Categories
Technical Analysis การลงทุน

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด

ทฤษฎี Dow Theory ถือกำเนิดขึ้นโดย Charles Henry Dow ที่นับได้ว่าเป็น ศาสดา แห่งการวิเคราะห์ กราฟเทคนิค ต้องย้อนไปถึงปี 1896 เขาคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า “ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์” ซึ่งเขายังเป็น บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ The Wall Street ที่จะต้อเขียน บทวิเคราะห์ รวมถึงต้องติดตามราคา หุ้น ทองคำ ต่างๆ แต่ในยุคนั้นยังไม่มีกราฟให้เทรดในทุกวันนี้ เขาจึงติดตามราคา ด้วยการสร้างการบันทึก กระทั่งนำมาสร้างเป็น ดัชนี ที่เราใช้กันในทุกวันนี้ จึงต้องยอมรับให้เขาเป็น ศาสดาแห่ง กราฟ รวมถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค เพราะพื้นฐานการวิเคราะห์หลายๆอย่างนั้น ถูกสร้างขึ้นมาจาก พื้นฐานของ ทฤษฎี นี้นั่นเอง

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด Charles henry dow Goo invest Trade

ทฤษฎี Dow Theory แบ่งออกเป็น 6 หลักการสำคัญ คือ

1. ตลาดมีการเคลื่อนไหวหลักๆ อยู่ 3 รูปแบบ (The market has three movements) คือ

  • แนวโนมโหญ่ (The main movement or Primary trend) = 1-3 ปี หรือมากกว่า
  • แนวโน้มกลาง(The medium swing or Intermediate trend) = 3 สัปดาห์ – 3 เดือน หรือมากกว่า
  • แนวโน่้มระยะสั้นๆ (The short swing or Minor trend) = รายวัน – เดือน หรือมากกว่า

2. ตลาดหุ้นมี Trend

แบ่งเป็น 3 ช่วงใหญ่ๆ (Market trends have three phases) คือ ช่วงสะสมหุ้น (The accumulation phase) ช่วงมหาชนมีส่วนร่วม (The public participation phase) ช่วงแจกจ่ายหรือปล่อยของ (The distribution phase)

 

3. ราคาสะท้อนทุกอย่างในตลาดอยู่แล้ว (The prices reflect the market already)

 

4. ทุกอย่างต้องมีความสอดคล้องกัน (Market Indexes Must Confirm Each Other)

 

5. ถ้าตลาดจะมีเทรนด์ ต้องมีปริมาณยืนยัน (Volume Must Confirm The Trend)

 

6. ราคาจะขึ้นจนกว่ามันจะไม่ขึ้น และจะลงจนกว่ามันจะลง (Trends exist until definitive signals prove that they have ended)

แนวโน้มตลาดแบ่งเป็น 3 แนวโน้มหลัก

แนวโน้มขาขึ้น ตามหลักการของ ทฤษฎี Dow Theory

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด แนวโน้มขาขึ้น Goo Invest trade

แนวโน้มขาขึ้น ตาม ทฤษฏี นั้นราคาจะต้องทำ จุดสูงสุดใหม่ Higher high  และ จุดต่ำสุดใหม่ Higher Low สูงขึ้นไปเรื่อยๆ และจุดต่ำสุดใหม่ Higher Low จะต้องไม่ลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ ต่ำกว่า จุดสูงสุดใหม่ก่อนหน้า Higher high จึงจะถือเป็นแนวโน้มที่แข็งแรง

แนวโน้มขาลง ตามหลักการของ ทฤษฎี Dow Theory

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด แนวโน้มขาลง Goo Invest trade

แนวโน้มขาลง ตาม ทฤษฏี นั้นราคาจะต้องทำ จุดต่ำสุดใหม่ Lower Low  และ จุดสุดสุดใหม่ Lower High ต่ำลงไปเรื่อยๆ และจุดสูงสุดใหม่ Lower High จะต้องไม่ขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ สูงกว่า จุดต่ำสุดใหม่ก่อนหน้า Lower Low จึงจะถือเป็นแนวโน้มที่แข็งแรง

แนวโน้ม Sideway ตามหลักการของ ทฤษฎี Dow Theory

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด sideway Goo Invest trade

ช่วง Sideway หรือช่วงที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน high low ไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ หรือจุดต่ำสุดใหม่ ราคามักจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบราคา โดย จุดสูงสุด High หรือ จุดต่ำสุด Low ทำอยู่ในระดับราคาเดิม

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด sideway up Goo Invest trade

แนวโน้ม Sideway Up ตาม ทฤษฏี นั้นราคาจะต้องทำ จุดสูงสุดใหม่ Higher high  และ จุดต่ำสุดใหม่ Higher Low สูงขึ้นไปเรื่อยๆ และจุดต่ำสุดใหม่ Higher Low จะต้องลงมาทำจุดต่ำสุดใหม่ ต่ำกว่า จุดสูงสุดใหม่ก่อนหน้า Higher high จึงจะถือเป็นแนวโน้ม Sideway Up

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด sideway down Goo Invest trade

