LOGO Goo Invest
Categories
ความรู้ทั่วไป

เลือกอย่างไรระหว่าง การลงทุนระยะสั้น หรือ การลงทุนระยะยาว

เลือกอย่างไรระหว่าง การลงทุนระยะสั้น หรือ การลงทุนระยะยาว

เลือกอย่างไรระหว่าง การลงทุนระยะสั้น หรือ การลงทุนระยะยาว การลงทุนระยะสั้น กับ การลงทุนระยะยาว สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่กำลังศึกษาเรื่องของการลงทุน ประเภทแต่ละประเภทของการลงทุน ซึ่งมีทั้งการ การลงทุนระยะสั้น และ การลงทุนระยะยาว สำหรับนักลงทุนมือใหม่อาจเกิดความรังเรและกำลังสับสนว่าควรเริ่มจากการลงทุนระยะยาวหรือระยะสั้นดีกว่ากัน ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักข้อแตกต่าง ข้อดี ข้อเสีย ของการลงทุนทั้ง 2 ประเภทนี้กันก่อนว่าสิ่งไหนตอบโจทย์เราได้ดีกว่า

เลือกอย่างไรระหว่าง การลงทุนระยะสั้น หรือ การลงทุนระยะยาว

การลงทุนระยะยาวคืออะไรและมีอะไรบ้าง

เป็นการลงทุนที่มีการวางแผนไว้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลการตอบแทน ระดับความเสี่ยงที่เราสามารถยอมรับได้ ระยะเวลาการลงทุนเป็นการลงทุนที่มีระยะเวลา 1 ปีเป็นต้นไป ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือว่า เราสะสมความมั่งคั่งมั้นคงให้กับชีวิตเกษียณที่มีประสิทธิภาพ หรือ เหมือนกับเราซื้อของราคาแพงๆไว้เกร่งกำไรในอนาคต ที่คิดว่าจะมีการซื้อขายหรือตามหาในราคาที่แพงขึ้นในอนาคต ฉะนั้นจึงต้องมีการวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบและลงทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อสะสมผลตอบแทนต่อเนื่อง การลงทุนระยะยาวเหมาะกับผู้ที่มีฐานเงินเดือนประจำหรือมีรายรับสม่ำเสมอ
สำหรับประเภทของการลงทุนระยะยาวมีดังนี้
– พันธบัตรรัฐบาล
– หุ้นกู้
– หุ้น
– อสังหาริมทรัพย์
– การลงทุนในของมีค่า
ประโยชน์และความเสี่ยงจากการลงทุนระยะยาว
การลงทุนระยะยาวเป็นการสะสมความมั่งคั่งระยะยาวในอนาคต จึงทำให้ได้ผลตอบแทนมากกว่า อีกทั้งยังเสี่ยงขาดทุนน้อยกว่าการลงทุนระยะสั้น เพราะนักลงทุนให้ความสนใจกับผลตอบแทนสุดท้ายมากกว่าความผันผวนทางการเงินที่เกิดขึ้นในระหว่างลงทุน ข้อเสียในการลงทุนระยาวอาจจะได้ผลตอบแทนที่ช้า สินทรัพย์ที่เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว ส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินที่ต้องใช้เวลาสะสมผลตอบแทนนาน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ประจำหรือคนที่มีเงินเก็บ

การลงทุนระยะสั้นคืออะไรและมีอะไรบ้าง

การลงทุนระยะสั้นคือ การลงทุนเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะสั้นไม่เกิน 3 เดือน – 3 ปี แต่ก็มีสินทรัพย์หลายชนิดที่สามารถทำกำไรแบบวันต่อวันได้เช่นกันเป็นสินทรัพย์ที่สามารถนำไปเปลี่ยนเป็นเงินได้เร็วกว่าการลงทุนแบบระยะยาว                                                                                                            สำหรับประเภทของการลงทุนระยะสั้นมีดังนี้
– ตราสารหนี้ระยะสั้น
– หุ้นกู้ระยะสั้น
– หุ้น (Day Trade)
– ซื้อขายใบจองอสังหาริมทรัพย์
– การลงทุนในค่าเงิน
– การลงทุนในค่าเงินดิจิตอล
ประโยชน์และความเสี่ยงจากการลงทุนระยะสั้น
การลงทุนระยะสั้นเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูงในเวลาสั้น ทำให้นักลงทุนมีสภาพคล่องทางการเงินสูงกว่าการลงทุนระยะยาว การลงทุนระยะสั้นมีความผันผวนทางการเงินสูง นักลงทุนจึงต้องศึกษา ติดตามปัจจัยที่เกี่ยวข้อง และประเมินความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา

สำหรับคำตอบของการลงทุนระยะสั้น หรือ การลงทุนระยะยาว เลือกอะไรดีกว่ากัน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายทางการเงินของผู้ลงทุน ว่า มีการกำหนดเป้าหมายการลงทุนอย่างไร เป้าหมายในการลงทุนของแต่ละคน ความจำเป็นของแต่ละคนในการออม และ การใช้จ่ายย่อมไม่เหมือนกัน ถ้าหากชอบการซื้อมาขายไปต้องการเงินหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา คนที่ต้องการผลตอบแทนในช่วงเวลาสั้น ก็จะเหมาะกับการลงทุนระยะสั้น หรือ เพื่อเป้าหมายเงินก้อนใหญ่ การลงทุนระยะยาวจะตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะมีเวลาในการสะสมผลตอบแทนอย่างมั่นคง แต่ถ้าต้องการเสริมสภาพคล่องทางการเงินในชีวิตประจำวัน การลงทุนระยะสั้นเหมาะสมมากกว่า หาคำตอบการลงทุนให้ตัวเองตั้งเป้าหมายของตัวเองเพียงเท่านี้ก็จะทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในการขาดทุนมากขึ้น

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Gold Analysis การลงทุน ข่าวหุ้น ธุรกิจ

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 25-29 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 25-29 กันยายน 2566

   

/ไม่มีคาดการณ์หรือคาดการณ์ไม่ส่งผลต่อราคา

/คาดการณ์บวกทอง

/คาดการณ์ลบทอง

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 25 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 25 กันยายน 2566

เดิม 85.7 / คาด 85.1

เดิม -44 / คาด -33

เดิม -14.9 / คาด -10.3

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 26 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 26 กันยายน 2566

