Categories
ความรู้ทั่วไป

Gold Spot คืออะไร

Gold Spot

Gold Spot

Gold Spot คืออะไร

คือการเทรดทองคำจริงตามราคาในตลาดปัจจุบัน ซึ่งเป็นการซื้อขายกันจริงๆ เป็นการซื้อขายระดับโลก แต่เราจะไม่ได้รับเป็นทองคำ เราจะได้รับในรูปแบบของใบเอกสารสัญญา ซึ่งจะสามารถทำกำไรได้มากและบ่อยกว่าการถือทองแท่งแต่ก็มีเสี่ยงมากเช่นกัน เพราะจะมีความผันผวนของกราฟที่สามารถทำให้เรากำไรได้ง่ายและก็ขาดทุนง่ายเช่นกัน Gold Spot นั้นสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 วันอคือ วันจันทร์-วันศุกร์ ดังนั้น Gold Spot จึงมีโอกาสทำได้กำไรได้อยู่ตลอดทั้งวัน โดยราคาทองจะมีหน่วยเป็น ดอลล่าร์ / ออนซ์ มี Volume ที่สูงเพราะเป็นการซื้อขายจากทั่วโลก Gold Spot สามารถเทรดผ่านแพลตฟอร์มการเทรดอิเล็กทรอนิกส์ ได้ เพราะแพลตฟอร์มเหล่านี้สามารถเข้าเทรดตอนไหนก็ได้และยังเข้าถึงราคาตามเวลาจริงอีกด้วย แถมยังสะดวกสบายในการใช้บริการ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายทองคำแท่งออนไลน์ อย่างเช่น ธนาคาร Gold spot สามารถเทรดทำกำไรได้ทั้งตลาดทองคำเป็นช่วงขาขึ้นและขาลง แบบ ซื้อมาขายไป หรือจะขายก่อนแล้วค่อยซื้อก็ได้ เราสามารถทำการเทรดได้ทั้ง 2 แบบตามความต้องการ และความถนัดของเรา โดยที่ราคาทองคำจะขึ้นลง ตามข่าวสาร เศรษฐกิจโลก สำหรับมือใหม่ที่ต้องการทดลองเทรดแต่ยังไม่มั่นใจสามารถทำการทดลองเทรดเสมือนจริงได้โดยบัญชีทดลอง Demo ที่ให้ทดลองเล่นจากสถานการณ์จริง เพื่อให้เราได้ทราบถึงวิธีการลงทุนว่าเราสามารถทำกำไรได้มั้ยหรือจะทดลองวิธีต่างๆจนเรามั่นใจในตัวเองแล้วค่อยลงสนามจริง

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
ความรู้ทั่วไป

Trader (เทรดเดอร์) คืออะไร

Trader (เทรดเดอร์) คืออะไร

Trader (เทรดเดอร์) คืออะไร

เทรดเดอร์ คือผู้ซื้อขายในตลาด Forex เราจะเรียกกันว่า Trader ที่ซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex เพื่อทำการเก็งกำไร หรือผู้ที่ซื้อและขายเครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ รวมถึงหุ้นพันธบัตรสินค้าโภคภัณฑ์และสกุลเงิน โดย เทรดเดอร์ อาจจะเป็นใครก็ได้ที่มีทรัพย์สินหรือมีทุนที่จะลงทุนเทรด ไม่ว่าจะเป็น ลูกจ้างของบริษัท องค์กรใดองค์กรหนึ่ง พนักงานเอกชนหรือรัฐบาลทั่วไป ไปจนถึงผู้จัดการกองทุนใดกองทุนหนึ่ง หรือเป็น เทรดเดอร์ อิสระที่ไม่สังกัดองค์กรใดก็ได้ และก็อาจจะเป็น ceo หรือใครก็ได้ที่มีทุนทรัพย์ในการลงทุน เพราะการที่จะเป็น เทรดเดอร์ ไม่จำกัดว่าคุณจะเป็นใครหน้าที่การงานอะไร เพราะลักษณะงานของ นักเทรด หรือ เทรดเดอร์ ก็จะคล้ายๆกัน แตกต่างกันตรงวิธีการเทรด ความรู้ ความสามารถ ทักษะ และวิธีการ เทรด ของแต่ละคน การเป็นเทรดเดอร์ ในสมัยนี้ค่อนข้างง่ายไม่ยุ่งยากเพราะมีความทันสมัยในเรื่องของอินเทอร์เน็ต สามารถ เทรดออนไลน์ได้อยู่ที่ไหนก็เทรดได้สบายมาก ซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่ นักเทรด ต้องไปที่สำนักงานหรือบริษัทโบรกเกอร์เพื่อเปิดบัญชี