แนวโน้ม Sideway Down ตาม ทฤษฏี นั้นราคาจะต้องทำ จุดต่ำสุดใหม่ Lower Low  และ จุดสุดสุดใหม่ Lower High ต่ำลงไปเรื่อยๆ และจุดสูงสุดใหม่ Lower High จะต้องขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ สูงกว่า จุดต่ำสุดใหม่ก่อนหน้า Lower Low จึงจะถือเป็นแนวโน้ม Sideway Down

ทฤษฎี Dow Theory วัฏจักรตลาด Market Cycle

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด Market Cycle วัฏจักรตลาด Goo Invest trade

เรื่อง วัฏจักรตลาด Market Cycle ตามหลักการของ ทฤษฎี Dow Theory ได้บอกไว้ว่า ตลาดจะมีรอบหรือ cycle ของตลาดทุกๆ 10 – 12 ปี ซึ่งรอบหนึ่งจะมีช่วงที่ ราคาขึ้นไปถึงสูงสุด และ ลงมาที่จุดต่ำสุดจะนับเป็น 1 รอบซึ่งหากใครได้ศึกษาประวัติของกราฟ ก็จะพบว่ามีหลักฐานอ้างอิงถึงหลักการดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น ราคาของ Dow Jones หรือ SET INDEX เองก็ตามโดยมีประวัติราคาเป็นตัวอ้างอิง ซึ่งรอบตลาดนี้ เกิดขึ้นกับทุกๆตลาด หากเกิดขึ้นกับตลาดที่มีพื้นฐานเช่น หุ้น หรือ ดัชนี Index เราจะพบว่า ราคาจุดสูงสุด และราคาจุดต่ำสุด มักจะมีการปรับตัวยกสูงขึ้นเนื่องจาก มูลค่าพื้นฐานของหุ้นนั้นเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน

 

และตาม ทฤษฏี ยังได้พูดถึง คลื่นย่อยหรือ Wave ย่อย ซึ่งมันจะมี รอบ วัฏจักร ย่อยของมันเช่นกัน โดย คลื่นหนึ่งคลื่น หรือ หนึ่ง Wave จะมี ระยะเวลา หรือ รอบ ที่ 9-12 เดือน ในแต่ละคลื่น

โดยคลื่นแต่ละคลื่นจะสามารถย่อยลงได้อีกโดยจะแบ่งย่อยลงไปถึง คลื่นเล็กที่อยู่ในระยะ 3 เดือน

ซึ่งหากเข้าใจหลักการนี้ จะสามารถช่วยให้คุณนำไปวางแผนช่วยเทรด ได้เป็นอย่างดีซึ่งหากคุณรู้ว่าคุณอยู่ในช่วงไหนของตลาด จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ หรือวางแผนกลยุทธ์ได้ดียิ่งขึ้น

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด Market Cycle วัฏจักรตลาด Dow jones Goo Invest trade

ตัวอย่าง วัฏจักรตลาด Market Cycle จาก Dow Jones

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด Market Cycle วัฏจักรตลาด set index Goo Invest trade

ตัวอย่าง วัฏจักรตลาด Market Cycle จาก SET Index

ทฤษฎี Dow Theory ต้นกำเนิด กราฟเทคนิค ที่มือใหม่ ห้ามพลาด ปัจจัยพื้นฐานตามช่วงตลาด Goo Invest trade

ในแต่ละช่วงเวลา จะมีปัจจัยที่เป็นพื้นฐาน ในการขับเคลื่อนราคา ของแต่ละช่วงอยู่ ตามทฤษฏี

ช่วงเริ่มต้นแนวโน้มขาขึ้น เริ่มจากช่วงที่ราคาอยู่ใกล้จุดต่ำสุดหรือช่วงเริ่มต้นแนวโน้ม ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ไม่ได้รับความสนใจ จากคนทั่วไป แต่หากมองลงไปในพื้นฐาน ของหุ้นนั้นๆ จะพบว่า ผลการดำเนินการของหุ้น จะเริ่มทรงตัว หรือปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย จากที่ตลาดผ่านช่วงการเทขาย หรือช่วงขาดทุนมาต่อเนื่อง และมีการเทขาย มาจากมวลชน แต่นักลงทุน กลับเริ่มเข้ามาในตลาด และซื้อสะสมใน ช่วงเริ่มต้นแนวโน้ม

ช่วงมวลชน หรือ ระยะกลางของแนวโน้มขาขึ้น ในช่วงนี้ มวลชน สื่อ หรือ คนทั่วไปจะเริ่มเข้ามาจับตามอง และทยอยเข้ากันเป็นจำนวนมาก มักจะเป็นช่วงที่ ราคาจะวิ่งแรงและไกลที่สุด เพราะ สื่อทุกสื่อ จะจับตามองและมีการพูดถึงกันในวงกว้าง รวมถึง ผลประกอบการพื้นฐานก็จะดีขึ้น ตามลำดับซึ่งเป็นไปตามกลไกล ของระบบเศรษฐกิจ คนที่เข้ามาซื้อในช่วงนี้ มักจะเป็น นักเกร็งกำไร หรือ คนที่เทรดในระยะกลาง รวมถึง Trend Following