เดิม -1.2% / คาด 0.2%

เดิม 0.3% / คาด 0.5%

เดิม 106.1 / คาด 105.5

เดิม 714K / คาด 699K

เดิม -7 / คาด -6

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 27 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 27 กันยายน 2566

เดิม -25.5 / คาด -25.8

เดิม -0.4% / คาด -1.1%

เดิม 1.3% / คาด 1.2%

เดิม 0.4% / คาด 0.1%

เดิม -5.2% / คาด -0.5%

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 28 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 28 กันยายน 2566

เดิม 0.3 / คาด 0.3 (+- ทอง)

เดิม 2.6% / คาด 3.5%

เดิม 2.1% / คาด 2.2%

เดิม 201K / คาด 214K

เดิม 2.0% / คาด 2.0% (+- ทอง)

เดิม 0.9% / คาด -1.1%

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 29 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 29 กันยายน 2566

เดิม -0.6% / คาด 0.6%

เดิม -0.8% / คาด 0.5%

เดิม -10.8B / คาด -14.5%

เดิม 0.2 / คาด 0.2 (+- ทอง)

เดิม 3.4% / คาด 3.2%

เดิม 0.3% / คาด -0.4%

เดิม 1.0% / คาด -0.3%

เดิม 18K / คาด 15K

เดิม -0.5% / คาด 0.2

เดิม 49K / คาด 48K

เดิม 1.4B / คาด 1.5B

เดิม 5.3% / คาด 4.8%

เดิม 5.2% / คาด 4.5%

เดิม 0.3% / คาด -0.1%

เดิม 0.2% / คาด 0.2% (+- ทอง)

เดิม -90.9B / คาด -91.2B

เดิม 0.2% / คาด 0.4%

เดิม 0.8% / คาด 0.5%

เดิม -0.2% / คาด -0.1%

เดิม 48.7 / คาด 47.5

เดิม 67.7 / คาด 67.7 (+- ทอง)

Categories
Gold Analysis Technical Analysis

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 25-29 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 25-29 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 29 กันยายน 2566

Pivot-Point-29-กันยายน-2566-gooinvest

 

Pivot Point

29 กันยายน 2566 1867.87

S1 1854.26, S2 1843.92, S3 1830.31

R1 1902.16, R2 1891.82, R3 1902.16

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 29 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 29 กันยายน 2566

ภาพ Day ยังคงรอเป็นแนวโน้มทิศทางขาลง แนะนำหาจังหวะเข้า Sell แนวต้านบริเวณ 1880 แนวรับถัดไป 1850

ภาพ 4H แนวโน้มยังคงเป็นขาลงรอสัญญาณการยกตัว แนะนำหาจังหวะเข้า Sell ที่บริเวณ 1870-1880 แนวรับถัดไป 1850

ภาพ H1 แนวโน้มยังคงเป็นขาลงที่แข็งแรง แต่เกิดสัญญาณแท่งเทียนกลับตัวในช่วงท้ายก่อนปิดตลาดเมื่อวานอาจเกิดการพักฐานระยะสั้นแนวต้านบริเวณ 1870-1880 หากไม่สามารถกลับตัวขึ้นมาได้ยังคงมองเป้าถัดไปที่ 1850

แนวโน้มของดอลลาร์ ส่งสัญญาณกลับตัวอาจเกิดการพักฐานระยะสั้น แนวรับที่ 104 ติดตามเป้าหมายถัดไปที่ 108

สามารถติดตามวีดีโอการวิเคราะห์ได้ที่ช่อง Youtube Goo Invest Trade

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 28 กันยายน 2566

Pivot-Point-28-กันยายน-2566-gooinvest

 

Pivot Point

28 กันยายน 2566 1888.28

S1 1872.77, S2 1864.17, S3 1848.66

R1 1896.88, R2 1912.39, R3 1920.99

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 28 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 28 กันยายน 2566

ภาพ Day ยังคงเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องโดยเคลื่อนตัวตามกรอบ Sideway Down ยังไม่มีการส่งสัญญานกลับตัวใดๆที่ชัดเจน หลังลงทดสอบกรอบแนวรับที่ 1870 ยังคงติดตามมองเป้าหมายถัดไปด้านล่างที่บริเวณ 1850

ภาพ 4H แนวโน้มยังคงเป็นขาลง รอสัญญาณการยกตัว และแนะนำหาจังหวะเข้า Sell ที่บริเวณ 1885

ภาพ H1 ไม่มีการส่งสัญญานกลับตัวขึ้นที่ชัดเจนยังคงเป็นช่วงที่ควรจะหลีกเลี่ยง แนวต้านที่บริเวณ 1885

แนวโน้มของดอลลาร์ ตอนนี้ราคาทดสอบที่ 106.3 แนวรับที่ 104 ติดตามเป้าหมายถัดไปที่ 108

สามารถติดตามวีดีโอการวิเคราะห์ได้ที่ช่อง Youtube Goo Invest Trade

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 27 กันยายน 2566

Pivot-Point-27-กันยายน-2566-gooinvest

 

Pivot Point

27 กันยายน 2566 1907.03

S1 1895.92, S2 1889.55, S3 1878.44

R1 1913.40, R2 1924.51, R3 1930.88

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 27 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 27 กันยายน 2566

ภาพ Day ยังคงเคลื่นตัวตามกรอบ Sideway Down ยังคงติดตามมองกรอบเป้าหมายด้านล่างที่บริเวณ 1870 เป็นเป้าหมายแรก ภาพ Day

ภาพ 4H แนวโน้มกลับมาเป็นขาลง แนะนำหาจังหวะเข้า Sell ที่บริเวณ 1915

ภาพ H1 ยังคงเป็นขาลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับ H1 แนะนำหาจังหวะเข้า Sell ที่บริเวณ 1907-1910 ต้านถัดไปที่ 1915

แนวโน้มของดอลลาร์ ดอลลาร์แข็งตัวตอนนี้ราคาทดสอบที่ 105.9 แนวรับที่ 104 แนวต้านที่ 106 ถ้าหลุดแนวต้านขึ้นไป ติดตามเป้าหมายที่ 108 ถ้าหากกลับตัวหลุด 104 ลงมายังมองเป้าหมายแรกที่ 100 เป้าหมายถัดไปที่ 98

