Categories
ข่าวหุ้น

4 วิธีลงทุนทองคำที่มือใหม่ไม่ควรพลาด

4 วิธีลงทุนทองคำที่มือใหม่ไม่ควรพลาด

4วิธีลงทุนทองคำ Goo Invest

หากคุณกำลังมองหาการลงทุนที่ช่วยเพิ่มช่องทางการหารายได้ของตัวเองอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนกับอะไร วันนี้ Goo Invest จะมาแนะนำ ‘5 วิธีเริ่มต้นลงทุนทองคำ’ ที่จะเป็นตัวช่วยประกอบการตัดสินใจในการลงทุน โดยจะมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปดูกันได้เลย

 1.ศึกษาข้อมูลของตลาดทองคำ และขั้นตอนการลงทุนทองคำ เช่นเรื่องค่าเงิน กองทุน ฯลฯ

การลงทุนทองคำจะต้องสังเกตการเปลี่ยนแปลงของตลาดทองคำอยู่เสมอ และตรวจดูค่าเงินประจำวันว่าค่าเงินแข็งหรืออ่อน รวมไปถึงทำการศึกษากองทุนต่าง ๆ  เพื่อให้รู้แนวทางการลงทุน และทำกำไรได้อย่างปลอดภัยที่สุด

 2.วิเคราะห์และดูสถานการณ์ความผันผวนของราคาทองคำในปัจจุบัน โดยใช้วิจารณญาณอย่างละเอียด

ราคาของทองคำจะสูงขึ้นหรือต่ำลง ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยที่ผู้ลงทุนควรพิจารณาก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ค่าดอกเบี้ย, เงินเฟ้อ, ธนาคารกลาง, รวมไปถึงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ความขัดแย้งของประเทศต่าง ๆ ในปัจจุบัน

 3.เลือกวิธีการลงทุนทองคำที่เหมาะกับคุณที่สุด 

การลงทุนทองคำมีหลายช่องด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน Gold Spot ที่เป็นการลงทุนที่จะได้รับกำไรจากส่วนต่างของการซื้อขายราคาทองในตลาดโลก หรือ Gold Future ที่ใช้เงินลงทุนน้อย วางเพียงเงินหลักประกันขั้นต้นก็ลงทุนได้ทันที (เพียงแค่คุณต้องเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ และปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ)

 4.หาผู้เชี่ยวชาญในด้านการลงทุน คอยให้คำปรึกษากับคุณ

การลงทุนทองคำสำหรับคนที่ไม่มีความรู้มาก่อนอาจเป็นเรื่องยาก หากคุณมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนทองคำคอยให้คำปรึกษา อย่าง Goo Invest ก็จะเป็นตัวช่วยที่สามารถเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนของคุณได้มากยิ่งขึ้น แถมยังสามารถศึกษาได้ฟรี ๆ อีกด้วย

โดยคุณนั้นสามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ และอัพเดทบทวิเคราะห์ทองคำได้ฟรี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปีได้เลยตอนนี้ที่ Line Group >> https://bit.ly/35Odlar

หรือติดต่อเราสอบถามเพิ่มเติม Line @ : @gooinvesttrade หรือลิงก์ https://bit.ly/2Nuxmd0

พูดคุยอัพเดทบทวิเคราะห์ที่กลุ่มไลน์ https://bit.ly/35Odlar

เปิดบัญชีเทรด Gold spot เพื่อสนันสนุนเรา 

exness

 https://one.exness.link/a/a7jei14n1g

 XM

 https://clicks.pipaffiliates.com/c?c=633559&l=th&p=1 

Facebook Page https://www.facebook.com/Goo.Investor 

โหลด Template วิเคราะห์แนวโน้มทองคำ 

https://www.goo-invest.com/ 

สอบถามเพิ่มเติม 

Line @ : @gooinvesttrade 

หรือคลิ๊กลิ้งด้านล่าง https://bit.ly/2Nuxmd0

#ราคาทองคำ #Goo_คุยทุกเรื่อง #Trade_inside

PTT OR IPO ใหม่ มาแรง

PTTOR IPO ใหม่ มาแรงทำระบบ แบงค์ล่ม PTT OR IPO ใหม่ มาแรง หรือ OR  บริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จ

Read More »

ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 14 ธันวาคม 2564

หุ้นวันนี้

Categories
การลงทุน ข่าวหุ้น ความรู้ทั่วไป ธุรกิจ

เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ

เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ?

         เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ อย่าโทษแต่สิ่งรอบข้างจนลืมมองตัวเอง คนเรามักโทษสิ่งอื่นเสมอแต่ไม่เคยมองตัวเอง โควิด19- ทำให้ทำงานไม่ได้ ต่อให้เจอวิกฤตอะไรคุณก็โทษได้ทั้งนั้น ที่ผ่านมาเห็นแต่คนโทษเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเมื่อไหร่ 20 หรือ 30 ปีก็มีแต่คนบอกเศรษฐกิจไม่ดี ไม่เคยเห็นเลยที่บอกเศรษฐกิจดี แต่ทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ได้เห็นคนประสบความสำเร็จหน้าใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลาแม้จะในช่วงโควิด

เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานเป็นปี ส่งผลกระทบรุนแรงไม่ใช่แค่ เศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ยังรวมไปถึง ภาคธุรกิจ ร้านค้า กิจการ มนุษย์เดือน ฟรีแลนซ์ ที่โดนปรับลดค่าจ้าง ลดค่าใช้จ่าย ภายใน หรือแม้กระทั่ง นักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับผลกระทบ จากวิกฤติครั้งนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป และเพื่อให้ทุกอาชีพสามารถผ่านพ้นวิกฤติการเงินครั้งนี้ไปได้ เราจะมาดูวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอด จากวิกฤติการเงินนี้ได้กัน ว่าธุรกิจหลังโควิด19 มีอะไรบ้าง

1. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่ลดรายจ่ายของความบันเทิง

       ช่วงวิกฤติการเงินสาหัสเช่นนี้ จะใช้จ่ายตามใจชอบเหมือนที่ผ่านมาคงไม่ได้ รายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น รายจ่ายเพื่อความบันเทิงคงจะต้องตัดออกไปก่อน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสถานะการเงินในช่วงวิกฤติให้ผ่านพ้นไปด้วยดี

2. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่จัดระเบียบกระเป๋าเงินของตนเอง

    กระเป๋าการเงินก็เปรียบเสมือนสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานะการเงินของเราในแต่ละช่วงเวลา ยิ่งในช่วงที่มีวิกฤติเรื่องโรคระบาดหนักเช่นนี้ วิธีที่จะสามารถเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดีคือหันมาให้ความสำคัญ จัดระเบียบการเงินในกระเป๋าของเราเอง เตรียมพร้อมรับมือกับทุกเหตุการณ์ โดยแบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และเงินออมสำรองยามฉุกเฉินไว้ใช้ในอนาคต

3. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ สร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็น

      เราไม่รู้ว่าโควิด-19 จะไปจากเราเมื่อไหร่ และสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติได้ตอนไหน หนทางการเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้คือ หยุดก่อหนี้ และเคลียร์หนี้สินคงค้างให้เสร็จสิ้น เมื่อหมดหนี้แล้ว เราก็อาจจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสด้วยการใช้ยอดขั้นต่ำการชำระหนี้มาแปลเปลี่ยนเป็นจำนวนเงินที่เราต้องออมในแต่ละเดือนก็ได้เช่นกันนะคะ นอกจากไม่มีหนี้แล้วยังช่วยให้มีเงินออมเพิ่มขึ้นอีกด้วย

4. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่เคยทำอาชีพเสริม

        สถานการณ์แบบนี้มีรายได้ทางเดียวคงไม่เพียงพอ และเพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติก็คงต้องหาอาชีพเสริม หรือช่องทางเพิ่มรายได้ขึ้นมา เพื่ออย่างน้อย ๆ จะได้ลดปัญหาเรื่องการขาดรายได้จากอาชีพหลักของเรา โดยอาจจะเลือกทำจากสิ่งที่เราชอบ หรือถนัดมาต่อยอดไอเดียหารายได้ ไม่แน่ว่าเราอาจจะเปลี่ยนจากอาชีพเสริมมาเป็นอาชีพหลักเลยก็ได้ หรือจะลองเริ่มจากการเทรด ซื้อหุ่น ลองศึกษา เครื่องมือชี้วัด เครื่องมือช่วยวิเคราะห์แนวโน้มสภาพตลาด ก่อนตัดสินใจทำธุรกิจเสริม

5. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่ระวังเรื่องการลงทุน

      เศรษฐกิจตอนนี้มีความผันผวนสูง หากใครที่คิดว่าการลงทุนอาจจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนมาใช้ชีวิตรอดในช่วงนี้ได้อาจเป็นความคิดที่ไม่ถูกเสมอไป  เพราะเราอาจเสียเงินต้นไปจำนวนมากภายในพริบตา แต่ถ้าสำหรับใครที่ต้องการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง และเป็นระดับความเสี่ยงที่รับได้ แนะนำว่าให้ศึกษาการลงทุนแต่ละรูปแบบ และเงินที่จะนำไปลงทุนควรจะต้องเป็น “เงินเย็น” เท่านั้น

6. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่ติดตามข่าวสารมาตรการจากรัฐบาลและสถาบันการเงิน

        ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมาตรการเยียวยา ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือขาดรายได้ให้แก่ประชาชน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ช่วยเหลือแก่ผู้มีหนี้สิน นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นวิกฤติในช่วงนี้ไปได้

       วิธีการเอาตัวรอดทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางหนึ่ง ที่อาจะช่วยให้เราสามารถผ่านพ้นจากวิกฤติการเงินในช่วงโควิด-19 ไปได้ไม่มากก็น้อย แต่สุดท้ายแล้วเราต้องหาวิธีการปรับตัว และวิธีการจัดการเงินให้เหมาะสมกับตนเอง แล้วเราก็จะสามาระเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งนี้ไปได้ในยุคที่เศรษฐกิจแบบนี้เชื่อว่าหลายๆ คนอยากที่จะประสบความสำเร็จ ในชีวิตเราจึงอยากสร้างแรงบันดาลใจ ให้ทุกท่าน มีแนวคิดใหม่ๆ หรือ หลักการ ที่จะประความสำเร็จ จาก 10 นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก

Categories
การลงทุน ข่าวหุ้น ธุรกิจ

Bitcoin ทำไฮใหม่ ไทย ปักธงเป็นประเทศแรกรับนักท่องเที่ยวที่ถือ Cryptocurrency

Bitcoin Cryptocurrency ทำไฮใหม่ ไทย ปักธงเป็นประเทศแรกรับนักท่องเที่ยวที่ถือ Cryptocurrency

Bitcoin Cryptocurrency new hight 19FEB Goo Invest News

Bitcoin Cryptocurrency มาแรงไม่แพ้ PTT OR หลังทำไฮใหม่อีกครั้งหลังจากทำไฮเดิมไว้ที่ระดับราคา 52532$ เมื่อวันที่ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปักธงต้องการจัดตั้งประเทศไทยให้เป็นประเทศแรกในการรับนักท่องเที่ยวผู้ถือ cryptocurrency
โดยกำหนดเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในระยะเริ่มต้น เนื่องจาก คนญี่ปุ่นถือ Bitcoin อันดับตั้นๆ ของโลก
หลังการหารือสมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย – ญี่ปุ่น)

ที่มา : Bangkokpost

Facebook
Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
การลงทุน ข่าวหุ้น ธุรกิจ

PTT OR IPO ใหม่ มาแรง

PTTOR IPO ใหม่ มาแรงทำระบบ แบงค์ล่ม

PTT OR IPO ใหม่ มาแรง หรือ OR  บริษัท ปตท.นํ้ามันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน)  IPO ใหม่ มาแรงทำระบบ แบงค์ ที่เปิดให้จองซื้อหุ้น OR ล่ม ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2564 ใน วันเปิดจองวันแรก โดยที่เสนอขายครั้งแรก ที่ราคา 18 บาท / หุ้น แต่อย่างใดระบบก็สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปรกติ และจะสิ้นสุดการดำเนินการขายวันที่ 2 ก.พ. 2564