ช่วงท้ายตลาดของขาขึ้น หรือเรียกว่าเป็นช่วงเริ่มต้นของขาลง จะเป็นช่วงที่ตลาดกำลังคึกคักกันอย่างมาก และเป็นช่วงที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วไปเป็นอย่างสูง แต่พื้นฐาน หุ้นกลับ ไม่เติบโตหรือ ผลประกอบการ แย่ลง และจะเป็นช่วงที่นักลงทุนระยะยาวเริ่มจะปล่อยของ แต่มักจะเป็นช่วงที่ แมงเม่า เข้ามา หรือจะบอกว่าเป็น ยอดดอยก็ไม่ผิด

ช่วงระยะกลางของแนวโน้มขาลง เช่นเดียว กับระยะกลางของแนวโน้มขาขึ้น แต่เป็นไปในทิศทางที่กลับกัน กับแนวโน้มขาขึ้นจะเป็นข่าวดีเข้ามารองรับการขึ้นเป็นจำนวนมาก สื่อต่างๆจะพูดถึงแต่เรื่องดีๆของหุ้นตัวนี้ แต่ในทางขาลงจะเป็นข่าวที่เป็นข่าวเชิงลบทั้งสิ้น ส่งผลทำให้ มวลชนแห่ขายกันจำนวนมาก

ช่วงท้ายตลาดของขาลง จะเป็นช่วงที่ แทบจะไม่ได้รับรับความสนใจเลย และมี แมงเม่า ติดดอยกันเป็นจำนวนมาก และส่วนมากก็จำต้อง ตัดขาดทุนกันไป แต่กลับกันในช่วงนี้พื้นฐานของหุ้นเริ่มชลอการขาดทุน ตัวเลขกลับเริ่มพื้นตัว และนักลงทุนระยะยาว หรือ Value Investor VI เริ่มจับตามอง หรือ เริ่มสะสม ในช่วงนี้

Facebook
Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Technical Analysis การลงทุน

Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator

Stochastic Oscillator เป็น indicator ที่เหมาะกับการวิเคราะห์ในตลาด ที่เป็น Sideways รวมทั้งการลงทุน หรือเก็งกำไรในระยะสั้น สามารถจับเคลื่อนไหว หรือการแกว่งตาม momentum ได้เป็นอย่างดี แต่ไม่เหมาะในช่วงสภาวะตลาดที่มีแนวโน้ม

Stochastic ถูกคิดค้นและพัฒนามาโดย Dr. George C. Lane. เมื่อปี 1950 และเป็นหนึ่งใน Indicator ที่ได้รับนิยมมากที่สุดตัวหนึ่งสามารถใช้งานได้ดีทั้งในตลาด Forex หุ้น รวมถึงสินค้าอื่นๆ อย่างเช่น ทองคำ น้ำมัน โดยนิยมนำไปใช้ในการหาจุดกลับตัวของและยังสามารถบอกภาวะการซื้อหรือขายที่มากไป Overbought  Oversold

ส่วนประกอบหลักในการใช้งาน

Stochastic Oscillator Goo Invest

Stochastic เป็น อินดิเคเตอร์ ที่เป็น ดัชนี หรือ Index ที่เป็นการชี้วัดการเคลื่อนที่ของตลาดโดยจะมีค่าต่ำสุดคือ 0 และสูงสุด 100 และจะมีเส้น Stochastic ที่เรียกกันว่าเส้น %K และมีเส้นค่าเฉลี่ยอีเส้นเป็นเส้น Signal หรือเส้น %D โดยเส้น %K หรือเส้น Stochastic จะมีสูตรดังนี้

%K = 100*(ราคาปิดวันนี้-ราคาต่ำสุด) / (ราคาสูงสุด-ราคาต่ำสุด)

การใช้งาน Stochastic Oscillator

1. Overbought Oversold

Stochastic Oscillator Overbought Oversold goo invest สัญญาณ Overbought Oversold

Overbought ของตัว Stochastic ก็จะมีลักษณะการ Overbought คล้ายกับการใช้งาน RSI Relative Strength Index คือดู “ปริมาณการซื้อที่มากเกินไป” ของพฤติกรรมราคาช่วงเวลานั้นแต่ต่างกันที่ระดับค่า Overbought ของ RSI จะอยู่ที่ 70 – 100 แต่ STO จะอยู่ที่ระดับ 80 – 100 ซึ่งหมายความว่ามีปริมาณการซื้อ มากเกินไป มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงมาได้สูง 

 

Oversold ของตัว Stochastic ก็จะมีลักษณะการ Oversold คล้ายกับการใช้งาน RSI Relative Strength Index คือดู “ปริมาณการขายที่มากเกินไป” ของพฤติกรรมราคาช่วงเวลานั้นแต่ต่างกันที่ระดับค่า Oversold ของ RSI จะอยู่ที่ 0 – 30 แต่ STO จะอยู่ที่ระดับ 0 – 20 ซึ่งหมายความว่ามีปริมาณการขาย มากเกินไป มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นมาได้สูง

 

2. การ Cross กันของเส้น %K และ %D

Stochastic Oscillator Signal Goo Invest

สัญญาณ Overbought และ Oversold อย่างเดียวอาจจะยังไม่ใช่สัญญาณเข้า ซื้อ ขาย ที่ดีนักอย่างที่ได้เกรินไปตั้งแต่ช่วงแรกว่า Stochastic เป็น Indicator ที่สามารถทำงานได้ดี ในช่วงตลาด  Sideway เพื่อป้องกันไม่ให้เราเข้าซื้อหรือขาย ที่เร็วเกินไปหลังจากเกิดสัญญาณ Overbought Oversold แล้วจึงให้เราเตรียมตัวการพักตัวเท่านั้น และให้การ Cross เป็นสัญญาณเข้าจะดีกว่า