สามารถติดตามวีดีโอการวิเคราะห์ได้ที่ช่อง Youtube Goo Invest Trade

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 26 กันยายน 2566

Pivot-Point-26-กันยายน-2566-gooinvest

 

Pivot Point

26 กันยายน 2566 1919.80

S1 1912.55, S2 1907.77, S3 1900.52

R1 1924.58, R2 1931.83, R3 1936.61

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 26 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 26 กันยายน 2566

ภาพ Day ยังคงรอการส่งสัญญานการปรับตัวขึ้นมา สำหรับภาพ Day ตอนนี้มองว่าเป็นการพักฐาน ยังคง Sideway Down ถ้าหากยังไม่สามารถเคลื่อนตัวทะลุผ่าน 1950 ขึ้นไปได้ ติดตามมองกรอบเป้าหมายด้านล่างที่บริเวณ 1870

ภาพ 4H แนวรับบริเวณ 1915-1910 แนวต้านบริเวณ 1930 ถ้าหากยังไม่สามารถเคลื่อนตัวทะลุผ่านแนวรับลงมาได้ มองเป้าหมายการส่งสัญญาณการกลับตัวที่บริเวณ 1930

ภาพ H1 ยังคงเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องไม่มีการส่งสัญญานกลับตัวขึ้นที่ชัดเจนยังคงเป็นช่วงที่ควรจะหลีกเลี่ยง สำหรับ H1 แนะนำหาจังหวะเข้า Sell รอสัญญาณการยกตัวกลับขึ้นมาที่บริเวณ 1922-1920

แนวโน้มของดอลลาร์ ยังคงเคลื่อนตัวในรูปแบบ Sideway ไม่มีการส่งสัญญานกลับตัว แนวต้านที่ 106 ถ้าหลุดแนวต้านขึ้นไป ติดตามเป้าหมายที่ 108 แนวรับที่ 104 ถ้าหากกลับตัวหลุด 104 ลงมายังมองเป้าหมายแรกที่ 100 เป้าหมายถัดไปที่ 98

สามารถติดตามวีดีโอการวิเคราะห์ได้ที่ช่อง Youtube Goo Invest Trade

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 25 กันยายน 2566

Pivot-Point-25-กันยายน-2566-gooinvest

 

Pivot Point

25 กันยายน 2566 1923.47

S1 1917.96, S2 1910.75, S3 1905.24

R1 1930.68, R2 1936.19, R3 1943.40

บทวิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค 25 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำวันที่ 25 กันยายน 2566

ภาพ Day ยังคง Sideway Down ยังไม่มีการส่งสัญญานใดๆที่ชัดเจนการปรับตัวขึ้นมายังคงมองว่าเป็นการพักฐาน ยังติดตามมองจุดเปลี่ยน Trend สำคัญบริเวณ 1950 ถ้าหากสามารถกลับตัวขึ้นไปได้ มีโอกาสที่ Day จะเปลี่ยน Trend เป็นขาขึ้น ถ้าหากยังไม่สามารถเคลื่อนตัวทะลุผ่าน 1950 ขึ้นไปได้ ติดตามมองกรอบเป้าหมายด้านล่างที่บริเวณ 1870-1850

ภาพ 4H ยังคงเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเคลื่อนตัวในรูปแบบ Sideway up ถ้าหากสามารถกลับตัวได้ มองเป้าหมายแนวรับที่บริเวณ 1950-1960 แต่ยังคงมีโอกาศ sideway ในกรอบเล็ก 1930-1910 เพื่อลุ้นให้ Week นี้ปิดโดจิ

ภาพ H1 ยังคงเป็นขาลง แนวรับ 1910 ถ้าหากสามารถเคลื่อนตัวทะลุผ่าน 1930 ขึ้นไปได้ ติดตามมองกรอบเป้าหมายที่บริเวณ 1950-1960

แนวโน้มของดอลลาร์ ยังคงเคลื่อนตัวในรูปแบบ Sideway แนวต้านที่106 แนวรับที่ 104 ถ้าหากกลับตัวหลุด 104 ลงมายังมองเป้าหมายแรกที่ 100 เป้าหมายถัดไปที่ 98

สามารถติดตามวีดีโอการวิเคราะห์ได้ที่ช่อง Youtube Goo Invest Trade

บทวิเคราะห์ราคาทองคำรายสัปดาห์วันที่ 25-29 กันยายน 2566

บทวิเคราะห์ราคาทองคำรายสัปดาห์วันที่ 25-29 กันยายน 2566

ภาพเดือน ยังมีแนวโน้มการเคลื่อนตัวในรูปแบบ ขาขึ้น มีแนวรับ 1850 แนวต้าน 2080 และเป้าหมายที่ 2300 แต่ยังอยู่ในช่วงย่อตัวตามแนวโน้มจังหวะเข้าควรรอให้ภาพ Week และ Day กลับตัวขึ้นหลัง Sideway Down ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา

ภาพ Week ภาพรวมยังมีแนวโน้ม Sideway Down ไม่มีการส่งสัญญานกลับตัวขึ้นที่ชัดเจนการปรับตัวขึ้นมายังคงมองว่าเป็นการพักฐานตามกรอบราคาเท่านั้น ถ้าหากสามารถกลับตัวขึ้นไปได้ ติดตามมองเป้าหมายที่บริเวณ 2150 เป็นเป้าหมายสำหรับ Week

ภาพ Day ยังคงเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องโดยเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบ Sideway จุดเปลี่ยน Trend บริเวณ 1950 ถ้าหากราคาไม่สามารถเคลื่อนตัวทะลุผ่านแนวรับขึ้นไปได้ ติดตามมองกรอบเป้าหมายด้านล่างที่บริเวณ 1870-1850 แต่ถ้าหากราคาสามารถกลับตัวขึ้นไปได้มองเป้าหมาย ที่บริเวณ 2150

TF 4H ตอนนี้แนวโน้มการเคลื่อนตัวยังเป็นขาขึ้น มีแนวต้าน 1950 แนวรับ 1910

สามารถติดตามวีดีโอการวิเคราะห์ได้ที่ช่อง Youtube Goo Invest Trade                               

Categories
ความรู้ทั่วไป

การลงทุนในพันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้นกู้ คืออะไร

การลงทุนในพันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้นกู้ คืออะไร

การลงทุนในพันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้นกู้ คืออะไรในยุคปัจจุบันยุคสมัยใหม่เชื่อว่ามีหลายเหตุผลหลายปัจจัยที่ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะวัยนักศึกษาหรือ ว่าวัยเพิ่งเริ่มทำงาน มีความสนใจหันมาศึกษาเรื่องการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากอยากสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเอง ที่สมัยนี้เรามักจะเรียกกันว่า วัยรุ่นสร้างตัว ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักการลงทุนแต่ละประเภทกันก่อน

การลงทุนในพันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้นกู้ คืออะไร

การลงทุนตราสารหนี้ คืออะไร

คือการลงทุนระยะสั้น ที่นักลงทุนจะอยู่ในสถานะเจ้าหนี้ของผู้ออกตราสารหนี้ อีกที มีความเสี่ยงต่ำ ปลอดภัย เงินต้นไม่หาย โดยเฉพาะตราสารหนี้จากรัฐบาล แต่การลงทุนตราสารหนี้ เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนต่ำ หากมีภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จะทำให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงลดลง โดยตราสารหนี้ จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. รัฐบาลหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะมีการแบ่งออกไปแต่ละประเภทแบบแยกย่อย                                    

– รัฐบาล มีตั๋วเงินคลัง เป็นตราสารหนี้ระยะสั้น มีอายุไม่เกิน 365 วัน มีพันธบัตรรัฐบาล เป็นตราสารหนี้ระยะยาวมีอายุตั้งแต่ 365 วัน

– ธนาคารแห่งประเทศ ตั๋วเงินธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นตราสารหนี้ระยะสั้น มีอายุไม่เกิน 365 วัน พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นตราสารหนี้ระยะยาวมีอายุตั้งแต่ 365 วัน                                            

– รัฐวิสาหกิจ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ เป็นตราสารหนี้ระยะยาว มีอายุมากกว่า 365 วัน                          

2. บริษัทเอกชน ตราสารหนี้ที่ออกโดยกลุ่มนี้จะเรียกโดยรวมว่า หุ้นกู้ โดย ระยะสั้น มีอายุไม่เกิน 270 วัน ระยะยาว มีอายุตั้งแต่ 270 วัน

3. องค์กรต่างประเทศ ตราสารนี้จะเป็นตราสารหนี้ระยะยาว จะเรียกว่า ตราสารหนี้ต่างประเทศซึ่งอาจจะเป็นบริษัทต่างชาติ หรือ หน่วยงานภาครัฐต่างชาติก็ได้

ซึ้งการได้รับผลตอบแทนนั้น จะได้ในรูปของดอกเบี้ย และ รับเงินลงทุนคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา สำหรับระยะเวลาการลงทุนจะขึ้นอยู่กับชนิดของตราสารหนี้ มีการกำหนดระยะเวลาการจ่ายผลตอบแทนที่ชัดเจน

การลงทุนในรูปแบบหุ้นกู้คืออะไร

หุ้นกู้จัดเป็นตราสารหนี้ ผู้ถือตราสารหรือนักลงทุน “มีสถานะเป็นเจ้าหนี้”มีผลตอบแทนแน่นอนผลตอบแทนที่ได้จะมีความสม่ำเสมอและแน่นอนโดยอยู่ในรูปของดอกเบี้ยอายุตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ โดยความเสี่ยงจะขึ้นอยู่กับอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารหนี้ จัดอยู่ในกลุ่มประเภทของการลงทุนระยะยาวได้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินในบัญชีเงินฝากเราสามารถคาดเดาผลตอบแทนได้มีการกำหนดระยะเวลาการจ่ายผลตอบแทนที่ชัดเจน

ถึงแม้ว่าการลงทุนที่กล่าวมาข้างต้นถึงจะจัดอยู่กลุ่มประเภทของการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลประเมินความสามารถในการชำระหนี้และเช็คเครดิตจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือด้วยตัวของท่านเองเนื่องจากเป็นการลงทุนเราจึงต้องมีการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบจึงจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจความเสี่ยงของประเภทของการลงทุนอย่างละเอียด

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
Gold Analysis การลงทุน ข่าวหุ้น ธุรกิจ

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 18-22 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 18-22 กันยายน 2566

   

/ไม่มีคาดการณ์หรือคาดการณ์ไม่ส่งผลต่อราคา

/คาดการณ์บวกทอง

/คาดการณ์ลบทอง

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 18 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 18 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 19 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 19 กันยายน 2566

เดิม 195.9B / คาด 116.5B

เดิม 35.8B / คาด 30.2B

เดิม 5.3% / คาด 5.3% (+- ทอง)

เดิม 5.3% / คาด 5.3% (+- ทอง)

เดิม 1.44M / คาด 1.45M

เดิม 1.45M / คาด 1.44M

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 20 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 20 กันยายน 2566

เดิม -1.1% / คาด 0.1% 

เดิม 6.8% / คาด  7.1%

เดิม 6.9% / คาด  6.8%

เดิม -0.4% / คาด 0.2%

เดิม 0.1% / คาด 0.2%

เดิม 9.0% / คาด 9.3%

เดิม 1.7% / คาด 1.5%

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 21 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 21 กันยายน 2566

เดิม 5.50% / คาด 5.50% (+- ทอง)

เดิม 3.5B / คาด 9.8B

เดิม 8-0-1 / คาด 8-0-1 (+- ทอง)

เดิม 5.25% / คาด 5.50%

เดิม 220K / คาด 222K

เดิม 12.0 / คาด -0.4

เดิม -219B / คาด -220B

เดิม -16 / คาด -17

เดิม 4.07M / คาด 4.10M

เดิม -0.4% / คาด -0.4% (+- ทอง)

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 22 กันยายน 2566

ตัวเลขสำคัญทางเศรษฐกิจวันที่ 22 กันยายน 2566

เดิม -25 / คาด -26

เดิม -1.2% / คาด 0.5%

เดิม 46.0 / คาด 46.3

เดิม 46.0 / คาด 46.0 (+- ทอง)

เดิม 39.1 / คาด 39.5

เดิม 47.3 / คาด 47.2

เดิม 43.5 / คาด 44.0

เดิม 47.9 / คาด 47.7

เดิม 43.0 / คาด 43.5

เดิม 49.5 / คาด 49.1

เดิม -15 / คาด -18

เดิม 47.9 / คาด 47.9 (+- ทอง)

