doji ธรรมมาดา

 

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน Long Legged Doji บอกถึง ความลังเลของตลาดที่มีปริมาณการซื้อขายที่เท่ากัน ของวันนั้น หรือ แท่งเทียนแท่งวัน ในช่วง Timeframe นั้น เช่นเดียวกับ Doji ธรรมดา แต่มีความผันผวนที่สูงมาก มีโอกาส ที่ตลาดเข้าสู่การพักตัวจากแนวโน้มที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในแท่งเทียน ถัดไป

Dragon Fly Doji

กราฟแท่งเทียน Candlesticks dragonfly doji Goo Invest

รูปแบบการกลับตัว Dragon Fly Doji เกิดขึ้น ในช่วงภาวะตลาดขาลง ลักษณะ เป็นแท่งเทียนแบบไม่มี Body เนื่องจากมีราคาเปิดและปิดที่ราคาเดียวกัน หรือใกล้กันมากจนกระทั่งมองเห็นตัว body และมีไส้ ด้านบนสั้นกว่า ด้านล่าง 

 

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน Dragon Fly Doji บอกถึง แรงขายจำนวนมากในระหว่างวันๆนั้น แต่ ก็ถูก แรงซื้อ จนกระทั้งกลับมาปิดบริเวณ ใกล้เคียงกับราคาเปิด ของวันนั้น หรือ แท่งเทียนแท่งวัน ในช่วง Timeframe นั้น แสดงถึงความผันผวน หรือความลังเลจากแนวโน้มเดิม และมีความผันผวนที่สูงมาก มีโอกาส ที่ตลาดเข้าสู่การพักตัวจากแนวโน้มที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในแท่งเทียน ถัดไป

Gravestone Doji

กราฟแท่งเทียน Candlesticks gravestone doji Goo Invest

รูปแบบการกลับตัว Gravestone Doji  เกิดขึ้น ในช่วงภาวะตลาดขาขึ้น ลักษณะ เป็นแท่งเทียนแบบไม่มี Body เนื่องจากมีราคาเปิดและปิดที่ราคาเดียวกัน หรือใกล้กันมากจนกระทั่งมองเห็นตัว body และมีไส้ยาว ด้านบน แต่ไม่มีไส้ด้านล่าง

 

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน Gravestone Doji รู้จักกันดีในชื่อว่า ” ป้ายหลุมศพ ” สัญลักษณ์ แห่งความโชคร้าย บอกถึง แรงซื้อจำนวนมากในระหว่างวันๆนั้น แต่ ก็ถูก แรงขาย ขายมาจำนวนมาก จนกระทั้งกลับมาปิดบริเวณราคาเปิด ของวันนั้น หรือ แท่งเทียนแท่งวัน ในช่วง Timeframe นั้น แสดงถึงความผันผวน หรือความลังเลจากแนวโน้มเดิม และมีความผันผวนที่สูงมาก มีโอกาส ที่ตลาดเข้าสู่การพักตัวจากแนวโน้มที่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ในแท่งเทียน ถัดไป

Hanging Man

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Hanging man Goo Invest

รูปแบบการกลับตัวแบบแท่งเดี่ยว ที่เกิดขึ้นในช่วงสภาวะตลาดขาขึ้น ลักษณะจะเป็นแท่งเทียนที่มี body สั้นๆ แต่จะมีไส้เทียนด้านล่าง ( lower shadow ) ยาวเป็นอย่างน้อยสองเท่าของ body ลักษณะคล้ายๆกับ Hammer แต่กลับกันที่ Hammer จะเกิดในช่วงสภาวะขาลง 

 

สัญญา กราฟแท่งเทียน Hanging Man บอกได้ถึง มีปริมาณแรงขายในช่วงแรกของวันหรือแท่งเทียนนั้น  แต่มีการซื้อกลับเข้ามา อย่างมากระหว่างวัน หรือ ในช่วงเวลาของแท่งเทียนนั้น ( Timeframe ) แสดงถึงความลังเลต่อแนวโน้มเดิมซึ่งอาจส่งผลทำให้พักตัวจากแนวโน้มเดิมได้ใน แท่งเทียน ถัดไป หรือวันถัดไป

