LOGO Goo Invest
Categories
ข่าวหุ้น

ข่าว หุ้น ธุรกิจ วันที่ 29 ตุลาคม 2564

ข่าวหุ้น เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน Goo Invest Trade

ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 29 ตุลาคม 2564

ค่าเงินบาทเช้านี้ 29 ต.ค.64 ยังคงแข็งค่า สหัฐจับตาปัญหาเงินเฟ้อ

    นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่ากรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.10-33.30 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และโฟลว์ขายทำกำไรทองคำ ซึ่งเราคาดว่าผู้เล่นต่างรอคอยที่จะขายทำกำไร หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้แนวต้านแถว 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทำให้เงินบาทอาจเผชิญความผันผวนได้จากแรงขายทำกำไรหุ้นไทยออกมาบ้าง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติอาจชะลอการลงทุนในไทยไปก่อน จนกว่าจะมองภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจหลังการทยอยเปิดประเทศในเดือนหน้า ได้อย่างชัดเจนก่อน ทำให้โดยรวมฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติยังมีความผันผวน รวมถึงทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามสภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด และการแข็งค่าขึ้นของเงินยูโร ตามมุมมองของตลาดที่เชื่อว่า ECB อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายได้ในปีหน้า ทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ย่อตัวลงใกล้ระดับ 93.35 จุด

    สำหรับแนวต้านสำคัญของเงินบาทยังอยู่ในโซน 33.40-33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ส่งออกบางส่วนต่างรอขายเงินดอลลาร์อยู่ ส่วนผู้นำเข้าบางส่วนก็รอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้ เงินบาทยังมีแนวรับสำคัญที่โซน 32.90-33.00 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ตลาดการเงินโดยรวมเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงต่อ จากแรงหนุนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดีกว่าคาด โดยเฉพาะในฝั่ง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่รายงานผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าคาดนั้น ได้ช่วยหนุนให้ ดัชนี S&P500 ปรับตัวขึ้นราว +1.0%

     โดยทางสหรัฐจับตา ปัญหาเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการฟื้นตัวเศรษฐกิจได้ รวมถึงเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามากน้อยเพียงใด ซึ่งหากเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและสินค้าพลังงาน (Core PCE) พุ่งขึ้นมากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ที่ระดับ +0.2% จากเดือนก่อนหน้า ก็อาจทำให้ตลาดยังคงกังวลต่อแนวโน้มเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นและคาดหวังว่า เฟดอาจจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินเข้มงวดได้เร็วกว่าคาด และนอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ตลาดจะยังคงจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเราคงมองว่า งบการเงินโดยรวมที่มีแนวโน้มออกมาแข็งแกร่งจะยังสามารถช่วยหนุนให้ตลาดการเงินเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงได้

   ทั้งนี้ผู้เล่นในตลาดยังคงประเมินว่า ปัญหาเงินเฟ้อจะส่งผลให้บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกต่างทยอยใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้บอนด์ยีลด์ ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นต่อได้ รวมถึงการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ ได้ช่วยให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อีกครั้ง ซึ่งเราคาดว่า ผู้เล่นในตลาดจะทยอยขายทำกำไรทองคำออกมาบ้าง หากราคาทองคำปรับตัว

 

ขอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ

บิตคอยน์วันนี้ 29 ต.ค.64 ปรับขึ้น 4.05%

    ราคาบิตคอยน์วันนี้ 29 ต.ค.61 ปรับตัวสูงขึ้น +4.05% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีราคา 60,619.60 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2,011,964.52 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 45.17 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลล่าสุด เมื่อ 7:42 น. ที่ผ่านมา โดยเหรียญดิจิทัลอื่นๆ Ethereum ดีดขึ้น 9.52% Binance Coin ดีดขึ้น 9.72% และ Dogecoin ดิ่งลง 15.35% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

–  Bitcoin  ราคาอยู่ที่ 60,619.60 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +4.05%