เดิม 50.5 / คาด 50.8

Categories
ความรู้ทั่วไป

การปรับพอร์ตเมื่อเจอวิกฤตหรือเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนไป

ปรับพอร์ตเมื่อเจอวิกฤตสภาวะตลาดเปลี่ยนไป

ปรับพอร์ตเมื่อเจอวิกฤตสภาวะตลาดเปลี่ยนไป…!สิ่งนี้สำคัญหรือไม แล้วทำไมเราต้องปรับพอร์ต การปรับพอร์ตคือการปรับสมดุลพอร์ตสอดคล้องตรงกับสัดส่วนการลงทุนตามที่เราวางแผนไว้ปรับให้ตรงตามความต้องการตามช่วงอายุช่วงเวลาของผู้เล่น และ ที่สำคัญเราควรปรับพอร์ตให้ตรงกับสถานการณ์เศษรฐกิจ ณ ปัจจุบัน และ ในอนาคต ถ้าจะพูดให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็คือ การขายสินทรัพย์ที่มีสัดส่วนเกินกำหนดออก และ ซื้อสินทรัพย์ที่สัดส่วนต่ำกว่ากำหนดเข้ามา เพื่อบริหารความเสี่ยงให้น้อยลง สามารถทำได้ทั้งการซื้อ-ขาย และ การสลับสินทรัพย์ต่างๆ ตามความเหมาะสมของเจ้าของพอร์ต

ปรับพอร์ตเมื่อเจอวิกฤตสภาวะตลาดเปลี่ยนไป

การปรับพอร์ตเมื่อเจอวิกฤตหรือเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนไป

การปรับพอร์ตเมื่อเจอวิกฤตหรือเมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยนไป

สถานการณ์ของตลาดอาจมีปัจจัยที่ต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น การปรับพอร์ตจึงเป็นสิ่งที่ควรจะทำ เพื่อรับมือสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งสภาวะเศรษฐกิจหรือสภาวะของตลาด มีหลายปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การปรับพอร์ต ของแต่ละคนนั้น ไม่เหมือนกัน ต้องดูตามเป้าหมายระยะการลงทุน ว่าลงทุนสั้น หรือ ระยะยาว นอกจากสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลง นักลงทุนควรปรับพอร์ตในระยะเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี เราปรับพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงจากสภาวะตลาด และ เพิ่มโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้น การปรับพอร์ต เมื่อสภาวะตลาดเปลี่ยน ควรหมั่นสังเกตแนวโน้มของตลาดอยู่เสมอ ว่าเป็นขาขึ้นหรือขาลง ควรหาจังหวะ ในการปรับพอร์ตให้ดี เพราะนี้ก็เป็นอีกข้อที่สำคัญ สถานการณ์ในตลาดค่อนข้างที่จะคาดเดาได้ยาก

ถ้าหากว่าสภาวะของตลาดอยู่ในช่วงที่เป็นขาขึ้น

ถ้าหากว่าตลาดเป็นขาขึ้น ควรให้ความสำคัญกับ สินทรัพย์ที่มีโอกาสทำกำไรสูง ปรับสัดส่วนพอร์ตเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งไปทางกองทุนรวมที่ให้ผลตอบแทนสูงและมีความเสี่ยงปานกลางมีโอกาสที่เม็ดเงินจะไหลไปยังกองทุนรวมหุ้นแล้วลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นแทน 

ถ้าหากว่าสภาวะของตลาดอยู่ในช่วงที่เป็นขาลง

การลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพราะว่าช่วงที่ตลาดเป็นขาลงนั้นคือการแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจ ใน20% ของพอร์ต ก็อาจลดสัดส่วนให้เหลือเพียง 15% ของพอร์ต แล้วไปเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นแทน เน้นไปยังกองทุนรวมตราสารหนี้กองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำเน้นสินทรัพย์ที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น

ในยุคปัจจุบัน มีนักลงทุนหน้าใหม่เกิดขึ้นมากมาย มีสินทรัพย์หลากหลาย ที่เป็นสิ่งล่อตาล่อใจ ให้ทุกคนอยากประสบความสําเร็จ เพราะฉะนั้น นักลงทุนทุกคนควรมีสติรอบคอบทุกครั้งที่มีการลงทุนหรือมีการปรับพอร์ต การปรับพอร์ตนั้นสามารถควบคุมความการลดความเสี่ยงได้ดีกว่าการที่ไม่ปรับพอร์ตเลย ซึ่งความถี่ในการปรับพอร์ตขึ้นอยู่กับพอร์ตของนักลงทุนว่าสัดส่วนเป็นอย่างไร อย่างน้อยควรปรับภายใน 6เดือน ถึง 1ปี เพื่อให้พอร์ตของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Categories
ความรู้ทั่วไป

Chicago Mercantile Exchange (CME) คืออะไร

Chicago Mercantile Exchange (CME) คืออะไร

Chicago Mercantile Exchange หรือ cme แพลตฟอร์มการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่นที่ได้รับการควบคุมอย่างถูกต้อง ที่สำคัญ ยังเป็นตลาดฟิวเจอร์สที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา และยังไม่พอ ยังเป็นตลาดตลาดฟิวเจอร์สที่ใหญ่ที่สุดในโลก CME เป็นตลาดหลักทรัพย์ ที่มีหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ภาคเกษตรทรัพยากรธรรมชาติ และโลหะมีค่า ไปจนถึงดัชนีตลาด การเทรด อุตุนิยมวิทยา หรือแม้แต่อสังหาริมทรัพย์

Chicago Mercantile Exchange (CME)

CME ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2441 ในฐานะบริษัทที่ไม่แสวงหาผลกำไร

ก่อตั้งโดยการรวมตลาดหลักทรัพย์ขั้นนำสองแห่งเข้าด้วยกัน ซึ่งก็คือ ชิคาโกและนิวยอร์ก เป็นผู้บุกเบิกการแลกเปลี่ยนทางการเงินในสหรัฐฯ เป็นแพลตฟอร์มแรกสุดที่ทำข้อตกลงสัญญาซื้อขายล่วงหน้า สัญญาซื้อขายล่วงหน้าคืออะไร…!คือ สัญญาตราสารอนุพันธ์ทางการเงินที่อนุญาต ให้คู่สัญญา ซื้อหรือขายสินทรัพย์ ตามวันที่และราคาที่เรากำหนดไว้ ในอนาคตซึ่งเราจะกำหนดไว้ล่วงหน้า ให้บริการเกือบ 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 5 วัน/สัปดาห์ ตลาด CME Group เป็นตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก และ CME ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2545