เทรดเดอร์สามารถแบ่งได้หลายประเภท คือ

Day Trade (เดย์เทรด) : รูปแบบการเทรดแบบรายวันซื้อขายที่เทรดเดอร์เปิดคำสั่งซื้อและปิดการขายในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตามความเสี่ยงก็จะเพิ่มขึ้นหากเทรดด้วยมาร์จิ้นที่มากเกินไป

Swing Trade (สวิงเทรด): ใช้ประโยชน์จากแนวโน้มและรูปแบบของตลาดระยะสั้นที่อาจใช้เวลา 2-3 วัน เทรดเดอร์ที่ใช้ประเภท Day Trade เทรดรายวันมักจะซื้อขายในรูปแบบสวิงเทรด เพราะการ ซื้อขายแบบสวิงเทรด ช่วยให้นักเทรดสามารถเก็บกำไร ได้เต็มที่ แต่ต้องใช้ความช่ำนาน

Scalping: เทรดระยะสั้นหลายครั้งเพื่อเก็บเกี่ยวผลกำไรเล็กน้อยเช่นเดียวกับการเทรดรายวัน แต่จะเน้นเทรดให้ได้ถี่ ๆ หลาย ๆ รอบ แต่ในการเทรดแบบนี้จำเป็นต้องมีทักษะความรู้ความเข้าใจในการวิเคราะห์ทางได้เป็นอย่างดี

 

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

Categories
ความรู้ทั่วไป

Forex (ฟอเร็กซ์) คืออะไร

Forex (ฟอเร็กซ์) คืออะไร

Forex (ฟอเร็กซ์) คืออะไร

ตลาดซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ย่อมาจาก Foreign Exchange Market ตลาดซื้อขายสกุลเงิน หนึ่งในตลาดการเงินที่มีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก ที่มีมานานเกือบ 50 ปี ทำงานผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์หรือออนไลน์ โดยระบบเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ซึ่งตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ตลาด Forex เป็นหนึ่งในตลาดการเทรดที่ใหญ่ที่สุดโดยมีเงินหมุนเวียนทั่วโลกในแต่ละวันโดยประมาณมูลค่าการเทรดกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการเทรด Forex (ฟอเร็กซ์) นั้นเราต้องแลกเปลี่ยนเงินจากเงิน บาท (BAHT) เป็น ดอลลาร์ (USD) โดยอัตราแลกเปลี่ยนปรับขึ้นลงตามความต้องการซื้อ (Demand) และ ความต้องการขาย (Supply) ของสกุลเงินนั้น ๆและขึ้นอยู่กับอีกหลายๆปัจจัยไม่ว่าจะ สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ตัวเลขทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ทุกอย่างมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนทั้งนั้น และอีกหนึ่งอย่างที่เราต้อง เทรด Forex แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพราะว่า การเทรด Forex ในประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรองรับ จึงทำให้นักลงทุนทั้งหลายที่ต้องการเทรด Forex ต้องไปเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ต่างประเทศ

สถานะคำศัพท์ที่ใช้เพื่อการเทรด

สถานะ Long หมายความว่า เทรดเดอร์ ได้มีคำสั่งซื้อสกุลเงินนั้นๆโดยคาดว่ามูลค่าจะเพิ่มขึ้น และเมื่อ เทรดเดอร์ ขายสกุลเงินดังกล่าวกลับไปยังตลาด สถานะ Long ของ เทรดเดอร์ จะถูก ‘ปิด’ นั้นหมายความว่าการเทรดจะเสร็จสมบูรณ์