PTT OR IPO ใหม่ มาแรง ข่าว หุ้น ลงทุน PTTOR OR เปิดจองวันแรก IPO ราคาหุ้น ปตท ค้าปลีก OR GOO Invest

โดยการจัดสรรหุ้นแบบ small lot first คือผู้จองซื้อจำนวนน้อยได้รับการจัดสรรหุ้นก่อน กำหนดให้จองซื้อขั้นต่ำ 300 หุ้น ราคาหุ้นล่ะ 18 บาท เป็นเงิน 5400 บาท ถ้ามีหุ้นเหลือก็จัดสรรเพิ่มให้แต่ละรายเท่ากันจนกว่าหุ้นจะหมด

 

ครั้งนี้ เสนอขายหุ้น ipo ไม่เกิน 3000ล้านหุ้น ราคาหุ้นล่ะ 18 บาท และหุ้นจะออกเสนอขายให้ประชาชนครั้งแรก 2,610 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 22.5 ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายได้แล้วของ OR 

หุ้นสำรองไว้ที่ 390 ล้านหุ้น โดยจะนำออกขายเพิ่มเติมหากหุ้นไม่เพียงพอต่อการขาย แต่มีการจัดสรรให้นักลงทุนรายย่อย เพียง 300 ล้านหุ้น เท่านั้นทำให้นักลงทุน ต่างเข้าไปแย่งกัน จองซื้อหุ้น กันเป็นจำนวนมาก นับว่า PTT OR IPO ใหม่ มาแรง จริงๆ สำหรับ นักเทรดหุ้น สายเทคนิค อาจต้องรอหลังขึ้นกระดานกันก่อน

 

กระทั่งทำให้ระบบเว็บธนาคารที่ให้บริการจองซื้อหุ้นสัญญานล่ม ทำให้จองซื้อหุ้นไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตามระบบสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปรกติแล้ว และยังมีเวลาจองซื้อหุ้นถึงวันที่ 2 ก.พ.2564 ท่านใดสนใจศึกษา OR เพิ่มเติมลองเข้าไปดูกันที่เว็บ https://www.pttor.com/th

PTTOR ทำอะไรบ้างหลายคนอาจจะสงสัย วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง บริษัท ปตท.นำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) หรือ ที่เราเรียกกันว่า pttor เป็นที่ตื่นตาตื่นใจสำหรับนักลงทุนเป็นอย่างมาก และถือว่า หุ้นipo ตัวนี้ เป็นหุ้นแห่งปีเลยก็ว่าได้ จะมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนเป็นจำนวนไม่เกิน 2700ล้านหุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญให้แกผู้ถือหุ้นเดิมของ ปตท. ไม่เกิน300ล้านหุ้น เรามาทำความรู้จัก กับ PTTOR กันดีกว่าว่า เค้าทำธุรกิจอะไรบ้าง ผลประกอบการ รายได้ของแต่ละธุรกิจเป็นอย่างไรกันบ้าง และ อนาคตของ PTTORนั้นจะพัฒนาไปในรูปแบบใด

