
เราพบว่าหลายๆคน อยากลงทุน ซึ่งบางคนยังไม่มีความรู้ เรื่องการลงทุนเลย ปัจจัยแรกของการลงทุน คือ สถานภาพทางการเงิน ต้องมีการจัดสัดส่วนของ รายได้ / รายจ่าย / เงินเย็นเงินนอน / เงินเก็บ ต้องคำนวณภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ว่าเรามีสภาพคล่อง ทางการเงินมากน้อยแค่ไหน ถ้าเกิดมีคำถามขึ้นมาในหัวว่า“มีเงินทุนเท่านี้ ลงทุนอะไรดี” คำถามนี้แปลว่าเรา ยังไม่รู้จักยังไม่มีความรู้ด้านการลงทุนเลย ฉะนั้นอับดับแรกศึกษา หุ้น ที่เราอยากจะลงทุนให้ดี ว่าตัวไหนเหมาะสมกับสถานภาพทางการเงินของเรามากที่สุด โดยไม่ให้เกิดผลกระทบตามมาในภายหลัง
เมื่อรู้จักตัวเองแล้ว ต่อไป สิ่งที่เราควรรู้ คือการรู้จักศึกษาเรื่องการลงทุน ก่อนตัดสินใจลงทุสิ่งทีี่หลายๆคนตัดสินใจลงทุนเป็นอย่างแรกคือ การเล่นหุ้น สำหรับการลงทุนในหุ้นนั้น ต้องอาศัยความรู้ และ ประสบการณ์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์สภาวะเศรษฐกิจ วิเคราะห์สภาวะอุตสาหกรรม ของบริษัท ที่เราสนใจลงทุน เราต้องมีทักษะบางอย่างที่เฉพาะตัว ในการมองการวิเคราะห์ต่าง ๆ ศึกษา เทคนิคทำกำไรในตลาดหุ้น พิจารณาข้อดี-ข้อด้อย เกี่ยวกับการลงทุน แต่ละประเภท ให้ดี(ซึ้งตรงนี้ถ้าเราศึกษามากๆ เราจะรู้เองโดยธรรมชาติ)ดังนั้น หากเรามีความพร้อมที่จะลงทุนในหุ้นแล้วรู้จักตัวเอง รู้ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนแล้ว เราก็สามารถเริ่มได้เลยสำหรับมือใหม่
เมื่อเรารู้จักตัวเองแล้ว ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนแล้ว เรามาดูว่าหุ้นตัวแรกของเราหรือหุ้นแบบไหนที่เราควรจะลงทุน มันขึ้นอยู่กับ กลยุทธ์ของ แต่ละคน การเลือกซื้อหุ้น อยู่ที่ไลฟ์สไตล์ ของแต่ละคน เช่น บางทำงานประจำ จะไปเลือกซื้อหุ้น ที่มีราคาขึ้นลง หวือหวา ก็ไม่ได้ยังไม่แนะนำซึ้ง การเลือกซื้อหุ้นจะเรียกว่าเป็นศาสตรหรือศิลป์อย่างหนึ่ง ก็ว่าได้ เพราะไม่ใช่ว่า ทุกคนที่เล่นหุ้น แล้วจะได้กำไร เหมือนกันทุกคน ถึงแม้ว่า เราจะเล่นหุ้น ตัวเดียวกันก็ตาม นักลงทุนควรรู้จุดอ่อนตัวเองและตั้งกฎเกณฑ์ที่จะไม่เล่นหุ้นที่ไม่ถนัด เพื่อลดความเสี่ยง ให้ตัวเอง >>>>>>>> อ่านบทความเกี่ยวกับ “หุ้นแบบไหน…?ที่คุณควรจะซื้อ”
ผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงขาดทุน จากการลงทุน ได้มากน้อยแค่ไหนการลงทุนแต่ละประเภทมีความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกันออกไป ทุกครั้งที่ตัดสินใจลงทุน จึงเท่ากับว่าเราเตรียมใจยอมรับความเสี่ยงที่จะตามมาด้วย หรือ อาจจะได้ผลตอบแทนที่ไม่ตรงไปตามที่คาดหวัง เพราะถ้าหากว่านักลงทุนยอมรับความเสี่ยงไม่ได้เลย จะได้พิจารณาการลงทุนตั้งแต่เริ่มต้น เพราะความเสี่ยงจะ มาพร้อมกับการลงทุนเสมอ
การบริหารเงินในพอร์ตก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญและควรวางแผนไว้เพราะว่านี้เป็นตัววัดว่าพอร์ตของเราจะโตได้ในระยะยาวหรือไม่ เราควรมีแผนการลงทุนที่ชัดเจนว่าจะสะสมเพิ่มเดือนละเท่าไหร่ ปีละเท่าไหร่ ยิ่งพอร์ตใหญ่มากเท่าไหร่ พอร์ตก็จะโตได้มากขึ้นเท่านั้นจะต้องมีการเติมทุนเข้าไปเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น นักลงทุนจึงควรวางแผนหาเงินเติมพอร์ตตลอดเวลาและลดการนำเงินจากพอร์ตออกไปใช้จ่ายเพื่อเพิ่มการสร้างดอกเบี้ยทบต้นให้สูงที่สุด สำหรับนักลงทุนมือใหม่อย่าพึ่งรีบร้อนอยากลงทุนเพื่อสร้างผลกำไร ควรต้องไตร่ตรองให้ดีด้วยว่า เงินก้อนนี้ คือ เงินทั้งหมดที่เราถืออยู่พอร์ตหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเราอย่าพึ่งรีบถอน ให้เก็บหรือเติมเพื่อสร้างผลตอบแทนให้มากขึ้น เรียกง่าย ๆ ว่า เงินเก็บสำรองสำหรับตัวเองและครอบครัวในยามที่ฉุกเฉิน ฉะนั้นเงินสำหรับลงทุนควรแบ่งแยกกันอย่างชัดเจน
เห็นได้ว่าในทุกวันนี้ มีคนสนใจเรื่องการลงทุนกันเป็นจำนวนมาก แม้จะมีความเสี่ยง แม้จะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทุกการลงทุนจะให้ผลตอบแทนที่น่าพึ่งพอใจ แต่นี้ก็เป็นอีกทางเลือกของนักลงทุน เพราะ การลงทุนเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็สามารถเรียนรู้ได้ไม่ยาก เริ่มจากศึกษาสิ่งที่สนใจแล้วนำมาต่อยอด ยิ่งมีวางแผนที่ดี การลงทุนก็จะได้ดียิ่งขึ้นไปอีก อ่านเพิ่มเติม วิธีเล่นหุ้น และเทคนิคเอาตัวรอดในตลาดหุ้น จะต้องเข้าใจในสิ่งที่ตนเองกำลังลงทุน