สถานะ Short หมายความว่า เทรดเดอร์ ที่มีคำสั่งขายสกุลเงินนั้นๆเพราะคาดว่าราคาอาจจะตกลง และมีการวางแผนที่จะซื้อคืนในราคาที่ต่ำกว่า สถานะ Short จะถูก ‘ปิด’ เมื่อ เทรดเดอร์ ซื้อสินทรัพย์คืน

การลงทุนทุกอย่าง ร่วมถึง FOREX  มีความเสี่ยง เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง

และเน้นทำกำไรในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลทุกครั้งก่อนการลงทุน

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

Categories
ความรู้ทั่วไป

Leverage และ Margin คืออะไร

Leverage และ Margin คืออะไร

Leverage และ Margin คืออะไร

เลเวอเรจ คือ เครื่องมือทางการเงินมีความสามารถในการจ่ายเงินในสกุลเงินนั้น ๆ ด้วยจำนวนเพียงเล็กน้อยในการการเทรด Forex ก็คือการยืมเงินจากโบรกเกอร์มาบางส่วน เพื่อที่ทุกท่านจะสามารถซื้อสินทรัพย์หนึ่งๆที่อาจจะมีมูลค่ามากกว่าเงินที่ทุกท่านมีอยู่ หรือ ให้ทุกท่านมีอำนาจจัดการการซื้อขายคำสั่งขนาดใหญ่ ๆ ได้ด้วยทุนเริ่มต้นจำนวนน้อย ถ้าหากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เลเวอเรจ คือการยืมเงินเพื่อซื้อสินทรัพย์ เป็นทุนเพิ่มเติมที่ช่วยนักลงทุนทุกท่านสามารถ “เพิ่มผลลัพธ์” หรือขนาดของการลงทุนได้มากกว่าจำนวนเงินที่ท่านมีอยู่จริงๆ เมื่อทุกท่านได้กำไรก็จะได้กำไรมากกว่าปกติ แต่ การลงทุนก็สามารถทำให้เราขาดทุนในปริมาณที่มากด้วยเช่นกัน เพราะดังนี้ นักลงทุนเทรดที่ใช้ เลเวอเรจ ก็จะมีสติจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับจำนวน เลเวอเรจ ที่ทุกท่านต้องการใช้ในบัญชีซื้อขายของทุกท่านเอง และควรเข้าใจเทคนิคในการตั้ง Stop Loss ให้เป็นอย่างดี

ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่ลูกค้าต้องการเปิดออเดอร์หรือซื้อสิ้นค้า  3000 USD
1. ลูกค้าไม่มีเลเวอเรจเลย ลูกค้าต้องใช้เงินหลักประกัน (มาร์จิ้น) = 3000 USD เพื่อลงทุน
2. ลูกค้าใช้เลเวอเรจ 1:100 ลูกค้าต้องใช้เงินหลักประกัน (มาร์จิ้น) = 30 USD เพื่อลงทุน
3. ลูกค้าใช้เลเวอเรจ 1:1000 ลูกค้าต้องใช้เงินเลเวอเรจ (มาร์จิ้น) = 3 USD

Margin คืออะไร

มาร์จิ้น คือ หลักประกัน เงิน ‘มัดจำที่ต้องใช้ในการเปิดคำสั่งซื้อ ซึ่งเป็นหลักประกันที่โบรกเกอร์กันไว้เพื่อที่จะเปิดสถานะค้าง เงินจำนวนนี้ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม และไม่ได้เรียกเก็บจากบัญชีของคุณ แต่ทำหน้าที่เพื่อให้แน่ใจได้ว่าคุณมียอดเงินคงเหลือเพียงพอในบัญชีให้สัมพันธ์กับขนาดของสถานะของทุกท่านผู้เทรด เงินทุนที่ทุกท่านมีอยู่ในบัญชีซื้อขายคือเงินที่จะใช้เป็นหลักประกันเมื่อทุกท่านทำการซื้อขาย หากนักเทรดคาดหวังอยากจะได้กำไร ทุกท่านสามารถใช้อัตราส่วนเลเวอเรจ ขนาดใหญ่ขึ้น และ ใช้ มาร์จิ้น ที่น้อยลงเพื่อควบคุมขนาดการซื้อขายที่ใหญ่

โดยรวมทั้งหมดที่กล่าวมา ทั้ง Leverage (เลเวอเรจ) และ Margin (มาร์จิ้น) นั้นต่างมีความสำคัญทั้งคู่ โดย มาร์จิ้น จะช่วยปกป้องยอดเงินคงเหลือในบัญชีของทุกท่านไม่ให้เป็นศูนย์  และ เลเวอเรจ จะช่วยให้ทุกท่านมีอำนาจการตัดสินใจในการซื้อขายที่มากขึ้น

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

Categories
ความรู้ทั่วไป

แพลตฟอร์มการซื้อขายคืออะไร?