ธุรกิจน้ำมัน

แน่นอนว่า ธุรกิจแรกของ ปตท.ต้องเป็นการค้าที่เกี่ยวกับน้ำมัน และสิ่งที่เราเห็นได้ชัดเลย สถานีบริการน้ำมัน PTT Station ที่ครอบคลุมทั้วประเทศ มีจำนวนสถานีถึง 1,900 สาขา ซึ่งถือว่าเป็นปั้มที่มีจำนวนเยอะที่สุด ในประเทศเราแล้ว และเป็นปั้มที่ทันสมัย พร้อมการปรับตัวหรือการพัฒนาสู่อนาคต ในเรื่องของ พลังงานไฟฟ้า ที่ตอนนี้คนหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งปตท.นั้น ก็ติดตั้ง อุปกรณ์ สายชาร์ต ที่ทันสมัย และชาร์ตได้รวดเร็วตามความต้องการในอนาคต ซึ่งตอนนี้ติดตั้ง ไปแล้วประมาณ 14 สถานี ซึ่งอนาคตที่ปตท. มีเป้าหมายติดตั้ง ให้ครอบคลุมทั้วประเทศ เพื่อ ตอบสนองความต้องการ หรือ การให้บริการ ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และนอกจากนี้ pttor ยังจำหน่ายผลิตภัฌฑ์ ปิโตเลียม เชิงพานิชย์ ให้กับกลุมธุรกิจ อากาศยาน อุตสาหกรรม เรือขนส่งสินค้า ไปจนถึง PTT LPG ผลิตภัณฑ์ น้ำมันหล่อลื่น PTT Lubricants และศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto ซึ่งผลกำไรของการทำธุรกิจน้ำมันนั้นตกเป็นเงินประมาณ 291,764.65 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ของ PTTOR

ธุรกิจค้าปลีกสินค้า หรือ Non-oil

ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ที่เราเห็นหลักๆในทุกๆสถานี ได้แก่ Cafe Amazon / Texas Chiken / Hua Seng Hong Dimsum และ Pearly Tea ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ Jiffy ซึ่งเป็นธุรกิจลองลงมา ซึ่งทำกำไรให้กับ PTTOR ไม่น้อยเลยทีเดียวโดยมูลค้า ของธุรกิจนี้สูงถึง 11,690.81 ล้านบาท ถือได้ว่า PTTOR เห็นช่องทางและโอกาศที่ดี ที่ทำธุรกิจควบคู่กันไป จึงทำให้สถานีบริการของ ปตท. นั้น ครบครันทั้งเครื่องดื่ม อาหาร ร้านสะดวกซื้อ เพราะนอกจากคนที่แวะเข้ามาใช้บริการเติมน้ำมันแล้วนั้น ก็มีอีกหลายคนที่แวะเข้ามาพัก ทานข้าว หรือซื้อเครื่องดื่ม เช่นกาแฟ เป็นต้น

 

ธุรกิจในต่างประเทศ

และเป็นการต่อยอดของ PTTOR ทีประสบความสำเร็จในธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน PTT Station Cafe Amazon / Jiffy / และ FIT Auto ในประเทศไทย ซึ่ง PTTOR มีศักยภาพ พอที่จะพัฒนาหรือขยายธุรกิจ ออกๆไปให้กว้างกว่าเดิม โดยการขยายสถานีบริการน้ำมันในต่างประเทศ พร้อมกับธุรกิจค้าปลีก ที่เราพูดถึงเมื่อข้างต้น โดยเริ่มต้นจาก ประเทศเพื่อนบ้านใกล้ๆเราเช่น ประเทศ ลาว / กัมพูชา / มาเลเชีย / เมียนม่า / ฟิลิปปินส์ / ญี่ปุ่น / สิงคโปร์ / โอมาน และประเทศจีน ซึ่งมีรายได้จากตัวเลขอ้างอิง ประมาณ 15,845.98 ล้านบาท ซึ่งถ้ามองดูแล้ว ก็ถือได้ว่า PTTOR ได้ก้าวเข้าสู่ประตูแห่งความสำเร็จไปอีกขั้นแล้วนั้นเอง

และในขณะเดียวกัน ผลประกอบการโดยรวมของ PTTOR อ้างอิงข้อมูลล่าสุดปี 2561 มีรายได้รวมที่ 500,000ล้านบาท และกำไรสุทธิ ที่ประมาณ 7,900 ล้านบาท เมื่อคิดเป็นมาจิ้นแล้วจะอยู่ที่ 1.58% ซึ่งดูตัวเลขแล้วค่อนข้างน้อย แต่เมื่อเทียบกับธุรกิจค้าปลีกน้ำมันอื่นๆ ตัวเลขระดับนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจน้ำมัน