–  Ethereum  ราคาอยู่ที่ 4,295.19 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +9.52%

–  Binance Coin ราคาอยู่ที่  492.29 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +9.72%

– . Tether  ราคาอยู่ที่  1.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง -0.06%

– Cardano ราคาอยู่ที่  02.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +4.35%

–  USD Coin  ราคาอยู่ที่  1.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +0.01%

– XRP (XRP) ราคาอยู่ที่  1.06 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +7.11%

–  Polkadot ราคาอยู่ที่  42.12 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +4.28%

–  Dogecoin ราคาอยู่ที่  ราคา 0.30 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +30.27%

–  SHIBA INU ราคาอยู่ที่  ราคา 0.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง -15.35%

   ทั้งนี้ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อนและไม่ควรใช้เพื่อการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อขาย ผู้อ่านควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทาง www.sec.or.th

ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

หุ้นไทยน่าห่วง หลายบริษัทต่ำกว่าที่คาด

    29 ต.ค.64 นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ 29 ต.ค.64 คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ในทิศทางที่อ่อนตัวลง ในช่วงรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/64 ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนการลงทุน และแม้งบฯในต่างประเทศจะออกมาดี แต่ก็คาดว่าจะได้รับแรงกดดันจากบริษัทApple และ บริษัทAmazon ทำให้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สปรับตัวลง ส่วนงบของกลุ่ม Real Sector ในตลาดบ้านเราออกมาไม่ดี หลายบริษัทออกมาต่ำกว่าคาด ไม่ว่าจะเป็น DTAC, PTTEP เป็นต้น ซึ่งทำให้ Sentiment ตลาดไม่ดี นักลงทุนจึงระวังการลงทุนมากขึ้น 

   รวมถึงปัญหาเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นด้วย อันเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ทำให้นโยบายการเงินในต่างประเทศอาจจะต้องเข้มข้นขึ้น ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบคละกัน โดยจะติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดในสัปดาห์หน้าพร้อมให้แนวรับ 1,620-1,615 จุด ส่วนแนวต้าน 1,630-1,635 จุด

ขอบคุณ : สำนักข่าวอินโฟเควสท์

ลุงตู่ แนะ 3 ข้อ พลิกอุตสาหกรรม IMT-GT

    สภาพัฒน์ เผยผลการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 13 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย หรือ 13th IMT-GT Summit ซึ่งฝั่งของประเทศไทยมีผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 13 ร่วมด้วยรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสของประเทศสมาชิกแผนงาน IMT-GT เข้าร่วมการประชุม โดยของไทยคือ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

    พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  ได้ให้ข้อคิดเห็นว่าแผนการลงทุนตามแผนปฏิบัติการภายใต้กรอบการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน (SUDF) ของแผนงาน IMT-GT มีความสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG หรือการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของไทยที่กำลังดำเนินการผลักดันอยู่ และจะต้องเร่งการระดมทุนทั้งจากภายในประเทศและจากแหล่งทุนอื่น ๆ อาทิ กองทุนของอาเซียนและธนาคารพัฒนาเอเชีย ดังเช่นกระทรวงการคลังของไทยที่ได้ออกพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนเพื่อการระดมทุนในโครงการสำคัญ โดยแนะ 3 ประการเพื่อสร้างจุดแข็ง พลิกโฉมอุตสาหกรรมที่เป็นจุดแข็งของ IMT-GT โชว์โมเดล “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2,330 ล้านบาท พร้อมเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ ประกอบด้วย

  1. เร่งพัฒนาและต่อยอดโครงการเพื่อสนับสนุนการเป็นจุดหมายปลายทางเดียวกันด้านการท่องเที่ยว
  2. มุ่งเน้นการผลิตสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูงที่สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด เช่น ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพาราแปรรูป
  3. พัฒนาระบบการรับรองมาตรฐานฮาลาลให้มีประสิทธิภาพและเป็นที่ยอมรับของตลาดโลก ควบคู่กับการเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมฮาลาล ขณะเดียวกันยังเสนอแผนงาน IMT-GT พัฒนาโครงข่ายระบบคมนาคมให้เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ ปรับปรุงกฎระเบียบให้เกื้อหนุนกัน คำนึงถึงความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม และยกระดับศักยภาพแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาอนุภูมิภาค

 

ขอบคุณ : กรุงเทพธุรกิจ, ประชาชาติธุรกิจ

ธปท.พบโควิด-19 สะท้อนการเงินคนไทย

    นางสาวนวพร มหารักขกะ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายบริหารความเสี่ยงองค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย  กล่าวว่า ปี 2563 ธนาคารแห่งประเทศไทย   ร่วมกับสำนักงานสถิติแห่งชาติสำรวจระดับทักษะทางการเงินของคนไทยตามกรอบของ The Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) เป็นครั้งที่ 8 ครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างทุกจังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 11,901 ครัวเรือน เพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาทักษะทางการเงินของคนไทย และสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินที่ดี พบคนไทยมีทักษะการเงินดีกว่า 2 ปีก่อน อยู่ที่ 71.0% สูงกว่าการสำรวจครั้งก่อนในปี 2561 ที่อยู่ 66.2% และสูงกว่าค่าเฉลี่ยการสำรวจทักษะทางการเงินครั้งล่าสุดของ OECD ในปี 2563 ที่อยู่ 60.5% แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงและน่าสังเกต คือ จะเห็นว่าครัวเรือนมีความเปราะบางทางการเงินมากขึ้น สะท้อนจากสัดส่วนผู้สำรวจที่มีการบริหารจัดการทางการเงินพอใช้มีเพียง 38% ที่มีเงินสำรองอยู่ได้เกิน 3 เดือน หากต้องหยุดงานกะทันหัน หรือสามารถเอาตัวรอดได้ในภาวะเงินชอร์ต ที่มากกว่า 62% ที่ไม่สามารถเอาตัวรอดได้ สะท้อนสถานะทางการเงินที่ความเปราะบาง ส่วนหนึ่งมาจากรายได้ที่ลดลงจากแรงกระแทกของโควิด-19 และประชาชนไม่มีกันชนเรื่องเงินออมที่เพียงพอ

    ตลอดจนมีการกู้ยืมเงินจากหลายช่องทางโดยมีการบริหารจัดการไม่ดี ทำให้คนรอดจากภาวะเงินชอร์ตได้น้อย ประกอบกับ ธปท.มีการสำรวจในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย

 

ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

Categories
ข่าวหุ้น

ข่าว หุ้น ธุรกิจ วันที่ 26 ตุลาคม 2564

ข่าวหุ้น เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน Goo Invest Trade

ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 26 ตุลาคม 2564

26 ต.ค. ราคาบิตคอยน์ ขยับขึ้น 3.21%

   ราคาบิตคอยน์วันนี้ 26 ต.ค. 2564 ขยับขึ้น +3.21% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 62,731.20 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2,071,854.71 บาท มูลค่าซื้อขายรวม 31.61 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตามข้อมูลอัพเดต เมื่อเวลา 8:12 น. ที่ผ่านมา ในขณะที่ราคาเหรียญดิจิทัลคริปโตอื่นๆ Ethereum ได้ขยับขึ้น 1.07% Binance Coin ขยับขึ้น 1.03% และ Dogecoin คงที่ในช่วง 24 ชั่วโมง โดยมีราคาดังนี้ คือ

    Bitcoin  ราคา 62,731.20 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +3.21%, Ethereum  ราคา 4,134.06 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +1.07%,  Binance Coin ราคา 483.03 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +1.03%  Cardano  ราคา 2.15 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +0.49%, Tether  ราคา 01.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง -0.01% , Terra  ราคา 43.19 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +3.26% , XRP ราคา 1.09 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +0.51%,  Polkadot  ราคา 43.70 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +0.74%, Dogecoin  ราคา 0.27 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง +7.38% USD Coin ราคา 1.00 เหรียญสหรัฐ เปลี่ยนแปลง 0.00%