แพลตฟอร์มการซื้อขายคืออะไร?

แพลตฟอร์มการซื้อขายคือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ ที่เชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายที่เกี่ยวกับตลาดทางการเงิน ผ่านคนกลาง หรือก็คือโบรกเกอร์ ทำให้ทุกท่านสามารถซื้อขาย Forex หุ้น พันธบัตร กองทุนรวม ฟิวเจอร์ส ออปชัน และเครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ แพลตฟอร์มการซื้อขายจะมีเครื่องมือต่าง ๆ คอยให้บริการ หากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ การซื้อขายของทุกท่านจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกท่านมี เครื่องมือ, โปรแกรม และแพลตฟอร์มการซื้อขาย ก็คือทุกท่านสามารถส่งคำสั่งการซื้อขายการเทรดบน’’แพลตฟอร์มการซื้อขาย”โดยผ่านโบรกเกอร์  ซึ่งแพลตฟอร์มการซื้อขายในแต่ละโบรกก็จะมีหลายแพลตฟอร์มแต่แพลตฟอร์มที่เป็นที่นิยมมากที่สุดและโบรกเกอร์ Forex ส่วนใหญ่ให้การรองรับ ก็คือ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 เรามาดูรายละเอียดเกี่ยวกับแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดกันว่ามีขั้นตอนการใช้งานอย่างไร

แพลตฟอร์มการซื้อขายคืออะไร?

MetaTrader 4

โปรแกรม MT4 หรือ MetaTrader 4 เป็นโปรแกรมสำหรับซื้อขาย หุ้น, อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา หรือ Forex  ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ที่ใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน ซึ่งเทรดเดอร์จะใช้เพื่อเก็งกำไรราคาตลาดเงินที่สำคัญ โดยรวมถึงฟอเร็กซ์ สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้น ดัชนี เป็นต้นซึ่งสร้างและพัฒนาโดยบริษัท MetaQuotes ซึ่งโดยปรกติจะมีให้บริการจากผู้เป็นตัวแทนซื้อขายหุ้นหรือ forex อยู่แล้วเมื่อท่านใช้บริการโบรคเกอร์นั้นๆ ทุกท่านสามารถอ่านขั้นตอนการใช้งานการดาวน์โหลดเพิ่มเติม ได้ที่ โปรแกรม MT4 หรือ MetaTrader  

MetaTrader 5

โปรแกรม MT 5 คือโปรแกรมการซื้อขายออนไลน์ที่ช่วยให้คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์ที่หลากหลาย รวมทั้งหุ้น, Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, ฟิวเจอร์ส และอื่นๆ มากมาย MT5 คือแพลตฟอร์มในยุคถัดไปของแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง MetaTrader 4 ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัทซอฟต์แวร์รัสเซีย MetaQuotes, MetaTrader 5 เป็นซอฟต์แวร์การซื้อขายอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นแพลตฟอร์มหลายสินทรัพย์ที่สามารถใช้สำหรับเครื่องมือการเงินเช่นหุ้น ดัชนี แลกเปลี่ยนเงินตราและสินค้าผ่านสัญญาเพื่อความแตกต่าง (CFD) MT5 เป็นการดาวน์โหลดและใช้งานฟรี ซึ่งประกอบด้วยซอฟต์แวร์หลายส่วน ทุกท่านสามารถซื้อขายบน MetaTrader 5 ได้อย่างง่ายดายจากบัญชีซื้อขายของโบรกที่ท่านสนใจ สามารถดาวน์โหลดง่ายๆจากโบรคเกอร์นั้นๆที่ท่านใช้บริการ

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

Categories
ความรู้ทั่วไป

สเปรด (Spread) คืออะไร?