ธุรกิจที่ PTT OR ให้ความสนใจและร่วม ธุรกิจในอนาคต

นั้นก็คือในเรื่องของแบตเตอร์รี่ ซึ่งเป็นหัวใจหลักหรือหัวใจสำคัญของรถ ที่ใช้เครื่องยนต์ไฟฟ้า แบตเตอร์รี่ตัวไหน ใช้ทนทานกว่า ใช้ได้นานกว่า หรือทำให้รถวิ่งๆได้ไกลกว่า ทำให้ or ได้จับมือกับ GPSC และหลายคนต้องสงสัยกับ GPSC ว่าเค้าทำธุรกิจอะไร GPSCนั้นเป็นบริษัทที่พัฒนาพลังงานทดแทน หรือพลังงานไฟฟ้า แบตเตอร์รี่ ต่างๆ

 

รวมกระทั้งเครื่องกักเก็บพลังงานที่ได้จากธรรมชาติ เช่นพลังงานแสงอาทิตย์ และ or เล็งเห็นว่า คนเริ่มหันมาใส่ใจโลกมากขึ้น หันมาใช้พลังงานสะอาดมากขึ้นจึงเป็นเรื่องดีที่ or และ GPSC ร่วมกันพัฒนา เพื่อเป็นผู้นำในการให้บริการพลังลังงานทั้งพลังงานจากปิโตเลียม จนไปถึงพลังงานสะอาดอย่างพลังงานไฟฟ้า และลดต้นทุนในการชื่อจากต่างประเทศ จึงร่วมมือกันพัฒนา แบตเตอร์รี่ต้นแบบ semisolid ที่ให้กำลังไฟเยอะ แต่ต้นทุนแพง

 

ซึ่งor ได้ร่วมลงทุนกับ GPSCในการพัฒนาแบตตัวนี้ถึง 20ล้านเหรียญ ตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ 600 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปี 2562 ตั้งแต่เดือนสิงหา ซึ่งเป็นเวลา เกือบสองปีที่ร่วมพัฒนา และตอนนี้ก็บอกได้เลยว่า ได้ทำต้นแบบของแบตเตอร์รี่ส่วนนี้สำเร็จแล้ว

 

ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ที่ว่าจะเริ่มผลิตเมื่อไหร่เท่านั้นเอง ซึ่งที่คาดการ น่าจะนำมาผลิตที่ประเทศไทย โดย ราคาอยู่ที่ 100us/kWh หรือ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 3000บาท/kWh เท่ากับที่ TESLA ทำเอาไว้ ซึ่งข่าวตอนนี้บอกว่าโรงงานผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขาดแต่เครื่องจักและการเซ็ตอัพ ซึ่งก็ติดปัญหาเรื่องของโควิด จึงทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือเดินทางมาเซ็ทอัพได้แต่อย่างไรนั้น ถ้าผลิตได้นั้น แน่นอนครับว่านอกจากที่ขายภายในประเทศแล้วนั้น ยังสามารถส่งออกได้ เนื่องจาก ทุกคนต่างต้องการเเท็คโนโลยีที่ดี และราคาที่สามารถสู้กับ เจ้าอื่นได้นั้น ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของ or เลยทีเดียว

อีกหนึ่งธุรกิจของ or นั้นเป็นก้าวที่ใหญ่ และท้าทายเลยทีเดียวคือการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทาง orนั้นได้เดินทางไปคุยกับบริษัท รถยนต์ไฟฟ้า สัญชาติจีน ที่เป็นบริษัท น้องใหม่ที่มีกระแสมาแรงมากๆ นั้นก็คือ ค่าย WM motor หรือ WELTMEISTER ซึ่งไปเซ็นสัญญาต่างๆเรียบร้อยแล้ว ซึ่งบอกเลยว่า ค่ายWM motor เป็นนวัตกรรมที่ล้ำสมัยในหลายๆด่านไม่น้อยหน้าTESLA เลยทีเดียว ซึ่งมียอดขายเป็นอันดับต้นๆของจีน แพ้ ค่าย NIO,Li Auto,Xpeng แค่นิดเดียว เท่านั้นเอง