Shooting star

กราฟแท่งเทียน Candlesticks shooting star Goo Invest

Shooting star รูปแบบการกลับตัวที่เกิดขึ้น ในช่วงภาวะตลาดขาขึ้น ลักษณะ เป็นแท่งเทียนที่มี body สั้นกว่าไส้เทียน เป็น 1 ใน 3 ของ หางหรือไส้เทียนด้านบน ( Upper Shadow ) ที่มีความยาวอย่างน้อย 2 ใน 3 ของ Body และมีราคา ปิดสูง หรือ ปิดต่ำ กว่า ราคาเปิดก็ได้ ลักษณะคล้ายกับ Invert Hammer แต่ต่างกันที่ Shooting star เกิดในช่วงสภาวะขาลง

 

สัญญาณ กราฟแท่งเทียน Invert Hammer บอกถึง แรงซื้อที่มีเข้ามาในตลาดจำนวนมากซึ่ง ส่งผลทำให้ มีโอกาศ ที่จะมีแรงซื้อ เข้ามาต่อเนื่องในวัน หรือ แท่งเทียน ถัดไป

การอ่าน สัญญาณ กราฟแท่งเทียน candlestick pattern

สัญญาณแบบ Pattern เป็น การอ่านแบบกราฟ แบบแท่งสัญญาณหลายแท่ง โดยอ้างอิงสัญญาณจากหลายแท่งมาประกอบกันเป็นรูปแบบ โดยจะให้ความสำคัญกับตำแหน่งที่เกิดสัญญาณด้วยเป็นการประกอบการตัดสินใจ โดยที่แต่ละสัญญาณจะมีชื่อเฉพาะตัวและการอ่านสัญญาณแท่งเทียน สามาถบอกถึง ลักษณะรูปแบบการซื้อขาย ของทางนักลงทุน ที่สะท้อนพฤติกรรมกการซื้อขายหรือ หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่าอารมณ์ตลาด ออกมาในรูป แบบของแท่งราคา

Piercing pattern

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Piercing pattern Goo Invest

Piercing pattern รูปแบบการกลับตัวที่อ่านสัญญาณ 2 แท่ง ในช่วงภาวะตลาดขาลง ลักษณะ เป็นแท่งเทียนที่มี body ปิดสูงกว่าแท่งเทียนก่อนหน้า ที่มีลักษณะขายเป็นแทงแดงยาวลงมาหรือราคาปิดต่ำกว่าราคาเปิดยาวลงมา และในแทงเทียนถัดมามีการเปิด Gap ลงพร้อมมีการซื้อกลับเข้ามาในปริมาณมาก แต่ราคาปิดต้องปิดได้ไม่น้อยกว่า 50% ของแท่งเทียนก่อนหน้า และมีไส้เทียนน้อย 

 

สัญญาณแท่งเทียน Piercing pattern หมายถึง มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดหรืออาจมีการทำกำไรจากนักลงทุนออกมาจากตลาดขาลงหรือมีการชลอการขายซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเข้าซื้อจากนักลงทุน ส่งผลให้ อาจมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องในวันถัดไปหรือแท่งเทียนถัดไป ซื้อ เข้ามาต่อเนื่องในวัน หรือ แท่งเทียน ถัดไป

Dark Cloud Cover

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Dark Cloud Cover Goo Invest

Dark Cloud Cover รูปแบบการกลับตัวที่อ่านสัญญาณ 2 แท่ง ในช่วงภาวะตลาดขาขึ้น ลักษณะ เป็นแท่งเทียนที่มี body ปิดต่ำกว่าราคาเปิด โดยแท่งเทียนก่อนหน้าที่มีลักษณะลงขายเป็นแท่งเขียวยาวหรือราคาปิดสูงกว่าราคาเปิดยาวขึ้นมาและในแทงเทียนถัดมามีการเปิด Gap ขายกลับเข้ามาในปริมาณมาก แต่ราคาปิดจะต้องปิดได้ไม่น้อยกว่า 50% ของแท่งเทียนก่อนหน้า และมีไส้เทียนน้อย 