สเปรด (Spread) คืออะไร?

สเปรด (Spread) คือ ความแตกต่างหรือส่วนต่างระหว่างราคาขาย (Bid) และราคาซื้อ (Ask) ของสกุลเงิน หรือที่นักเทรดมักจะเรียกกันว่าราคา ‘Bid’ และราคา ‘Sell’ นั้นเอง ซึ่งส่วนต่างของราคาขาย (Bid) และราคาซื้อ (Ask)  นั้น สามารถบอกเราได้ว่าสภาพคล่องของตลาดตอนนี้เป็นยังไง โดยราคาทั้ง 2 แบบจะมีข้อแตกต่างกันก็คือ

ราคา Bid คือ ราคาซื้อที่ผู้ซื้อต้องการซื้อและผู้ขายสามารถขายได้ทันที

ราคา Ask คือ ราคาขายที่ผู้ขายต้องการขายและผู้ซื้อสามารถซื้อได้ทันที

สเปรด (Spread) คืออะไร?

สเปรดแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก

สเปรดคงที่ (Fixed spread) 

เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพเพราะสามารถคำนวณค่าดำเนินการธุรกรรมได้ง่ายเพราะสเปรดคงที่ได้ถูกกำหนดค่าเอาไว้ล่วงหน้า มีค่าคงที่ตลอดเวลาโดยไม่ผันแปรตามความผันผวนของตลาดและโบรกเกอร์เท่านั้นที่จะเป็นผู้ควบคุมราคา และเป็นคนกำหนดค่า สเปรดแบบคงที่ขึ้นมา แต่อาจจะทำให้เกิด Requote ได้บ่อยครั้ง เนื่องจากการกำหนดราคามาจากโบรกเกอร์แต่เพียงผู้เดียว

สเปรดแปรผัน (Variable spread) 

คือสเปรดที่มีค่าเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ตามชื่อ โบรกเกอร์จะไม่ใช่ผู้ควบคุมและกำหนดค่าของสเปรดเหมือนกับสเปรดคงที่ แต่ โบรกเกอร์จะส่งต่อราคาเหล่านี้ไปยังผู้ค้า ซึ่งจะมีค่าที่ขึ้นลงตามกลไกของอุปสงค์และอุปทานของตลาดสกุลเงิน และจะมีความเคลื่อนไหวขึ้นลงมาก ๆ ในช่วงที่มีข่าวสำคัญ เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีความชำนาญและมีความรวดเร็ว จะได้รับประโยชน์จากสเปรด แบบแปรผัน และไม่เหมาะสำหรับนักเทรดมือใหม่ เพราะการขึ้นลงจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเก็งกำไรได้ ค่าสเปรดอาจสูงขึ้นมากกว่าปกติ และ จะไม่เกิด Requote จากการแปรผันของสเปรด ที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะของตลาด เพราะว่าโบรกเกอร์ไม่ใช่ผู้กำหนด จึงไม่มีการ Requote

ถ้าถามว่าระหว่าง Spreads แบบแปรผัน กับแบบคง เลือกแบบไหนดีกว่ากัน ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละบุคคล รวมถึงกลยุทธ์ในการเทรดของแต่ละบุคคลก็จะมีความแตกต่างกันออกไป การเลือกควรเลือกตามความเหมาะสมและความถนัดโดยศึกษาความถนัดของตัวเองตามข้อมูลข้างต้น ก็น่าจะหาทางของตัวเองได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว นักเทรดรายย่อยที่เทรดแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนมากจะได้รับประโยชน์จากสเปรดแบบคงที่มากกว่า ส่วนนักเทรดรายใหญ่ ส่วนมากจะซื้อขาย เยอะ ๆ ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความพีค สเปรดแบบแปรผัน

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

Categories
ความรู้ทั่วไป

แนวโน้ม (Trend) คืออะไร

แนวโน้ม (Trend) คืออะไร

แนวโน้ม (Trend) คือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของกราฟราคาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดจะจำแนกแนวโน้มตามทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาแนวโน้มของราคาจะประกอบด้วยกันอยู่ 3 แนวโน้มด้วยกัน ได้แก่