   ทั้งนี้ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อนและไม่ควรใช้เพื่อการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อขาย ผู้อ่านควรตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ทาง www.sec.or.th

 

ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

รับเสี่ยงกดดันแลกเปลี่ยนเงินบาทแข็งค่ากดเงินดอลอ่อนลง เช้านี้ 26 ต.ค.2564

   นายพูน  พานิชพิบูลย์  นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน  ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า กรอบเงินบาทวันนี้ 26.ต.ค.2564 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.00-33.20 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มค่าเงินบาทยังมีทิศทางการเคลื่อนไหวในกรอบ Sideways โดยปัจจัยหนุนในฝั่งแข็งค่าคือ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาดที่จะกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง รวมถึง โฟลว์ขายทำกำไรทองคำ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 1,800 ดอลลาร์ต่อออนซ์

   สำหรับฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะฟันด์โฟลว์หุ้น จะเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนให้กับเงินบาทได้ เพราะ นักลงทุนต่างชาติได้เริ่มขายทำกำไรหุ้นไทยออกมาบ้าง ซึ่งจะกดดันให้เงินบาทผันผวนในฝั่งอ่อนค่า โดยโฟลว์นักลงทุนต่างชาติอาจมีการซื้อ-ขาย สลับกัน จนกว่าปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจจะมีทิศทางดีขึ้นชัดเจนและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเริ่มดีขึ้น จนนักวิเคราะห์มีการปรับเป้าผลกำไร ซึ่งจะช่วยลดระดับ Valuation ของหุ้นไทยให้ถูกลงจนน่าสนใจได้ เนื่องจากปัจจุบัน ระดับ Valuation หุ้นไทยถือว่าแพงพอสมควร

    นอกจากนี้แนวต้านสำคัญของเงินบาทยังอยู่ในโซน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ผู้ส่งออกบางส่วนต่างรอขายเงินดอลลาร์อยู่ ผู้นำเข้าบางส่วนก็รอทยอยเข้าซื้อเงินดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้ เงินบาทยังมีแนวรับสำคัญที่โซน 33.00 บาทต่อดอลลาร์ นอกจากนี้ แนวรับเงินบาทที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ ถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากผู้เล่นต่างชาติที่ยังคงเก็งกำไรเงินบาทอ่อนค่าและมีเป้าในช่วง 34-35 บาทต่อดอลลาร์นั้น อาจวาง Stoploss ไว้ที่ 33 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ หากเงินบาทแข็งค่าหลุดระดับดังกล่าว เราอาจเห็นโฟลว์ cover short positions ที่เก็งกำไรเงินบาทอ่อน กดดันให้เงินบาทแข็งค่าเร็วได้ในระยะสั้น

   สำหรับตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์โดยรวมยังทรงตัวเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยผู้เล่นในตลาดยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนสถานะถือครองเพิ่มเติมมากหนัก เพราะถึงแม้ว่าตลาดจะเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงต่อ แต่ตลาดยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากแนวโน้มเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นและอยู่ในระดับสูงอยู่ โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ยังแกว่งตัวใกล้ระดับ 93.85 จุด โดยการเคลื่อนไหว sideways ของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ รวมถึง ความต้องการถือทองคำ เพื่อ hedge ความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ได้หนุนให้ ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาสู่ระดับ 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์  อาจเริ่มเห็นโฟลว์ขายทำกำไรทองคำเกิดขึ้นบ้าง และโฟลว์ดังกล่าวอาจส่งผลให้เงินบาทผันผวนในฝั่งแข็งค่าขึ้นได้

    ทั้งนี้รอติดตาม ตลอดทั้งวันนี้ผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะหุ้นเทคฯ ใหญ่สหรัฐฯ อาทิ Alphabet หรือ Google, Twitter และ Microsoft ซึ่งผลประกอบการที่ดีกว่าคาดและแนวโน้มการเติบโตของผลกำไรที่โดดเด่นจะช่วยหนุนให้ตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงได้