 

สัญญาณแท่งเทียน Dark Cloud Cover หมายถึง มีแรงขายกลับเข้ามาในตลาดหรืออาจมีการทำกำไรจากนักลงทุนออกมาจากตลาดขาขึ้นหรือมีการชลอการซื้อซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการขายจากนักลงทุน ส่งผลให้ อาจมีแรงขายต่อเนื่องในวันถัดไปหรือแท่งเทียนถัดไป

Bullish Engulfing

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Bullish Engulfing Goo Invest

Bullish Engulfing รูปแบบการกลับตัวที่อ่านสัญญาณ 2 แท่ง ในช่วงภาวะตลาดขาลง ลักษณะ 

  •  แท่งแรกสีแดง มี body เล็กกว่าแท่งที่ 2
  • แท่งที่สองราคาเปิด Gap ต่ำลงกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แต่ก็สามารถกลับมาปิดได้สูงกว่าเราเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า 

 

ส่งผลให้ อาจมีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องในวันถัดไปหรือแท่งเทียนถัดไป

Bearish Engulfing

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Bearish Engulfing Goo Invest

Bearish Engulfing รูปแบบการกลับตัวที่อ่านสัญญาณ 2 แท่ง ในช่วงภาวะตลาดขาขึ้น ลักษณะ 

  •  แท่งแรกสีเขียว มี body เล็กกว่าแท่งที่ 2
  • แท่งที่สองราคาเปิด Gap สูงขึ้นกว่าราคาปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า แต่ก็สามารถกลับมาปิดได้ต่ำกว่าเราเปิดของแท่งเทียนก่อนหน้า 

 

ส่งผลให้ อาจมีแรงขายเข้ามาต่อเนื่องในวันถัดไปหรือแท่งเทียนถัดไป

Bullish Harami

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Bullish Harami Goo Invest

Bullish Harami รูปแบบการกลับตัวที่อ่านสัญญาณ 2 แท่ง ในช่วงภาวะตลาดขาลง ลักษณะ 

  •  แท่งแรกสีแดง มี body ใหญ่กว่าแท่งที่ 2
  • แท่งที่สองราคาเปิด Gap สูงกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้าแต่ยังเปิดไม่สูงกว่าราคาเปิดของแท่งก่อนหน้า และราคาปิดของแท่งที่สองปิดได้สูงกว่าราคาเปิดแต่ไม่สูงกว่าราคาเปิดของแท่งก่อนหน้า

 

แสดงถึงความไม่มั่นใจต่อแนวโน้มเดิมอาจส่งผลให้เกิดการพักตัวในระยะสั้นหรือมีแรงซื้อมา ส่งผลให้ อาจมีแรงซื้อสะสมเข้ามาต่อเนื่องในวันถัดไปหรือแท่งเทียนถัดไป

Bearish Harami

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Bearish Harami Goo Invest

Bearish Harami รูปแบบการกลับตัวที่อ่านสัญญาณ 2 แท่ง ในช่วงภาวะตลาดขาลง ลักษณะ 

  •  แท่งแรกสีเขียว มี body ใหญ่กว่าแท่งที่ 2
  • แท่งที่สองราคาเปิด Gap ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้าแต่ยังเปิดไม่ต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งก่อนหน้า และราคาปิดของแท่งที่สองปิดได้สูงกว่าราคาเปิดแต่ไม่ต่ำกว่าราคาเปิดของแท่งก่อนหน้า

 

แสดงถึงความไม่มั่นใจต่อแนวโน้มเดิมอาจส่งผลให้เกิดการพักตัวในระยะสั้นหรือมีแรงขายเข้ามา ส่งผลให้ อาจมีแรงขายสะสมเข้ามา ต่อเนื่องในวันถัดไปหรือแท่งเทียนถัดไป

Three Crows

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Three Black Crows Goo Invest