นี้ถือเป็นโอกาสที่ดีของ or ที่จะพัฒนาธุรกิจ และสร้างผลกำไรในอนาคต และนี้เองคือเหตุผลที่ทำให้การเปิดขายหุ้น ของ PTT.OR เป็นกระแสที่มาแรง และมีคนสนใจเป็นจำนวนมาก แล้วถ้ามีข้อมูลอัพเดทหรือข่าวคราวเพิ่มเติมเราจะมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้ง

Share Facebook
Share Twitter

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
ข่าวหุ้น ธุรกิจ

ธุรกิจหลังโควิด19 Netflix แย่งตลาด Adidas

ธุรกิจหลังโควิด19 Netflix แย่งตลาด Adidas

ธุรกิจหลังโควิด19 กำลังปรับโฉมธุรกิจไปตลาดกาล นับได้ว่า เป็นช่วงที่ท้าทายเป็นอย่างมาก และ ทำให้ ผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ หรือแม้แต่ บุคคลธรรมดา อย่างเราๆ ต้องหาทางดิ้นรน เอาตัวรอด ในช่วง วิกฤตโควิด19 ด้วยกันทั้งสิ้น แต่หากมองอีกด้านหนึ่ง ธรรมชาติกำลังสอนให้เรา นำศักยภาพ ออกมาใช้กันอย่างเต็มความสามารถ

 

ไม่เว้นแม้แต่ บริษัทเทคโนโลยีระดับโลก อย่าง Facebook และ Google ที่เริ่มทำสงคราม เพื่อแย่งชิงความสนใจ จากผู้บริโภค ไม่เพียงแต่ ธุรกิจ ที่อยู่ในอุตสาหกรรม เดียวกันเท่านั้น วิกฤตโควิค19 ครั้งนี้ยังสร้าง ความท้าทาย ให้กับ คู่แข่ง ข้าม อุตสาหกรรม อีกด้วย

ธุรกิจหลังโควิด19 Goo Invest

หลัง Netflix สร้าง ความท้าทาย ให้กับตัวเอง ด้วยการ ตั้งเป้าหมาย ที่จะ ช่วงชิงเวลาการนอน และ เวลา เล่นเกมส์ มาจาก ผู้บริโภค มาให้ได้  Adidas บริษัทผู้ผลิตชุดกีฬารายใหญ่ที่สุด ในยุโรป จำต้องสะเทือน และ เริ่มคิดว่า Netflix คู่แข่ง อีกราย เพราะถ้าคนติด Netflix ก็อาจจะไม่ซื้อ ชุดกีฬา เพื่อออกไปวิ่ง จะเห็นว่า คู่แข่ง ของ ธุรกิจ ในปัจจุบันไม่จำเป็นต้องอยู่ใน อุตสาหกรรม เดียวกันแล้ว

 