แพลตฟอร์มหลักๆในการเทรดของ CME

เป็นระบบออนไลน์ เป็นรูปแบบธุรกิจดิจิทัล โดยใช้ Merc คือการใช้ระบบเทรด CME Globex Trading System ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่คิดเป็น 90% ของธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด และอีกหนึ่งตัวเลือกคือการ Open Outcry ซึ่งเป็นวิธีการซื้อขายแบบดั้งเดิมที่เกี่ยวข้องกับ Trading floor ยังคงใช้ท่าทางมือเฉพาะที่ใช้กันมาตั้งแต่ปี 1970 CME ใช้ระบบการซื้อขาย CME Globex เป็นแกนหลักที่ช่วยให้นักเทรดสามารถซื้อขายได้ตลอด ทำให้สามารถเทรดได้จากที่บ้านด้วยระบบเป็นอิเล็กทรอนิกส์ 100%

ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์และตราสารต่างๆที่ซื้อขายผ่าน CME เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วยวิวัฒนาการของตลาดหลักทรัพย์ อย่างเช่น

* สินค้าเกษตร (Agricultural commodity)

* ผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราดอกเบี้ยและการเทรด Forex

* คริปโตฯ และโลหะมีค่า

* ดัชนีหุ้นพลังงาน อนุพันธ์สภาพอากาศ และมีผลิตภัณฑ์และตราสารต่างๆอื่นๆอีกมายมาย

CME ดำเนินการอย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย 100% เป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับการนิยมเป็นที่ยอมรับและปลอดภัย มีระยะเวลาการเปิดดำเนินงานในตลาดมาหลายปี และมีลูกค้าหลายล้านรายทั่วโลก แต่ cme มีข้อเสียตรงที่ นักเทรดคริปโตจะไม่สามารถซื้อและขายเหรียญกับcmeได้โดยตรง แต่ก็ยังสามารถซื้อขาย Bitcoin ล่วงหน้าได้ อย่างไรก็ตามสำหรับทุกท่านที่เป็นนักเทรดมือใหม่ หรือนักลงทุนที่พึ่งเริ่มอยากลงทุน ทุกท่านควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีเงื่อนไขการเทรดที่ดีและตรงใจท่านเลือกโบรกที่มีตัวเลือกตราสารที่หลากหลายที่ท่านคิดว่าเหมาะสมกับตัวท่านเองจะได้เป็นการเริ่มต้นการลงทุนที่ดี

Categories
ความรู้ทั่วไป

เคล็ดลับความสำเร็จของเหล่าคนดังและนักธุรกิจระดับโลก

เคล็ดลับความสำเร็จของเหล่าคนดังและนักธุรกิจระดับโลก

เคล็ดลับความสำเร็จของเหล่าคนดังและนักธุรกิจระดับโลก ความสำเร็จ…? คืออะไร ความสำเร็จ และ ความล้มเหลวเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกคนต้องเจอ โดย ความสำเร็จ ของแต่ละบุคคลนั้นไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่จุดมุ่งหมายของแต่ละคนที่ตั้งเป้าหมายไว้ ดังนั้นความสำเร็จจึงหมายถึง ความสามารถ การเอาชนะปัญหา อุปสรรค หรือแม้กระทั่งการทำงานให้บรรลุไปถึงจุดมุ่งหมายที่เราวางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ นั้นคือความสำเร็จ การที่คนหนึ่งคนจะก้าวไปสู่การประสบความสำเร็จในชีวิตได้อย่างสง่างาม บุคคลเหล่านี้มีวิธีคิดอย่างไร มีการสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน ค้นหา Passion ให้ตัวเองยังไง ที่พาตัวเองมาไกลถึงระดับโลก เราไปทำความรู้จัก ผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุค เหล่าคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก กันครับ ว่าคนเหล่านี้มีวิธีคิดมีเคล็ดลับความสำเร็จอย่างไร

เคล็ดลับความสำเร็จของเหล่าคนดังและนักธุรกิจระดับโลก

Warren Edward Buffett ( วอร์เร็น เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ )

วอร์เรน บัฟเฟตต์ เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ 1930 ที่เมือง โอมาฮา รัฐเนแบรสกา ประเทศ สหรัฐอเมริกา วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็น CEO ของบริษัท เบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ เป็นสุดยอดนักลงทุนระดับโลก ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก นักลงทุนที่เก่งที่สุดตลอดกาล  และ เป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอันดับที่ 5 ถือครองสินทรัพย์รวม 118,000 ล้านดอลลาร์ และมีสถิติว่าเป็นผู้บริจาคเงินตลอดชีวิตให้กับการกุศลมากที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบันด้วยเงินมูลค่า 46,100 ล้านดอลลาร์วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกว่า สิ่งที่ควรลงทุนมากที่สุดคือ การลงทุนในชีวิตของตัวเอง เพราะตัวเราเอง คือสินทรัพย์ที่มีค่ามากที่สุด ดังนั้นเราควรมอง ว่าอะไรคือสิ่งที่ตัวเรารักและอยากทำมากที่สุด เมื่อเรารู้แล้วก็จงลงทุนในสิ่งนั้น เพราะการลงทุนในชีวิตตัวเอง จะไม่สูญหาย ไม่สูญเปล่าแน่นอน ไม่ว่าเราทำไปไหนทำอะไรสิ่งนั้นก็จะยังคงติดตัวคุณไปตลอดและไม่มีใครจะขโมยไปจากตัวคุณได้  

Warren Edward Buffett ( วอร์เร็น เอ็ดเวิร์ด บัฟเฟตต์ )

Jack Ma ( แจ๊ค หม่า )