แนวโน้ม (Trend) คืออะไร

1. แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) คือ ราคาเคลื่อนที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากว่ามีแรงซื้อมากกว่าแรงขาย

2. แนวโน้มขาลง (Downtrend) คือ ราคาเคลื่อนที่ปรับตัวต่ำลง เนื่องจากว่ามีแรงขายมากกว่าแรงซื้อ

3. แนวโน้มด้านข้าง (Sideway) คือ ราคาปรับตัวไปด้านข้าง ขึ้นและลงในกรอบ เนื่องจากว่ามีแรงซื้อและแรงขายใกล้เคียงกัน

แนวโน้มขาขึ้น (Uptrend)

แนวโน้มขาขึ้น หมายถึง การเคลื่อนไหวของราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ราคาสูงสุดที่ตามมาแต่ละครั้งจะสูงกว่าราคาสูงสุดก่อนหน้า และแต่ละราคาต่ำสุดที่ตามมาจะสูงกว่าราคาต่ำสุดก่อนหน้าเช่นกัน หากแนวโน้มเป็นขาขึ้น นักเทรดจะต้องวางคำสั่ง Buy ในช่วงแนวโน้มขาขึ้นถึงจะกำไร และ แนวโน้มขาขึ้นคือแนวโน้มกระทิงที่นักเทรดจะรู้กันดีนั้นเอง

แนวโน้มขาลง (Downtrend)

แนวโน้มขาลง หมายถึง ราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำกว่าเดิม และจุดต่ำสุดที่ต่ำกว่าเดิม ราคาต่ำสุดที่ตามมาแต่ละครั้งจะต่ำกว่าราคาต่ำสุดก่อนหน้า และราคาสูงสุดที่ตามมาแต่ละครั้งจะต่ำกว่าราคาสูงสุดก่อนหน้าเช่นกัน หากแนวโน้มเป็นขาลง นักเทรดจะต้องวางคำสั่ง Sell ในช่วงแนวโน้มขาลงถึงจะกำไรแนวโน้มขาลงคือแนวโน้มหมีที่นักเทรดจะรู้กันดีนั้นเอง

แนวโน้มออกข้าง (Sideway)

แนวโน้มออกข้าง หมายถึง แนวโน้มที่เป็นกลางเกิดขึ้นเมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่อยู่ภายในช่วงราคาที่ ผันผวนขึ้นและลงโดยไม่แสดงทิศทางขาขึ้นหรือขาลงที่ชัดเจน ภาพรวมทั้งหมดคือไม่มีทิศทางที่แน่นอนและชัดเจน ซึ่งยังคงเป็นช่วงที่ควรจะหลีกเลี่ยง เนื่องจากราคามักจะอยู่ในช่วงที่จำกัด

แนวโน้มตามระยะเวลา

แนวโน้มระยะยาว

มีระยะเวลาตั้งแต่หลายเดือนไปจนถึงหลายปี แนวโน้มเหล่านี้มักจะถูกเปลี่ยนแปลงในวงจรธุรกิจและเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองและเศรษฐกิจเหตุการณ์สำคัญต่างๆ

แนวโน้มระยะกลาง

มีระยะเวลาสองสามสัปดาห์ถึงสองสามเดือน แน้วโน้มเหล่านี้มักจะถูกเปลี่ยนแปลงในความเชื่อมั่นของนักเทรดและปัจจัยทางเทคนิค

แนวโน้มระยะสั้น

มีระยะเวลาสองสามวันจนไปจนถึงหนึ่งเดือน ซึ้งแน้วโน้มเหล่านี้มักเกิดจากความผันผวนที่เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่วัน ปัจจัยหลักที่นี่คือข่าวปัจจุบันและการเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขาย

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
ความรู้ทั่วไป

ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) คืออะไร

ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) คืออะไร

ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) คืออะไร

ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) คืออะไร
ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) คืออะไร และ มีผลกระทบดีหรือเสียอย่างไรกับการเทรด Forex
ข่าว นอนฟาร์ม คือ รายงานการจ้างงานของคนในธุรกิจต่างๆที่ไม่รวมกับอุตสาหกรรมรมภาคการเกษตรของสหรัฐ ซึ่งจะมีการออกข่าวทุก วันศุกร์แรกของเดือน เวลา 19.30 น. ตามเวลาประเทศไทย หรือบางเดือนอาจจะประกาศโดยประมาณเวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
เวลาข่าวออกมักจะมีผลกระทบต่อสกุลเงินอย่างรุนแรงต่อตลาด Forex และ ราคาจะแกว่งตัว อย่างรุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อเข้าสู่ข่าวนอนฟาร์ม ออเดอร์ที่ถือไว้ ควรมี Stop Loss ที่กว้างเพื่อที่จะพอให้ราคาได้แกว่งตัวพอสมควร ส่วนใหญ่เทรดเดอร์มักจะดูข่าวในเว็บไซต์ forexfactory.com
ข่าว นอนฟาร์ม (Non Farm) มีทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับนักเทรดที่เลือกเทรดในช่วงเวลาที่มีข่าว
ข้อดี 
– เหมาะสำหรับนักเทรดที่ชำนาญเป็นมืออาชีพเพราะสามารถทำกำไรช่วงเวลาสั้นๆแบบเสี้ยวนาทีจนถึงวินาที
– เหมาะสำหรับนักเทรดที่เน้นทำกำไรระยะสั้นๆ ผู้ที่ไม่มีเวลา เน้นเทรดแค่วันที่มีข่าว ที่มีแค่เดือนล่ะครั้งเท่านั้น
– เหมาะสำหรับนัดเทรดที่ชำนาญฝีมือประสบการณ์ขั้นเทพ เพราะเวลามีข่าวกราฟจะวิ่งแรง มีการสวิงตัวที่สูง pip จะเคลื่อนที่ ในจำนวนมาก หากนักเทรดรู้แนวทางอาจจะสร้างกำไรได้มูลค่ามาก
ข้อเสีย
– ยังไม่เหมาะกับนักเทรดมือใหม่มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้โดนล้างพอร์ต หรือ อาจทำให้ทุนหดหายอย่างรวดเร็ว เพราะจากการที่กราฟมีการสวิงตัวสูง อาจไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้
– ไม่เหมาะกับนักเทรดมือใหม่การเทรดในช่วงเวลานี้ ต้องมีความชำนาญ และ ต้องตัดสินใจที่รวดเร็ว เพราะต้องเปิด-ปิดออเดอร์ให้ทันเวลา
– การเทรดในช่วงเวลาที่มีข่าวบางโบรกเกอร์ ในบางบัญชี มีค่าสเปรดสูงกว่าปกติ
– การเทรดในช่วงนี้ต้องเพื่อใจ เพราะบางข่าวที่ตัวเลขออกมาดี แต่ตลาดอาจสวนทาง เพราะอาจจะมีปัจจัยหรือเหตุการณ์อื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