Three Crows หรือ Tree black crows รูปแบบนี้ประกอบด้วย แท่งเทียนหลัก 3 แท่งยาวๆแดงๆ เรียงติดกัน แสดงถึงความกังวลต่อแนวโน้มเดิมเป็นอย่างมากหรือหลายคนอาจเคยได้ยินกันบ่อยๆคือ ช่วงสภาวะ Panic sell ทั้งนี้หลายๆประเทศเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับ “อีกา” ว่าหมายถึงหายนะ หรือ ความโชคร้ายนั่นเอง

Three White Soldiers

กราฟแท่งเทียน Candlesticks Three White Soldiers Goo Invest

Three White Soldiers เกิดขึ้นในช่วงสภาวะตลาดขาลง โดยในชุดราคาจะมีแรงซื้อปริมาณมากเข้ามาต่อเนื่อง 3 วันติดกันหรือ 3 แท่งติดต่อกัน เป็นสัญญาณแนวโน้มตลาดกลับตัวจากแนวโน้มเดิม บอกได้ถึงความมั่งใจในตลาดเป็นอย่างมากทำให้มีการเข้าซื้อสะสมกันเป็นปริมาณมาก อาจส่งผลได้ถึงแนวโน้มตลาด หรือการพักตัว ระยะกลาง

Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Technical Analysis การลงทุน ธุรกิจ

MACD Indicator

MACD Indicator

MACD ( นิยมอ่านชื่อย่อกัน 2 อย่างคือ M-A-C-D หรือ Mac-Dee ) ย่อมาจาก Moving Average Convergence Divergence เป็น Indicator ที่ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในวงการการลงทุน เพื่อใช้เป็นตัวชี้วัดและใช้สำหรับวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ซึ่งเป็นจุดเด่นของ MACD ไม่ว่าจะเป็น หุ้น CFD Forex ทองคำ น้ำมัน พันธบัตร หรือสินทรัพย์ใดๆ สำหรับนักเทรดนักวิเคราะห์จะไม่รู้จัก MACD คงเป็นเรื่องแปลก โดยเฉพาะ Trend Following และ Momentum trading ต้องรู้จักมันอย่างแน่นอน โดยถูกคิดค้นโดย Gerald Appeal ในยุค 1970s ซึ่งการทำงานของ MACD จะมีพื้นฐานมาจากการคำนวณค่าเฉลี่ยของ 2 ค่าที่นำมาเปรียบเทียบกัน

MACD Moving Average Convergence Divergence indicator Goo invest

Histogram ที่มา ของ MACD Indicator LV.1

MACD โดยถูกคิดค้นโดย Gerald Appeal ในยุค 1970s ซึ่งการทำงานของ MACD จะมีพื้นฐานมาจากการคำนวณความสัมพันธ์ของค่าเฉลี่ย 2 ค่า ที่นำมาเปรียบเทียบกันแบบ “Exponential Moving Average” (EMA) Gerald Appel ได้อธิบายไว้ว่า ” เราจะใช้เส้นค่าเฉลี่ยธรรมดา (SMA) ก็ได้ แต่ใช้ เส้นค่าเฉลี่ย EMA จะดูเทรนของราคาได้ดีกว่า  “

โดยการนำค่าเฉลี่ย 26 วัน และค่าเฉลี่ย 12 วัน มาแสดงออกมาในรูป Histogram โดยแต่ละแท่ง Histogram คือค่าความสัมพันธ์ด้านความต่างของค่าราคาที่ต่างกันหรือเรียกง่ายๆว่าคือค่าระยะห่าง

การสร้าง Histogram แต่ละแท่งจะมีค่ากลางเป็น 0

เมื่อเส้นค่าเฉลี่ย EMA12 อยู่เหนือกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA26 การสร้าง Histogram จะมีค่าเป็นบวก

เมื่อเส้นค่าเฉลี่ย EMA12 อยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย EMA26 การสร้าง Histogram จะมีค่าเป็นลบ

หลังจากนั้น  Gerald Appeal ได้เพิ่มค่า  EMA9 เพื่อใช้เป็นเส้นสัญญาณ หรือ Signal โดยเส้น Signal นี้จะแสดงบน Histogram 