แจ๊ค หม่า หรือ หม่ายุน เกิดวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2507 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ครูสอนภาษาอังกฤษที่เมืองหางโจวผู้ยากจน สู่ อภิมหาเศรษฐีอันดับสองของจีน เศรษฐีชาวจีนอันดับ 20 ต้นๆ ของโลก เจ้าของ Alibaba.comซึ่งเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซอันดับต้น ๆ ของจีน และกำลังจะเสนอขายหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์กอย่างหวือหวา สามารถทำให้อาลีบาบามีมูลค่าตลาดอันดับต้น ๆ ของโลก แจ๊ค หม่า มีแนวคิดที่ว่า มองให้ไกล แล้วพยายามไปให้ถึง เขาเชื่อว่า ผู้นำที่ดี ต้องเป็นคนที่มองการณ์ไกลและต้องอยู่นำหน้าคู่แข่ง 1 ก้าวเสมอ “แม้ว่าคุณจะทำผิดพลาดเป็น 100 ครั้ง หรือ 1,000 ครั้ง คุณจงอย่ายอมแพ้  เพราะความผิดหวังจะเป็นแรงผลักดัน ให้คุณต้องฝึกซ้อมให้มากยิ่งขึ้น ความล้มเหลวเป็นเรื่องปกติ กุญแจที่จะพาเราสู่ความสำเร็จ คือ การที่เราต้องรักและภูมิใจในงานของตัวเองและไม่ยอมรับคำปฏิเสธง่ายๆ

 

Pablo Ruiz Picasso ( ปาโบล รุยซ์ ปีกัสโซ )

ปาโบล ปิกัสโซ จิตรกรระดับโลกผู้เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ทางด้านศิลปะหลากหลายสไตล์ เป็นบุคคลที่นิตยสารไทม์ยกย่องให้เป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ในการสร้างสรรค์มากที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 20 และได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะที่มีความสามารถหลากหลาย ปัจจุบันผลงานภาพวาดของเขามีมูลค่าสูงมาก อย่างภาพวาดสีน้ำมัน ชื่อ Women of Algiers มีราคาประมูลสูงถึง 179.36 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5,900 ล้านบาทเลยทีเดียว เป็นภาพเขียนราคาแพงที่สุดในโลกปาโบล ปิกัสโซ เกิดเมือวันที่ 25 ตุลาคม ค.ศ. 1881 ที่เมืองมาลากา ประเทศสเปน พ่อของเขาเป็นครูสอนศิลปะในมหาวิทยาลัย ปิกัสโซ บอกว่า “เขาไม่ได้วาดภาพเพื่อเงิน แต่เขาวาดภาพเพื่อยิ่งใหญ่” เขามองเป้าหมายในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น การที่เขาไปถึงเป้าหมายได้นั้นเขาต้องมีการวางแผนและการลงมือทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ซึ่งต้องใช้ความเชื่อมั่นว่าเขาทำได้ เราสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ เราทุกคนทำได้

ปาโบล ปิกัสโซ จิตรกรระดับโลก

Elon Reeve Musk ( อีลอน รีฟ มัสก์ )

อีลอน มัสก์ เกิด 28 มิถุนายน ค.ศ. 1971 ประเทศแอฟริกาใต้ นักธุรกิจและนักลงทุน ผู้ก่อตั้ง SpaceX ( สเปซเอ็กซ์ ) ธุรกิจการขนส่งทางอวกาศ ซึ่งเขาประกาศไว้ว่าจะพาผู้คนไปท่องอวกาศ และไปตั้งอาณานิคมบนดาวอังคาร และ CEO ของบริษัท Tesla ( เทสลา ) บริษัทยานพาหนะไฟฟ้า ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก สถิติตอนนี้ เรียกได้ว่า เขาเป็น มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก และ ล่าสุดกับตำแหน่งบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทมส์ประจำปี 2021 ปัจจุบัน อีลอน มัสก์ มีทรัพย์สินมูลค่า 253,800 ล้านดอลลาร์ ไปดูกันว่าเวลาว่างเขาทำอะไรบ้าง เขาได้ฉายาว่าเป็น โทนี่ สตาร์ก หรือ Iron Man ในโลกจริง อีลอน มัสก์ กล่าวว่า “I think it is possible for ordinary people to choose to be extraordinary.”(ฉันคิดว่ามันเป็นไปได้สําหรับคนธรรมดาที่จะเลือกที่จะไม่ธรรมดา)ก็คือ ทุกอย่างเป็นไปได้สำหรับทุกคน ที่มีความพยายาม ถึงแม้ว่าเราไม่สามารถเลือกเกิดมารวยได้ แต่เราพยามที่จะทำพยามที่จะประสบความสำเร็จได้ นั่นไม่ใช่อุปสรรคหรือข้ออ้างที่เราจะเลือกประสบความสำเร็จในชีวิต

จุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งความสำเร็จในชีวิตของเรา เริ่มง่ายๆ ด้วยการตอบคำถามที่ว่า อะไร คือ สิ่งที่เราอยากทำอะไรคือสิ่งที่เราทำแล้วมีความสุข และ คิดว่าจะทำมันออกมาได้ดี นั้นแหละสิ่งแรกที่เราควรต้องเริ่มทำ กำหนดเป้าหมายให้ตัวเอง ถ้าเราไม่ได้กำหนดเป้าหมาย เราก็ไม่รู้ว่า จุดไหนคือ คำว่า “ความสำเร็จ”

Categories
ความรู้ทั่วไป

5 คำถามสำคัญก่อนการลงทุน

5 คำถามสำคัญก่อนการลงทุน

5 คำถามสำคัญก่อนการลงทุน คำว่า “การลงทุน” มักจะต่อท้ายด้วยคำว่า “มีความเสี่ยง” ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนเสมอ” ฉะนั้น ผู้ลงทุนทุกท่านควรศึกษา หาความรู้ ทำความเข้าใจ เกี่ยวกับบริษัท หรือ สินค้า ที่น่าสนใจ เงื่อนไขการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ดังนั้นบทความนี้ เราจะมาทบทวนคำถามต่างๆ ก่อนการลงทุน เพื่อป้องกันไม่ให้เงินในมือคุณ สูญหายโดยเปล่าประโยชน์ หรือ หายไปกับความไม่รู้คุณ

“การลงทุน” มักจะต่อท้ายด้วยคำว่า “มีความเสี่ยง” ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนเสมอ”