 

ขอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ

นิยายรุ่ง GLORY ขยายแพลตฟอร์มเล็งตลาดE-Bookต่างชาติ

    บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (Mai)  โดยเปิดการซื้อขายที่ราคา 5.30 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 89.29% จากราคาจอง 2.80 บาทต่อหุ้น ระหว่างวันปรับขึ้นทำจุดสูงสุดที่ 8.30 บาทต่อหุ้น ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 7.60  บาท เพิ่มขึ้น  4.80 บาท หรือ 171.43% มูลค่าการซื้อขาย 5,989.55 ล้านบาท

    นายจรัญพัฒณ์ บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รายได้ปี 2564 บริษัทคาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับครึ่งแรกของปีที่ 19% และในปี 2565 คาดว่าจะเติบโต 20-40% โดยได้ปัจจัยหนุนจากการนำเข้าลิขสิทธิ์นิยายต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทมีแผนจะซื้อลิขสิทธิ์นิยายเพิ่มขึ้นประมาณ 70% ตั้งแต่ปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงปี 2565 จากปัจจุบันมีลิขสิทธิ์นิยายแปลประมาณ 100 เรื่องขณะที่การเปิดตัวแพลตฟอร์ม Jinovel คาดว่าจะสร้างการเติบโตให้รายได้ราว 20% เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในการเข้ามาลงทุนหุ้นของบริษัท ซึ่งภายหลังจากการเข้าระดมทุนในครั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้ราว 189 ล้านบาท ไปใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อรองรับการขยายบริการทั้งในและต่างประเทศ การพัฒนาแพลตฟอร์มนิยาย “จีโนเวล”  เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเพศหญิง และการซื้อลิขสิทธิ์นิยายต่างประเทศ รวมถึงบริษัทยังได้หนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หรือ E-Book ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 14% โดยคาดว่าจะเห็นการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังผู้อ่านเริ่มคุ้นเคยกับการใช้งานแพลตฟอร์ม

   ปัจจุบันบริษัทมีต้นแบบนิยายไทยส่วนหนึ่งที่เตรียมแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้บริการลูกค้าต่างประเทศ โดยตั้งเป้าหมายระยะยาวสัดส่วนรายได้ต่างประเทศจะสูงกว่ารายได้ในประเทศ สอดคล้องกับประชากรต่างประเทศที่มีจำนวนมากกว่าประชากรในประเทศสำหรับแผนการขยายแพลตฟอร์มเพื่อให้บริการกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ บริษัทจะเริ่มขยายแพลตฟอร์มภาษาอังกฤษก่อนในเฟสแรก สำหรับภาษาอื่นๆจะพิจารณาในเฟสถัดไป

    ทั้งนี้บริษัทมองการต่อยอดไปธุรกิจอื่นๆ เช่น ธุรกิจโฆษณา เนื่องจากแพลตฟอร์มปัจจุบันของบริษัท  Kawebook มีจำนวนผู้ใช้บริการค่อนข้างสูง จากฐานสมาชิกมากกว่า 2 แสนราย ง่ายต่อการต่อยอดมากกว่าการเปิดแพลตฟอร์มใหม่ที่ยังไม่มีจำนวนผู้ใช้บริการที่ชัดเจนรวมถึงการใช้จ่ายบนแพลตฟอร์ม บริษัทไม่ได้ปิดกั้นโอกาสใหม่ๆ เช่น การชำระค่าบริการด้วยสกุลเงินดิจิทัลด้วย

 

ขอบคุณ กรุงเทพธุรกิจ

พลิกเกมส์วิกฤตเศรษฐกิจ JWD เติบโตขึ้นในช่วงปีหลัง

    หุ้นบริษัทเจดับเบิ้ลยูดีอินโฟโลจิสติกส์จำกัด(มหาชน) หรือ JWD คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3/64 จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในสถาการณ์แพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ที่ส่งผลกับทางด้านธุรกิจการค้าทั่วโลก ส่งผลให้เกือบทั้งไตรมาสการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์รวมถึงกิจการขนส่งทางรางและการขาดแคลนชิปในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ทั้งหมด ซึ่งธุรกิจของJWDเติบโตได้ที่ดีจากธุรกิจห้องเย็นซึ่งเข้าสู่ High Season ในช่วงปีหลัง