เส้น %D ตัดเส้น %K ลงหลังจากที่ราคาเข้าไปอยู่ใน ZONE Overbought ให้ถือเป็นสัญญาณการขาย

เส้น %D ตัดเส้น %K ขึ้นหลังจากที่ราคาเข้าไปอยู่ใน ZONE Oversold ให้ถือเป็นสัญญาณการซื้อ

3. Stochastic Oscillator Divergence

RSI indicator Relative Strength Index Divergence type Goo Invest

สัญญาณ Divergence คือความขัดแย้งกัน ระหว่างราคากับการเคลื่อนไหวของ Sto โดยปรกติแล้วราคากับดัชนีจะต้องแกว่งไปในทิศทางเดียวกันแต่จะมีความปิดปรกติในช่วงบางเวลาที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างราคาและ Sto ซึ่งจะเรียกความขัดแย้งนี้ว่า Divergence

 

ความขัดแย้ง ในสภาวะขาขึ้นว่า Bearish Divergence

ความขัดแย้ง ในสภาวะขาลงว่า Bullish Divergence

Stochastic Oscillator Bearish Divergence goo invest
Stochastic Oscillator Bullish Divergence goo invest
Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
การลงทุน ธุรกิจ

อัตราแลกเปลี่ยน Forex Exchange ปัจจัยขับเคลื่อน เงินลงทุน และเศรษฐกิจ

อัตราแลกเปลี่ยน Forex Exchange ปัจจัยขับเคลื่อน เงินลงทุน และเศรษฐกิจ

อัตราแลกเปลี่ยน  Forex Exchange  เงินตรา หรือเรียกเข้าใจง่ายๆ ว่า ค่าเงิน ก็เปรียบเหมือน กระจกสะท้อน เศรษฐกิจของประเทศ เพราะทุก กิจกรรมทางเศรษฐกิจ จะมีผลกับการเคลื่อนไหว ต่อ ค่าเงิน แทบทั้งสิ้น จึงเป็นปัจจัยแรกๆ ที่เป็นเครื่องมือดัชนีชี้วัด ของนักลงทุน ในการเคลื่อนย้าย เงินลงทุน จากประเทศหนึ่ง ไปยังอีกประเทศหนึ่ง

สถิติในอดีตย้อนหลัง 5 ปี คือ ทุกๆ ค่าเงินบาทอ่อนค่าเฉลี่ย 1% จะส่งผลให้เงินทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นเฉลี่ยราว 7.8 พันล้านบาท อ้างอิง TrueID ในการที่ ค่าเงิน เงินบาทอ่อนค่านั้นส่งจะส่งผลให้อุปทานลดลง นั่นหมายถึง ความลังลงของนักลงทุน

 

ในทางกลับกัน ในกรณีที่ ค่าเงินบาทแข็งค่า ขึ้น อัตราดอกเบี้ย เงินบาทก็มักจะเพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งมันเป็นที่ดึงดูด เงินทุน จาก ต่างประเทศ ให้ไหลเข้ามาในประเทศไทย มากยิ่งขึ้น

อัตราแลกเปลี่ยน Forex Exchange เงินลงทุน เศรษฐกิจ ค่าเงินบาทแข็งค่า อัตราดอกเบี้ย Goo Invest

การป้องกันความเสี่ยง จากการเปลี่ยนแปลงของ ค่าเงิน ในกรณีของ นักลงทุน ที่ลงทุนด้วยการหวัง ผลกำไร จาก ดอกเบี้ย นั้นอาจขาดทุนได้หากค่าเงินเปลี่ยนแปลงไป จึงมัก ป้องกันความเสี่ยง ด้วยซื้อ อัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า ไว้ด้วย

โดยมุ่งหากำไรจากส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเท่านั้น การที่เงินตราสกุลต่างๆให้ผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ย่อมก่อให้เกิดโยกย้าย เงินฝาก จากประเทศหนึ่งไปยังประเทศหนึ่งอยู่เสมอ และ สกุลเงิน ที่มี อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ก็จะย้ายไปยังประเทศและสกุลเงินที่มี อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า 

ในระหว่างช่วงเวลาของ การลงทุนฝากเงิน นั้น อัตราและเปลี่ยนก็ที่เปลี่ยนแปลงไปได้ ทำให้กำไรจากส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยลดน้อยลง หรือ กลายเป็นขาดทุนไปได้ ดังนั้น เพื่อป้องงกันความเสี่ยงที่เกิดจากอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนจึงอาจซื้อขายเงินตราในตลาดล่วงหน้าไปพร้อมกับการย้ายเงินฝาก การป้องกันความเสี่ยงเช่นนี้ ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนทันทีโดย การป้องกันความเสี่ยงเช่นนี้ มักเป็นที่นิยมใช้กับกลุ่ม ธุรกิจนำเข้า ส่งออกอีกด้วย

 