1.การรู้จักตัวเองให้ดีก่อนลงทุน

เราพบว่าหลายๆคน อยากลงทุน ซึ่งบางคนยังไม่มีความรู้ เรื่องการลงทุนเลย ปัจจัยแรกของการลงทุน คือ สถานภาพทางการเงิน ต้องมีการจัดสัดส่วนของ รายได้ / รายจ่าย / เงินเย็นเงินนอน / เงินเก็บ ต้องคำนวณภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่าเรามีสภาพคล่อง ทางการเงินมากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดมีคำถามขึ้นมาในหัวว่า“มีเงินทุนเท่านี้ ลงทุนอะไรดี” คำถามนี้แปลว่าเรา ยังไม่รู้จักยังไม่มีความรู้ด้านการลงทุนเลย ฉะนั้นอับดับแรกศึกษา หุ้น ที่เราอยากจะลงทุนให้ดี ว่าตัวไหนเหมาะสมกับสถานภาพทางการเงินของเรามากที่สุด โดยไม่ให้เกิดผลกระทบตามมาในภายหลัง

2. คุณรู้อะไรเกี่ยวกับการลงทุนบ้าง

เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว ต่อไป สิ่งที่เราควรรู้ คือการรู้จักศึกษาเรื่องการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุสิ่งทีี่หลายๆคนตัดสินใจลงทุนเป็นอย่างแรกคือ การเล่นหุ้น สำหรับการลงทุนในหุ้นนั้น ต้องอาศัยความรู้ และ ประสบการณ์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจ วิเคราะห์สภาวะอุตสาหกรรม ของบริษัท ที่เราสนใจลงทุน เราต้องมีทักษะบางอย่างที่เฉพาะตัว ในการมองการวิเคราะห์ต่าง ๆ ศึกษา เทคนิคทำกำไรในตลาดหุ้น พิจารณาข้อดี-ข้อด้อย เกี่ยวกับการลงทุน แต่ละประเภท ให้ดี(ซึ้งตรงนี้ถ้าเราศึกษามากๆ เราจะรู้เองโดยธรรมชาติ)ดังนั้น หากเรามีความพร้อมที่จะลงทุนในหุ้นแล้วรู้จักตัวเอง รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนแล้ว เราก็สามารถเริ่มได้เลยสำหรับมือใหม่

3. หุ้นแบบไหนที่ควรจะลงทุน

เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้ว ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนแล้ว เรามาดูว่าหุ้นตัวแรกของเราหรือหุ้นแบบไหนที่เราควรจะลงทุน มันขึ้นอยู่กับ กลยุทธ์ของ แต่ละคน การเลือกซื้อหุ้น อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ ของแต่ละคน เช่น บางทำงานประจำ จะไปเลือกซื้อหุ้น ที่มีราคาขึ้นลง หวือหวา ก็ไม่ได้ยังไม่แนะนำซึ้ง การเลือกซื้อหุ้นจะเรียกว่าเป็นศาสตรหรือศิลป์อย่างหนึ่ง ก็ว่าได้ เพราะไม่ใช่ว่า ทุกคนที่เล่นหุ้น แล้วจะได้กำไร เหมือนกันทุกคน ถึงแม้ว่า เราจะเล่นหุ้น ตัวเดียวกันก็ตาม นักลงทุนควรรู้จุดอ่อนตัวเองและตั้งกฎเกณฑ์ที่จะไม่เล่นหุ้นที่ไม่ถนัด เพื่อลดความเสี่ยง ให้ตัวเอง >>>>>>>> อ่านบทความเกี่ยวกับ “หุ้นแบบไหน…?ที่คุณควรจะซื้อ”

4.ยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน

ผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงขาดทุน จากการลงทุน ได้มากน้อยแค่ไหนการลงทุนแต่ละประเภทมีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันออกไป ทุกครั้งที่ตัดสินใจลงทุน จึงเท่ากับว่าเราเตรียมใจยอมรับความเสี่ยงที่จะตามมาด้วย หรือ อาจจะได้ผลตอบแทนที่ไม่ตรงไปตามที่คาดหวัง เพราะถ้าหากว่านักลงทุนยอมรับความเสี่ยงไม่ได้เลย จะได้พิจารณาการลงทุนตั้งแต่เริ่มต้น เพราะความเสี่ยงจะ มาพร้อมกับการลงทุนเสมอ

5.เงินเข้าออกจากพอร์ตคุณจะบริหารอย่างไร?

การบริหารเงินในพอร์ตก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญและควรวางแผนไว้เพราะว่านี้เป็นตัววัดว่าพอร์ตของเราจะโตได้ในระยะยาวหรือไม่ เราควรมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนว่าจะสะสมเพิ่มเดือนละเท่าไหร่ ปีละเท่าไหร่ ยิ่งพอร์ตใหญ่มากเท่าไหร่ พอร์ตก็จะโตได้มากขึ้นเท่านั้นจะต้องมีการเติมทุนเข้าไปเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น นักลงทุนจึงควรวางแผนหาเงินเติมพอร์ตตลอดเวลาและลดการนำเงินจากพอร์ตออกไปใช้จ่ายเพื่อเพิ่มการสร้างดอกเบี้ยทบต้นให้สูงที่สุด สำหรับนักลงทุนมือใหม่อย่าพึ่งรีบร้อนอยากลงทุนเพื่อสร้างผลกำไร ควรต้องไตร่ตรองให้ดีด้วยว่า เงินก้อนนี้ คือ เงินทั้งหมดที่เราถืออยู่พอร์ตหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเราอย่าพึ่งรีบถอน ให้เก็บหรือเติมเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่า เงินเก็บสำรองสำหรับตัวเองและครอบครัวในยามที่ฉุกเฉิน ฉะนั้นเงินสำหรับลงทุนควรแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน

เห็นได้ว่าในทุกวันนี้ มีคนสนใจเรื่องการลงทุนกันเป็นจำนวนมาก แม้จะมีความเสี่ยง แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกการลงทุนจะให้ผลตอบแทนที่น่าพึ่งพอใจ แต่นี้ก็เป็นอีกทางเลือกของนักลงทุน เพราะ การลงทุนเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก เริ่มจากศึกษาสิ่งที่สนใจแล้วนำมาต่อยอด ยิ่งมีวางแผนที่ดี การลงทุนก็จะได้ดียิ่งขึ้นไปอีก อ่านเพิ่มเติม วิธีเล่นหุ้น และเทคนิคเอาตัวรอดในตลาดหุ้น จะต้องเข้าใจในสิ่งที่ตนเองกำลังลงทุน

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