    หากปริมาณการเป็นไปตามคาดกำไร 9 เดือนแรกของปี 64 อยู่ที่ 323.2 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 50.9 %จากปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 73.3% จากปีก่อนคิดเป็น 74.9% ของปริมาณการทั้งปี คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการ ไตรมาส 4/64 จะทำสถิติสูงสุดจากทั้งธุรกิจเดิมและรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากESCO ซึ่งเป็นผู้ประกอบการท่าเรือตู้คอนเทนเนอร์ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบังจึงยังคงปริมาณกำไรสุทธิปี 2554 ที่ 502.5 ล้านบาทเติบโตขึ้น 73.3% จากปีก่อนคิดเป็นอัตรากำไร 9.9 และคงประมาณการกำไรปกติ 2565 -2566 ที่ 566.2 ล้านบาทและ 690.8 ล้านบาท เติบโต 33.4% จากปีก่อนและ 22.0% จากปีก่อนตามลำดับ โดยในปี 2565 จัดเก็บเกี่ยวประโยชน์เต็มปีจากบิลที่เกิดขึ้นในปีนี้หลายดิวได้แก่ทุน ESCO  รับรู้รายได้จากALPHA โครงการร่วมทุนกับORI โดยตั้งเป้าปี 2565 อยู่ที่ 23 บาท ราคาหุ้นปัจจุบัน PE ปี 2565 EBITDA สะท้อนความสามารถทำกำไรดีกว่าหุ้นปัจจุบันที่มีEV/EBITDA ปี 2022 เพียง 12.4 เท่า ต่ำกว่าการเติบโตEBITDAที่คาด เพิ่มขึ้น 15.3% CAGR ในช่วงปี 2564-2566

    ทั้งนี้ในด้านธุรกิจอาหารธุรกิจ Barge หรือ ธุรกิจ Self-storageและธุรกิจขนส่งที่รับรู้รายได้จาก VNS Transportเต็มไตรมาสแรกทำให้ค่ารายได้รวมเพิ่มขึ้น 5.9% จากไตรมาสก่อนและเพิ่มขึ้น 35.3%จะปีก่อนเป็น 1,324.7 ล้านบาท โดยต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่างๆคาดว่าไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

 

ขอบคุณ : ข่าวหุ้น

รพ.รามรามคำแหง หยุดซื้อ หุ้นสินแพทย์เพิ่ม เนื่องจากราคาแพง

บริษัทโรงพยาบาลรามคำแหงจำกัด (มหาชน) หรื อRAM  สละสิทธิ์การซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนจาก บริษัท สินแพทย์ จำกัด เนื่องจากราคาหุ้นของโรงพยาบาลสินแพทย์ที่เพิ่มทุนนี้ได้ขายในราคาหุ้นละ 100 บาทเมื่อพิจารณาถึงอัตราส่วนP/E จะเห็นว่าค่อนข้างสูง อยู่ที่ 30.258 เท่า ขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทในโรงพยาบาลสินแพทย์อยู่ที่ร้อยละ 32.95 ของทุนจดทะเบียนและชำระของบริษัทสินแพทย์จำกัดซึ่งภายหลังสละสิทธิ์บริษัทจะมีส่วนถือหุ้นอยู่ที่ร้อยละ 28.40 ของทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัทสินแพทย์จำกัด 

รวมถึงขณะนี้บริษัทได้ขยายการลงทุนโรงพยาบาลทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดจึงจะต้องใช้ทุนจำนวนมากทางบริษัทมีเงินทุนหมุนเวียนในขณะนี้ค่อนข้างจำกัด

ขอบคุณ ข่าวหุ้น