การใช้งาน MACD Indicator เบื้องต้น LV.1

MACD Moving Average Convergence Divergence histogram indicator Goo invest

สำหรับท่านที่กำลังศึกษาการวิเคราะห์กราฟเทคนิคและกำลังสนใจ MACD ในการใช้เป็นตัวช่วยวิเคราะห์ สามารถ ทดลองใช้จริง ได้ โดยมีการอ่านสัญญาณดังนี้

  • เมื่อค่า Histogram อยู่เหนือ 0 และ EMA9 แนวโน้มราคาถือว่าอยู่ในช่วงขาขึ้นและสำหรับใครที่รอจังหวะเข้าซื้อตามในช่วงขาขึ้นสามารถใช้เส้น Signal LIne เป็นตัวกำหนดจัวหวะในการเข้าซื้อซึ่งหาก Histogram ตัด EMA9 ขึ้นถือว่าเป็นช่วงที่เป็นแนวโน้มขึ้นแข็งแรง และยังสามารถเข้าซื้อตามและถือกำไรต่อไป
  • เมื่อค่า Histogram อยู่เหนือ 0 แต่ต่ำกว่า EMA9 หากท่านพบสัญญาณเช่นนี้ไม่แนะนำให้เข้าออเดอร์ Buy เพิ่มแต่ควรขายกำไรบางส่วนออกเพราะสัญญาณเช่นนี้กำลังหมายถึงการพักตัวของรอบแนวโน้มขาขึ้น
  • เมื่อค่า Histogram อยู่ต่ำ 0 และ EMA9 แนวโน้มราคาถือว่าอยู่ในช่วงขาลงและสำหรับใครที่รอจังหวะปิดทำกำไรหรือ Sell ตามในช่วงขาลงสามารถใช้เส้น Signal LIne เป็นตัวกำหนดจัวหวะในการเข้า Sell ซึ่งหาก Histogram ตัด EMA9 ลงถือว่าเป็นช่วงที่เป็นแนวโน้มลงแข็งแรง และยังสามารถเข้า Sell ตามและถือกำไรต่อไป
  • เมื่อค่า Histogram อยู่เหนือ 0 แต่สูงกว่า EMA9 หากท่านพบสัญญาณเช่นนี้ไม่แนะนำให้เข้าออเดอร์ Sell เพิ่มแต่ควรขายกำไรบางส่วนออกเพราะสัญญาณเช่นนี้กำลังหมายถึงการพักตัวของรอบแนวโน้มขาลง

Convergence & Divergence MACD Indicator LV.2

MACD Moving Average Convergence Divergence histogram indicator Goo invest

Convergence หมายถึงการไปในทิศทางเดียวกันระหว่างกราฟราคาและตัวค่าแนวโน้มสัญญาณของ MACD Indicator ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับใครที่เล่นตามแน้วโน้มแต่สำหรับใครที่ชอบเล่นแนวเกร็งกำไรระยะสั้นที่หาจุดกลับตัวยังไม่ถือเป็นสัญญาณเข้าซื้อและต้องระวังการเข้าออเดอร์เป็นอย่างมาก

Divergence มันคือความขัดแย้งกันระหว่าง MACD Indicator กับกราฟราคา มักเป็นที่นิยมใช้ในการหาจุดกลับตัวของราคาแต่ก็ใช่ว่าจะกลับตัวเป็นขาลงในทันทีมันอาจเป็นการกลับตัวเพื่อพักฐานในระยะสั้นเท่านั้น หากในต้องการทำกำไรจากการทำกำไรระยะสั้นจากสัญญาณ Divergence ก็ต้องติดตามสัญญาณอย่างใกล้ชิดเพราะสัญญาณนี้จะเกิดขึ้นในทางตรงกันข้ามกับแนวโน้มหลัก โดยจะรู้จักกันในชื่อ Bullish Divergence และ Bearish Divergence

MACD Moving Average Convergence Divergence histogram indicator bullish bearish Goo invest