หากสกุลเงิน ของประเทศ ที่ไปทำ การลงทุน ไว้ มีแนวโน้มอ่อนค่าลง นักลงทุน ย่อมเรียกหา การชดเชยผลขาดทุน ที่อาจจะเกิดขึ้นจาก อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ในรูปของ อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า โดยเปรียบเทียบ เพื่อให้ได้รับ อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง เท่ากับการไป ลงทุนในประเทศที่ แนวโน้มว่าค่าเงินจะแข็งขึ้น

อัตราแลกเปลี่ยน Forex Exchange ของเงินบาท ที่เปลี่ยนแปลง ในมุมมองของ ต่างชาติ

ค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลต่อการ นำเข้า ส่งออก สินค้า เมื่ออัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าทำให้ราคา สินค้าไทย ในรูป เงินบาท จะมีราคาดูแพงขึ้น ในสายตาของ ชาวต่างชาติ ทำให้ผู้ประกอบการไทย ส่งออกสินค้า ได้น้อยลง ขณะที่คนไทย จะมองว่าสินค้านำเข้า จากต่างประเทศ ได้ราคาถูกลง จึงเป็นตัวกระตุ้น การนำเข้าสินค้า จากต่างประเทศได้มากขึ้น

 

ซึ่งส่งผลโดยตรงกับ ผู้ส่งออก ทำให้ ส่งออกสินค้าของไทย ได้ลดลง เนื่องมาจาก  ชาวต่างชาติ จะมองว่าราคาสินค้า ของไทยแพงขึ้น

 

ผู้นำเข้า จะได้ประโยชน์ เนื่องจากราคาสินค้าจาก ต่างประเทศจะถูกลง  ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ ที่ต้องการผลิต สามารถ นำเข้าสินค้า ได้ถูกลง  ราคาน้ำมัน นำเข้าก็ถูกลง  ทำให้ต้นทุนการผลิต และ การขนส่งลดลง

สำหรับ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว จะได้รับผลกระทบจากจำนวน นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่ชะลอ การท่องเที่ยว ลงเนื่องจาก เงินบาทแข็งค่า ชาวต่างชาติ แลกเงินจากดอลลาร์สหรัฐ เป็น เงินบาทได้น้อยลงทำให้ในสายตาของ ชาวต่างชาติ มองว่าสินค้า และ บริการใน ประเทศไทย มีราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะ นักท่องเที่ยว จากยุโรป และ สหรัฐอเมริกา เนื่องจากราคา หรือค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว จะแพงขึ้นในสายตาของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ 

Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
การลงทุน

ดอกเบี้ยต่ำ ที่สุดใน ประวัติศาสตร์ไทย

ดอกเบี้ยต่ำ ที่สุดใน ประวัติศาสตร์ไทย

คณะกรรมการนโยบายการเงิน ( กนง.) ประกาศลดอัตรา ดอกเบี้ยต่ำ ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ที่ 0.5% เมื่อเดือน พฤษภาคม 2563 ทำลายสถิติเดิมเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2563 ที่ทำได้ทำสถิติต่ำที่สุดเอาไว้ที่ ระดับ 1% นับว่าเป็นการปรับลดต่อที่สุดอีกครั้ง ในรอบ 20 ปีเมื่อปี 2546 ที่ระดับ 1.25%


อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเฉลี่ย และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ยเป็นอย่างไร

ปี 2531-2540 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเฉลี่ย 9.9% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 13.1%

ปี 2541-2550 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเฉลี่ย 3.0% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 7.5%

ปี 2551-2561 อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำเฉลี่ย 1.7% อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เฉลี่ย 6.7%

ดอกเบี้ยต่ำ ที่สุดใน ประวัติศาสตร์ไทย ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ goo invest

ธนาคารแห่งประเทศไทย ปรับลดดอกเบี้ย เนื่องจาก เศรษฐกิจไทย ปี 2563 ขยายตัวต่ำกว่าที่ ประมาณการเอาไว้ อันเนื่องมากจาก การระบาด ของ ไวรัสโคโรนา ซึ่ง เรากำลังอยู่ในยุค ดอกเบี้ยต่ำ ที่สุดในประวัติศาสตร์ อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งคนที่ได้รับผลประโยชน์ และเสียผลประโยชน์ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และการจ้างงานอย่างมากโดยเฉพาะ 

 

การท่องเที่ยว มีแนวโนมลดลงอย่างมากส่งผลกระทบต่อ ผู้ประกอบการท่องเที่ยว รวมถึง การส่งออกสินค้า ที่ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจของคู่ค้าและ นโยบายมาตรา การป้องกัน โควิด19 การบริโภคภายในประเทศ มีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างมาก ภาระหนี้ครัวเรือน ในประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นกระทั่ง ภาระหนี้ต่อครัวเรือน อยู่ในระดับสูง แม้ อัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทอ่อนค่า ลงบ้างแต่ยังไม่สอดคล้อง กับปัจจัยพื้นฐานกับเศรษฐกิจไทย 

 

ธุรกิจที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดดอกเบี้ย

  • กลุ่ม ธุรกิจเช่าซื้อ สินเชื่อ มีโกาศได้ต้นทุนที่ลดลงและเพื่อโอกาศในการทำกำไรมากขึ้น
  • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงส่งผลดีช่วยให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อมากขึ้นจากอัตราผ่อนชำระต่องวดลดลง
  • กลุ่มหุ้นปันผล การปรับลดดอกเบี้ยทำให้เกิดการโยกย้ายเงินทุนจากตราสารหนี้เข้าสู่หุ้นปันผล