เครดิตข้อมูลบางส่วนโดย : ธนา เธียรอัจฉริยะ

ธุรกิจหลังโควิด19 จะ อยู่รอด อย่างไร

  1. จับกระแสให้ทันก้าวทันยุค ต้องยอมรับว่ายุคแห่ง โลกออนไลน์ นั้นได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตเป็นอย่างมาก และ นานนับสิบปี แล้วแต่เหตุการณ์ โรคระบาดโควิด19 ยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ ธุรกิจออนไลน์ นั้นเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก รวมถึงการแลกเปลี่ยนข้อมูล การสื่อการนั้นรวดเร็วเป็นอย่างมากแทบจะเรียกได้ว่าสามารถส่งข้อมูลสื่อสารได้ทันที นั่นจึงทำให้พฤติกรรมด้านความสนใจ รสนิยม ความชื่นชอบ ของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ผู้ประกอบการจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคอย ติดตาม พฤติกรรมผู้บริโภค ที่เปลี่ยนแปลงไป
  2. กระแสเงินสด นับเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นเมื่อใด แต่ยิ่งสัญมากขึ้นไปอีกเมื่อเจอวิกฤติเช่นนี้ ธุรกิจหลังโควิด19 นั้นอยู่ในช่วงที่จะต้องปรับตัว การจะใช้วิธีการแบบเดิมๆ อาจไม่ได้ผลอย่างเต็มประสิทธิภาพอย่างเช่นก่อน หากคุณกำลังจะ ลงทุน แบบเดิมๆต้องคิดให้มาก เพราะมันอาจทำให้คุณสูญเปล่าไปเลยก็ได้ ควรที่จะต้องศึกษาให้มันหรืออาจรัดเข็มขัด การใช้จ่ายไปก่อนเลย ค่าใช้จ่ายใดที่ไม่จำเป็น ต้องตัดออกเพื่อลดภาระของของธุรกิจ ยิ่งหากคุณมีภาระหนี้ต้องรีบ ปลดหนี้ ให้ไว การทำบัญชี รายรับรายจ่าย จึงเป็นทางเลือกที่ดี ที่จะช่วยให้คุณวางแผนได้ง่ายขึ้น
  3. พันธมิตร การที่จะต้องเผชิญ วิกฤตท่ามกลางพายุแต่เพียงลำพัง จะรอดก็คงยาก การหาเพื่อนคู่คิดหรือ ช่วยเหลือก็นับเป็นทางเลือกที่ดี สำหรับการเอาตัวรอดจากพายุนี้ ลองใช้ความถนัดจาก ธุรกิจของคุณ กับพัธมิตรเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ออกมา 
  4. สร้างรายได้เสริม การจะให้อยู่รอดด้วยการรอเพียงอย่างเดียว กับภาระที่หนักหนาคงอยู่รอดได้ไม่นาน หากยังไม่สามารถปรับตัวหรือหาทางออกให้กับธุรกิจของคุณไม่ได้ ลองใช้วิธีหารายไ้ด้เสริม เพื่อแบ่งเบาภาระได้

โลกหลังโควิด19 นั้นได้เปลี่ยนแปลง รูปแบบธุรกิจ แบบเดิมๆไปอย่างมาก การปรับตัวสำหรับผู้ประกอบการ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก หรือแม้แต่ พนักงานประจำ นั้นเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อให้ อยู่รอด ใน สถานการณ์โควิด19 และพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะถูกเปลี่ยนไปอีกก้าวสู่โลกอนาคต ซึ่ง หลายกิจกรรมที่ได้รับความนิยมในช่วงการล็อกดาวน์อาจกลายเป็นพฤติกรรมของยุค New normal บางพฤติกรรมของทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจอาจไม่ได้กลับไปเหมือนเดิมก่อนช่วง COVID-19

สุดท้ายนี้ผมต้องขออนุญาตยกบทความสั้นๆตอนหนึ่งเป็นบทสรุป วิกฤตโควิค19 ครั้งนี้ของท่าน  ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ในบทความของ ธนาคารกรุงศรี ความว่า 

 

” วิกฤตครั้งนี้ได้ สร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญหลายอย่าง ทั้งใน ระยะสั้น และ ระยะยาว จนอาจทำให้ธุรกิจหลายประเภท ไม่สามารถแข่งขันหรืออยู่รอดได้ หากยังยึดติดกับโมเดลธุรกิจรูปแบบเดิม เพราะในภาวะปกติใหม่ ที่มีสภาพการแข่งขัน และ ความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปมาก กลยุทธ์ทางธุรกิจในลักษณะเดิม เช่น การทุ่มงบการตลาด การพัฒนาสินค้า และบริการ หรือกระทั่งการลดต้นทุน  อาจไม่สามารถช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดได้ ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงต้องเข้าใจบริบทของโลกใหม่ เพื่อปรับตัวได้อย่างเหมาะสม ในหลายกรณีธุรกิจจำเป็นต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงในลักษณะพลิกโฉม (Transformative) เพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้มีความโดดเด่น และ มีภูมิคุ้มกันต่อการถูกทำลาย (Disrupt) “

Share Facebook
Share Twitter