Bullish Divergence คำว่า Bullish หรือหลายคนเรียกมันว่า ตลาดกระทิง มักนำมาเรียกแทนตลาดในสภาวะขาขึ้น การเกิด Bullish Divergence ใน MACD จึงเป็นสัญญาณการกลับตัว จากสภาวะขาลง หรือ  Bearish เพื่อเข้าสู่สภาวะขาขึ้น หรือ Bullish มันจึงได้ชื่อ Bullish Divergence 

สัญญาณนี้จะเกิดขึ้นในช่วงสภาะวะขาลงที่ทำ Low ลดต่ำลงมาเรื่อยๆ ( Lower Low= LL ) แต่ MACD กลับไม่ทำ Low ที่ลงไปด้วยกลับมี Low ที่สูงขึ้นกลายเป็นสัญญาณ Bullish Divergence ซึ่งหมายถึง ราคาที่กำลังอยู่ในสภาวะขาลงอาจมีการกลับหรือพักตัวในอีกไม่นาน

MACD Moving Average Convergence Divergence histogram indicator bullish bearish Goo invest

Bearish Divergence คำว่า Bearish หรือหลายคนเรียกมันว่า ตลาดหมี มักนำมาเรียกแทนตลาดในสภาวะขาลง การเกิด Bearish Divergence ใน MACD จึงเป็นสัญญาณการกลับตัว จากสภาวะขาขึ้น หรือ  Bullish เพื่อเข้าสู่สภาวะขาลงหรือ Bearish มันจึงได้ชื่อ Bearish Divergence 

สัญญาณนี้จะเกิดขึ้นในช่วงสภาะวะขาขึ้นที่ทำ High สูงมาเรื่อยๆ ( Higher High = HH ) แต่ MACD กลับไม่ทำ High ที่สูงขึ้นไปด้วยกลับมี high ที่ต่ำลงกลายเป็นสัญญาณ Bearish Divergence ซึ่งหมายถึง ราคาที่กำลังอยู่ในสภาวะขาขึ้นอาจมีการกลับหรือพักตัวในอีกไม่นาน

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Technical Analysis การลงทุน ธุรกิจ

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย เคลื่อนที่ เป็นเครื่องมือช่วยวิเคราะห์ทางเทคนิค Indicator ที่ใช้ วิเคราะห์แนวโน้ม หรือทิศทางของตลาด โดยแบ่งได้ 3 ประเภทคือ Simple Moving Average (SMA), Exponential Moving Average (EMA), Weighted Moving Average แต่เป็นที่นิยมใช้ของนักลงทุน 2 ประเภทคือ Simple Moving Average (SMA) และ Exponential Moving Average (EMA) การใส่เครื่องมือ ลงในโปรแกรมก็ไม่ยาก

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย SMA EMA goo invest

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นเครื่องมือที่มีจุดเด่น ในการหาแนวโน้มตลาด Trend เหมาะมากสำหรับ นักเทรดสาย Trend Following และยังช่วย ให้อ่านกราฟได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำราคา มาแปลงค่า เป็นเส้น Moving Average ทำให้ อ่าน หรือ วิเคราะห์ ได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังนำมาอ้างอิง เป็นจุด เข้า – ออก ได้อีกด้วย ค่า Period ที่นิยมใช้ คือ 5 10 15 20 50 75 100 และ 200 สาเหตุ ที่นิยมใช้ค่าต่างๆ ที่แนะนำ เพราะมีการอ้างอิง ตามรอบปฏิทิน ดังนี้

5 วัน แทน 1 สัปดาห์ 

20 วัน แทน 1 เดือน 

75 วัน แทน 1 ไตรมาส 

200 วัน แทน 1 ปี

เมื่อ นักเทรด ส่วนใหญ่ใช้ค่าตามที่ได้แนะนำไปแล้วนี้ ท่านก็ไม่จำเป็น จะต้องไปดัดแปลงค่าใดๆ หรือ หาค่าใหม่ๆ เพราะมันไม่มีประโยชน์ การเคลื่อนไหวของราคา นั้นเกิดขึ้นจากการซื้อขาย ของนักลงทุน นั่นหมายถึง เมื่อทุกคนใช้ค่าการใช้งานเหล่านี้ เป็นการตัดสินใจ ก็หมายความว่า มันย่อมส่งผลต่อ การตัดสินใจ กับคนซื้อขายอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