แต่การลดดอกเบี้ย ส่งผลเสียโดยตรงกับ ธนาคารพาณิชย์ ที่ต้องปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลง ซึ่งส่งผลต่อกำไรส่วนต่างจาก ดอกเบี้ย ในด้าน ลูกหนี้ จะมี ภาระหนี้ ที่ลดลงเมื่อ อัตราดอกเบี้ย เงินกู้ มีแนวโน้มลดลง ซึ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อ 

 

ปัญหา หนี้สิน คุณครู และ บุคลากรทางการศึกษา พบข้อเท็จจริงบางประการว่า ลูกหนี้กลุ่มอาชีพนี้มี หนี้สิน กับ สหกรณ์ออมทรัพย์ ที่บริหารจัดการด้วยผู้คนในแวดวงอาชีพเดียวกัน หลายท่านอาจไม่ทราบว่าจากการ รวบรวมตัวเลข ของคณะผู้ศึกษาแนวทาง การแก้ไขปัญหาพบว่า คุณครูและ บุคลากรทางการศึกษา มีหนี้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูประมาณ 800,000 ล้านบาท และ ก็ยังมีสถาบันการเงินของรัฐให้สินเชื่ออีกหลายแห่งรวมๆกันประมาณ 600,000 ล้านบาท รวมแล้วเบ็ดเสร็จประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท 

(คอลัมน์ เศรษฐกิจคิดง่ายๆ ตอนที่ 49/2563 โดย…สุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ เครดิตบูโร)

 

แต่ในด้านผู้ฝากเงิน การได้รับดอกเบี้ยน้อย อาจได้ ผลตอบแทน ไม่เพียงพอเพื่อนำไปใช้ใน อนาคต จนจำเป็นต้องนำเงินไป ลงทุน ใน สินทรัพย์ อื่นที่เสี่ยงมากขึ้นแทน เพื่อสร้าง ผลตอบแทนแบบทวีค่า

ดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลต่อ เงินลงทุน

การที่เงินตราสกุลต่างๆให้ผลตอบแทนในรูป ดอกเบี้ย ไม่เท่ากัน ย่อมก่อให้เกิดการโยกย้ายเงินฝากหรือสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ในระหว่างช่วงเวลาของการลงทุนฝากเงินนั้น อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปได้ และอาจทำให้กำไรจากส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยลดน้อยลงหรือกลายเป็นขาดทุนไปได้ ดังนั้น เพื่อป้องงกันความเสี่ยงที่เกิดจาก อัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนจึงอาจซื้อขายเงินตราในตลาดล่วงหน้าไปพร้อมกับการย้ายเงินฝาก การป้องกันความเสี่ยงนี้ ส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนทันทีโดย

 

กรณีที่ ดอกเบี้ยเงินฝาก ของไทยได้ปรับลงเช่นนี้ ดอกเบี้ยต่ำ ส่งผลให้เงินลงทุนไหลออกไปยัง ประเทศที่มี ดอกเบี้ยสูง  ปริมาณมากส่งผลทำให้ อุปทานของ เงินทุน ในไทยน้อยลง ในขณะเดียวกัน เงินลงทุน ที่ไหลออกจากไทยก่อให้เกิดการขายเงินบาทในตลาดทันทีและขายเงินบาทในตลาดล่วงหน้าเป็นจำนวนมากอีกด้วยจะส่งผลต่อ อัตราแลกเปลี่ยน ทำให้ เงินบาทอ่อนค่า และเพื่อการ รักษาสมดุล จึงจำต้องมีการปรับ อัตราดอกเบี้ย ขึ้นเพื่อรักษาสมดุลไม่ให้ เงินบาทอ่อนค่า เกินไป

  

 

อัตราดอกเบี้ย ที่แท้จริงใน ตลาดเงิน ทุกประเทศควรจะเท่ากัน เพื่อไม่ให้ นักลงทุน เกิดความได้เปรียบหรือเสียเปรียบ ดังนั้น อัตราดอกเบี้ย ที่เป็นตัว เงินจะแปรผันโดยตรงตาม อัตราเงินเฟ้อ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในแต่ละประเทศ ดังนั้น ประเทศที่มี อัตราเงินเฟ้อ สูงจึงควรมี อัตราดอกเบี้ย ที่เป็นตัวเงินสูงกว่าอีกประเทศหนึ่งที่มี อัตราเงินเฟ้อต่ำ กว่า

Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
ความรู้ทั่วไป

อยาก ปลดหนี้ ต้องรู้เรื่อง ดอกเบี้ย

อยาก ปลดหนี้ ต้องรู้เรื่อง ดอกเบี้ย

อยาก ปลดหนี้ ต้องรู้เรื่อง ดอกเบี้ย เรื่อง ดอกเบี้ย ฟังดูแล้วคงเป็นอะไรที่ใกล้ตัวและได้ยินอยู่บ่อย แต่คุณ เคยรู้ไหมว่า พลังของ ดอกเบี้ยทบต้น นั้นมันทรงพลังแค่ไหน หลายคนอาจรู้จักมันในชื่อหลักการ พลังทวีค่า มันเป็นหลักการที่ ทรงพลังเป็นอย่างมาก ที่เป็นใกล้ตัวแต่คุณอาจไม่ได้ศึกษามันอย่างจริงจัง ซึ่งหาคุณได้รู้จักมันแล้ว มันสามารถเป็นเครื่องทุ่นแรง ทำให้คุณสามารถ บรรลุเป้าหมายได้ไม่ยากเลย เราขอยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งที่สามารถทำกำไรให้คุณได้ 5% ต่อเดือนในระยะเวลา 1 ปี ด้วยทุน 100,00 บาท พลังของดอกเบี้ยทบต้นนั้น จะสามารถทำให้เงินของคุณกลายเป็น 179,586 บาท หรือหากสามารถทำได้ติดต่อกัน 2 ปี เงินของคุณจะกลายเป็น 322,510 บาท ด้วยเงินทุนเพียง 100,000 บาท เท่านั้น คุณเห็นไหมว่ามันสามารถเติบโตได้อย่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ และหากคุณมีเครื่องมือใดก็ตามที่สามารถทำได้มากกว่า 5% ก็ยิ่งทรงพลังมากยิ่งขึ้นและที่เหลือ คือเวลา ซึ่งเป็นอีกองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับ หลักการนี้

แต่หากมองในอีกมุมคือแทนที่เครื่องมือของหลักการอันทรงพลังนี้มันไม่ได้เป็นผู้ใช้ แต่กลับตกเป็นเครื่องมือของหลักการนี้ ก็กลายเป็นว่าแทนที่คุณจะใช้หลักการเพื่อสร้างการเติบโต สร้างความมั่งคั่งให้ตัวคุณเอง แต่กลับตกเป็นเครื่องมือของการนี้แทน และหลายครั้งคุณก็อาจไม่รู้ตัว การที่คุณต้องตกเป็นหนี้นั่นแหละ เพียงแต่ดอกเบี้ยทั่วไปนั้นมักจะคิดเป็นแบบ รายปี แต่การที่คุณต้องเป็นหนี้ แล้วต้องมาเจอ ดอกเบี้ยทบต้นมัน เป็นอะไรที่น่ากลัวมาก หลายคนมีหนี้โตเป็นเท่าตัวโดยไม่รู้ตัว ยิ่งหลายคนที่ไม่รู้เรื่องของการเงิน และไปเป็นหนี้นอกระบบนั้นมันแทบจะตัดอนาคตกันไปเลยทีเดียว

อยาก ปลดหนี้ ต้องรู้เรื่อง ดอกเบี้ย​ Goo Invest

คุณเห็นอะไรจากภาพนี้บ้าง หากคุณต้องการ ปลดหนี้ ยิ่งเป็น หนี้นอกระบบ ด้วยแล้วยิ่งต้องเข้าใจเรื่องของ ดอกเบี้ยทบต้น หรือ เรื่องพลังทวีค่า เพราะมันจะทำให้ หนี้สิน ของคุณเพิ่มเป็นเท่าตัว หรือ หลายเท่าตัว ได้โดยไม่ทันตั้งตัว และหนี้นอกระบบส่วนใหญ่คงหนี้ไม่พ้น อัตราดอกเบี้ย 20% ต่อเดือนนับว่าเป็น สิ่งที่โหดร้ายสำหรับ ลูกหนี้ อย่างคุณแน่นอน เพราะหากคุณ ค้างชำระหนี้ เพียง 1 ปี แล้วต้องเจอกับ เจ้าหนี้โหด แล้วละก็ชีวิตคุณกำลังตกอยู่ใน ความเสี่ยงสูงมาก

สำหรับผู้ที่เป็น ลูกหนี้ในระบบ หรือผู้ที่มีเจ้าหนี้เป็น แบงค์ หรือ สถาบันการเงิน ก็อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะหากยังเป็นหนี้อยู่ คุณไม่พ้นเรื่องนี้แน่นอน แต่อาจจะไม่หนักเท่ากับผู้ที่เป็น หนี้นอกระบบ และมีโอกาศในการ ปลดหนี้ ได้ง่ายกว่า เท่านั้นเอง แม้ จะมี กฏหมายดอกเบี้ย คุ้มครองลูกหนี้ให้เจ้าหนี้สามารถเก็บ ดอกเบี้ยได้ไม่เกิน ร้อยละ 15 ต่อปี แต่คุณลองคำนวนดูให้ดี ภายในระยะเวลา 5 ปี ด้วยหลักการของ พลังทวีค่า หรือ ดอกเบี้ย ทบต้นมันจำให้ หนี้ของคุณเพิ่มเป็นเท่าตัวได้เลยที่เดียว นี่ยังไม่รวมค่าติดตาม ทวงถาม และ ไหนจะต้องเจอคดีความ ติด Blacklist อีกด้วย

อยาก ปลดหนี้ ต้องลด ดอกเบี้ย เข้าเจรจา

หากคุณมาถึงจุดนี้นั่นอาจหมายถึงคุณต้องเป็นหนี้มาระยะหนึ่งแล้วละไม่รู้จะต้องเริ่มแก้ปัญหา ปลดหนี้ อย่างไรงั้นลองมาเริ่มต้น การเดินหน้าแก้ปัญหานี้กัน ก่อนอื่นคุณต้องเข้าใจเจ้าหนี้ก่อนว่าเขาต้องการหนี้เขาคืนเท่านั้นไม่ได้ต้องการสิ่งอื่นใดมากไปกว่าหนี้ที่เขาปล่อยให้คุณ