Categories
ความรู้ทั่วไป

Swap (สว็อป) คืออะไร

Swap (สว็อป) คืออะไร

Swap (สว็อป) คืออะไร

Swap (สว็อป) คืออะไร

สว็อป คือ ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นกับคำสั่งซื้อขายที่เปิดข้ามคืนทุกๆ เป็นดอกเบี้ยที่นักลงทุนจะได้รับหรือต้องเสีย ในทุกๆครั้งที่มีการเทรดซื้อขายออเดอร์แบบข้ามคืน จนกว่าเราจะปิดคำสั่งซื้อขายนั้นโดยอาจมีการเรียกเก็บสว็อปดังกล่าวจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อถือออเดอร์ข้ามไปหลายๆ วัน หรือเป็นเดือน ค่าสว็อปมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยเครื่องมือการซื้อขายแต่ละรายการจะกำหนดค่าสว็อปเหล่านี้ไว้อยู่แล้ว และค่าสว็อป จะขึ้นอยู่กับการแปรผันตามอัตราดอกเบี้ย หรือ ของแต่ละสกุลเงิน ดังนั้น แต่ละช่วงเวลา อัตรา Swap จะเปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ แต่ เครื่องมือทางการเงินประเภทหุ้นและ Cryptocurrency ทั้งหมดนั้นไม่มีค่าสว็อป จะเห็นว่า Swap นั้นมีตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่ออัตราดอกเบี้ย Forex Swap ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์แต่ละเจ้าจะบวกค่าสวอป ไม่เท่ากัน บางทีก็แพงกว่าปกติ หรือ บางโบรกอาจจะถูกกว่าที่อื่นและบางที่อาจจะไม่มีค่าสว็อป ง่ายๆเลยก็ คือ ประเภทตราสาร: บางตราสารก็ไม่มีการเก็บค่า Swap เช่นพวกสกุลเงินดิจิทัล ส่วนประเภทที่มีค่าสว็อป ถ้าจะอธิบายแบบเข้าใจได้ง่ายๆเลยก็คือ ระยะเวลาที่เราถือออเดอร์ ยิ่งถือสัญญาไว้นาน ค่า Swap จะยิ่งมากขึ้น และ แน่นอนว่า จำนวน Lot ยิ่งมาก ค่า Swap จะยิ่งมากขึ้นตามขนาดสัญญา ช่วงเวลาการถือข้ามคืน ตามเวลาไทย คือช่วง 4.00 – 5.00 น.
การคิดค่า Swap เป็นได้ทั้งต้นทุนและผลกำไร ทั้ง2แบบ เรียกว่า การคิดแบบที่มีค่าเป็นบวก( Debit ) และ ที่มีค่าเป็นลบ ( Credit )

* Swap เป็นบวก หมายถึงการถือออเดอร์ ข้ามคืนแล้วจะถูกคิดดอกเบี้ยเป็น บวก และจะได้รับดอกเบี้ยสำหรับออเดอร์ที่เปิดไว้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนวันที่ถือ
* Swap เป็นลบ หมายถึงการถือออเดอร์นั้น ๆ ข้ามคืนแล้วจะถูกคิดดอกเบี้ยเป็น ลบ และต้องเสียต้นทุนค่าธรรมเนียมของออเดอร์ที่เปิดไว้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนวันที่ถือ

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก

 

เปิดบัญชีซื้อขายทองคำ

Categories
ความรู้ทั่วไป

Broker (โบรกเกอร์) คืออะไร

Broker (โบรกเกอร์) คืออะไร

Broker (โบรกเกอร์) คืออะไร

องค์กรหนึ่งหรือนายหน้าซื้อขายหรือบริษัทหลักทรัพย์ ที่เป็นตัวกลางระหว่างลูกค้าและผู้ผลิตบริการ ที่ได้รับใบอนุญาตห้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ประเภทการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ลงทุน โดยได้รับค่าธรรมเนียมหรือค่านายหน้าจากผู้ลงทุนเป็นผลตอบแทน ซึ้งบริษัทที่ทำหน้าที่เป็นโบรกเกอร์มีอยู่หลายบริษัทโดยแต่ละโบรกเกอร์จะมีความแตกต่างในการทำงานของโบรกเกอร์ประเภทต่างๆ พวกเขาทั้งหมดมีความคล้ายคลึงกัน เช่น ค่าธรรมเนียมสำหรับการบริการและแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับลูกค้าเพื่อทำการซื้อขาย โบรกเกอร์ไม่ได้มีหน้าที่แค่เป็นคนกลางในการซื้อขายแต่โบรกเกอร์จะต้องรับผิดชอบดูแลการบริการต่างๆ ที่ให้แก่ลูกค้าทุกขั้นตอนตั้งแต่การเปิดบัญชีจนการซื้อขายหรือช่วยดูแลให้คำปรึกษาแนะนำ หรือแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะการติดต่อเทรดเดอร์ เพื่อทำการพูดคุย อัปเดตข้อมูล และให้คำปรึกษา คำแนะนำในการลงทุน ทั้งลูกค้าบุคคลและลูกค้าที่เป็นองค์กรธุรกิจ เพราะฉะนั้นการเลือกโบรกเกอร์จะเป็นการตัดสินใจของลูกค้าที่สนใจในโบรกเกอร์นั้นๆ ไม่ว่าจะเลือกโบรกไหนทุกคนควรศึกษาให้ดีก่อนการลงทุน

ดูเพิ่มเติมสำหรับ คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ 

รวบรวม คำศัพท์ Forex ที่เทรดเดอร์ต้องรู้ <<<<<<คลิก