 

แบ่งตามระยะการเทรดได้ดังนี้

ระยะสั้นใช้ค่า 5 – 20

ระยะกลางใช้ค่า 50 – 100

ระยะยาวค่า 200

 

การเทรดระยะสั้นมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันเช่น

เทรดระยะสั้น จะเห็นจุดกลับตัวได้ไวกว่า ระยะยาว

เทรดระยะยาว จะปรับตัวได้ช้ากว่า ระยะสั้น และ มีสัญญาณที่ช้ากว่า

เทรดระยะสั้น จะเจอสัญญาณหลอกมากกว่า ระยะยาว

หลักการใช้งาน Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย SMA EMA ใช้งานอย่างไร goo invest

หลักในการอ่านแนวโน้มแบบ เชิงเดี่ยว การวิเคราะห์แบบเชิงเดี่ยวคือใช้เส้นค่าเฉลี่ยค่าใดค่าหนึ่งอ้างอิงกับราคา

  • หากราคาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ย ให้น้ำหนักเป็น แนวโน้มขาขึ้น
  • หากราคาอยู่ต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย ให้น้ำหนักเป็น แนวโน้มขาลง

ยิ่งค่า Period ของเส้นเฉลี่ย ที่ใช้อ้างอิง มีค่ามากเท่าไหรยิ่งเป็นแนวโน้มที่ใหญ่ และ แข็งแรงมากขึ้น นั่นหมายถึง กินเวลาเป็นอาทิตย์ หรือ เดือนในเส้นแนวโน้มนั้น แต่ข้อเสียคือ ยิ่งใช้ค่า Period ยิ่งสูงเท่าไหร สัญญาณในการเปลี่ยน แนวโน้มก็จะยิ่งช้าไปด้วย ลองใช้ ปรับค่าการใช้งานด้วยตัวเอง เพื่อหาเทคนิคที่เหมาะสมให้ตัวคุณเอง

 

ท่านสามารถทำการซื้อขายไป กับ แนวโน้ม แนะว่าไม่ควรไปเข้าสวนกับแนวโน้ม แต่ให้หา จังหวะเข้า บริเวณที่กราฟลงมาใกล้ หรือทดสอบแนวโน้ม เมื่อกราฟทดสอบเส้นค่า Period ใดราคามักจะกลับมาทดสอบค่า Period เดิมบ่อยครั้ง โดยให้ท่านสังเกตุ การทดสอบ และ ใช้เส้นค่าเฉลี่ยนั้น เป็นจุดตัดขาดทุน

หลักการอ่านแนวโน้มที่ค่า Period มากกว่าหนึ่งค่าโดยอ้างอิงจากการเรียงตัว

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย SMA EMA golden cross goo invest
  •  หากค่า Period น้อย เรียงตัวอยู่สูงกว่าค่า Period มากถือว่าเป็น แนวโน้มขาขึ้น โดยสังเกตุ จุดตัด การเปลี่ยนแนวโน้ม โดยมักเรียกกันว่า Golden Cross

 

Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย SMA EMA Death cross goo invest
  •  หากค่า Period น้อยเรียงตัวอยู่ต่ำกว่าค่า Period มากถือว่าเป็น แนวโน้มขาลง โดยสังเกตุ จุดตัดการเปลี่ยนแนวโน้ม โดยมักเรียกกันว่า Death Cross
Moving Average เส้นค่าเฉลี่ย SMA EMA Sideway goo invest
  • หาก Moving Average เส้นค่าเฉลี่ยแต่ละค่า ไม่มีการเรียงตัวชัดเจน แต่กลับสลับขึ้นลงไปมา รวมถึง แนวโน้มแต่ละเส้น วิ่งเป็นแนวนอน ให้ถือว่าตั้งอยู่ในช่วง Sideway

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