 

เริ่มต้นด้วย การเจรจา อย่างที่บอก เจ้าหนี้ เขาต้องหนี้เขาคืน มิได้ต้องการมีเรื่องฟ้องร้อง หรือ ต้องมาคอยติดตามคุณ ดังนั้นให้เริ่มต้นจากการเจรจาขอลด ดอกเบี้ย หรือ หยุดดอกเบี้ย ยิ่งหนี้ในระบบ เขามีนโยบายในการปรับโครงสร้างหนี้ และ มีฝ่าย เจรจาหนี้ อยู่แล้วคงไม่ใช่เรื่องยาก 

แต่สำหรับ หนี้นอกระบบ ก็จะต้องเข้าไปติดต่อโดยตรงกับ เจ้าหนี้ ว่าเราไม่สามารถที่จะรับ ภาระดอกเบี้ย ปริมาณมากได้ จึงจำเป็นต้องขอลด ดอกเบี้ย เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยทบต้นไม่ให้ ดอกเบี้ย มันโตเป็น ดินพอกหางหมู ไปเรื่อย

 

นำเสนอ แผนการชำระหนี้ สำหรับหนี้ในระบบ ท่านสามารถยื่น รายรับของท่าน เพื่อเสนอ แผนการชำระ ของท่านให้ เจ้าหนี้พิจารณา ตามกำลังและยืดระยะเวลาการชำระออกไป เพื่อให้สอดคล้องกับ รายได้ของคุณ แต่สำหรับหนี้นอกระบบ ท่านยิ่งต้องคุยกับเจ้าหนี้ ให้ไวมิฉะนั้นหนี้ของคุณ จะทบต้นไปเรื่อย 

หรืออาจมีการต่อรองลดดอกเบี้ย ที่เกิดขึ้นให้ลดลง และ แจ้งแผนการชำระ ให้กับเจ้าหนี้ทราบ อย่างไรก็ตามข้อสำคัญ หลังการเจรจาเรียบร้อย คือ ห้ามผิดนัดชำระหนี้ อีกเป็นอัน เพราะมันจะยิ่งทำให้ ความน่าเชื่อถือของคุณลดลง และจะหมดโอกาศ การเจรจา อีกต่อไป

 

 

เพิ่มรายได้อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการหา ช่องทางสร้างรายได้เพิ่ม จากเดิม ยิ่งคุณสามารถชำระหนี้ได้ เกินกว่าแผนที่กำหนดหรือเจรจามา จะยิ่งช่วยลด ดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นใหม่และชำระหนี้ได้ไวขึ้น

เรื่อง ลับเศรษฐีนอกตำรา

จากบทความทั้งหมดที่ผ่านมา คุณคงคุ้นชินกับคำว่า ดอกเบี้ยทบต้น กันมากกว่าใช่ไหม ซึ่งมันอาจจะฟังดูน่ากลัวไปสักหน่อย สำหรับคนที่เป็นหนี้ แต่ด้วยหลักการเดียวกันนี้ก็ทำให้เกิดเศรษฐีใหม่ขึ้นหลายคน มันเป็นเรื่อง ลับของเศรษฐีนอกตำรา ที่เขาไม่มีสอนในห้องเรียน และเขาพูดถึงหลักการนี้ว่า พลังทวีค่า จากภาพคุณคงได้เห็นแล้วว่า มันมีพลังแค่ไหน ที่จำทำให้เงินของคุณ งอกเงยได้เพียงแต่คุณต้องมองหากวิธีการ ในการสร้างผลกำไร ให้เติบโตตามอัตรานั้นให้ได้ แม้แต่ผู้ที่เป็นพ่อค้าแม่ขาย ก็สามารถเริ่มต้นศึกษา หลักการของ พลังทวีค่า ได้เพียงแต่คุณต้องรู้จักการขยายการลงทุนหรือธุรกิจของคุณให้เติบโตในอัตราที่คุณวางแผน 

ซึ่งในระบบการเงินนั้นมีหลายช่องทางให้คุณได้เลือกลงทุนไม่ว่าจะเป็น กองทุน หุ้น พันธบัตร ธุรกิจ ดอกเบี้ยเงินฝาก อสังหา อัตราแลกเปลี่ยน  Forex Exchange และอีกมากมาย แต่คุณควรเลือกในสิ่งที่คุณถนัดและนำมาประยุกต์ใช้กับ พลังทวีค่า นี่เป็นหลักการของเศรษฐี หลายต่อหลายคน

และสุดท้ายต้องขอขอบคุณผู้ที่ได้อ่านมาถึงตรงนี้นั่นได้หมายความว่าคุณกำลังได้เดินในเส้นทางของผู้ที่จะ ประสบความสำเร็จ ได้ในไม่ช้า และอย่าลืมกดติดตามเพจของเราเพื่อก้าวใกล้ความสำเร็จให้มากขึ้นไปพร้อมกับเรา หรือศึกษเพิ่มเติมเกียวกับการลงทุนอย่างยั่งยืน เพื่อปลดหนี้ การลงทุนแบบ ESG การลงทุนอย่างยั่งยืน

Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