LOGO Goo Invest
Categories
ข่าวหุ้น

ข่าว หุ้น ธุรกิจ วันที่ 28 ตุลาคม 2564

ข่าวหุ้น เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน Goo Invest Trade

ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 28 ตุลาคม 2564

บิตคอยน์ปรับตัวร่วงลง 3.46%

   28 ต.ค.64 เวลา 05.16 น. บิตคอยน์ปรับตัวร่วงลง 3.46% เคลื่อนไหวที่ 58,683.0 ดอลลาร์ ในขณะที่เมื่อคือวัน27ต.ค.64 กูรูคาดการณ์ว่าบิตคอยน์จะปรับตัวลงต่อ หลังจากทรุดตัวลงใกล้หลุด 58,000 ดอลลาร์ รวมถึงนักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ 

   โดยบิตคอยน์ได้ดิ่งลงแตะระดับ 58,100 ดอลลาร์เมื่อคืนวันที่ 27 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 64 และทรุดตัวลง 13% จากระดับ 67,016 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การร่วงดังกล่าว ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ลดลงสู่ระดับ 1.11 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะดิ่งลงอย่างหนักแต่บิตคอยน์ยังคงทะยานขึ้น 35% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. และมีแนวโน้มทำสถิติปรับตัวดีที่สุดในเดือนนี้นับตั้งแต่เดือนก.พ.

   ทั้งนี้ได้เกิดจากปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่า บิตคอยน์ถึงเวลาปรับฐานแล้ว และมีแนวโน้มในช่วงขาลง โดยจะทดสอบแนวรับที่ระดับ 54,000 ดอลลาร์ การร่วงลงอาจรุนแรงยิ่งขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ ที่มีแนวโน้มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ คิวอี เร็วกว่าที่คาดไว้

 

ขอบคุณ : กรุงเทพธุรกิจ

 

ดอร์ลาร์ อ่อนค่าลง ราคาทองตลาดนิวยอร์กปิดบวก 5.4

   สัญญาทองคำปรับขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 1.6% เมื่อคืนนี้ 27ต.ค.64 โดยมี ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ 93.8082   ซึ่งการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ ทำให้อ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ จากการทำสัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ มีราคาถูกลงรวมถึงมีความน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

   โดยราคาทองตลาดนิวยอร์กปิดบวก สัญญาทองคำตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงสัญญาทองคำตลาด COMEX ที่จะส่งมอบในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,798.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

   ทั้งนี้นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ BoE อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้วป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

ขอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ

คลังเผย 5 แนวทางพัฒนาตลาดทุนไทย หลังร่วมประชุมบอร์ดกับ ก.ล.ต.

   นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้ประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ครั้งที่ 1/2564 โดยมีผู้แทนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เข้าร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 ปี 2560 – 2564 สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 และการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการของมาตรการของตลาดเงินและตลาดทุนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19

    ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการกำหนดแนวทางและทิศทางของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่4 ปี 2565 – 2570 กำหนดให้สอดรับกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจโลกอย่างรอบด้าน ด้าน 5 ด้าน ได้แก่

 

  1. ส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงินผ่านกลไกตลาดทุน
  2. เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย
  3. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับตลาดทุน
  4. ตลาดทุนยั่งยืน
  5. การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาวครอบคลุมถึงวัยเกษียณ (Financial Well-being)

   โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 4 ต่อไป สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 ปี 2560 – 2564  ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 ความคืบหน้าการดำเนินการของมาตรการของตลาดเงินและตลาดทุนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ได้สรุป ดังนี้

  1. ความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 การดำเนินงานภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ประจำปี 2563 ประกอบด้วย 7 มาตรการหลัก 17 มาตรการย่อย และแผนงานสนับสนุน 65 แผนงาน โดยแบ่งเป็น
  • การเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือSMEs , วิสาหกิจเริ่มต้น หรือ Startup และนวัตกรรม
  • การเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
  • การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย
  • การพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมโยงของภูมิภาค
  • การมีแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ
  • การพัฒนาตลาดทุนดิจิทัล
  • การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 มีแผนงานที่ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 32 แผนงาน
  1. ความคืบหน้าการดำเนินการของมาตรการของตลาดเงินและตลาดทุนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านตลาดทุนและตลาดเงินที่ได้มีการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย

        2.1 การดำเนินมาตรการของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีมาตรการช่วยเหลือกิจการที่ประสบปัญหา COVID-19  คือ  ด้านการช่วยเหลือกิจการที่ประสบปัญหา COVID-19 มีการเสริมสภาพคล่องให้กิจการที่กำลังประสบปัญหา/ช่วยเหลือกิจการที่ประสบปัญหาแล้วผ่านมาตรการต่าง ๆ , ด้านการเปิดช่องทางและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงตลาดทุนอาทิ การอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนในขั้นตอนการเปิดบัญชี รวมทั้งพัฒนาแบบฟอร์มมาตรฐาน และปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำความรู้จักลูกค้าด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์, ด้านสร้างความเข้มแข็งและ Resiliency มีส่วนช่วยสร้างความยั่งยืน เป็นต้น

         2.2 การดำเนินมาตรการของ ธปท. ได้มีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและดูแลเสถียรภาพของระบบการเงินใน 2 ด้านที่สำคัญ คือ  มาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจ เช่น มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อให้ SMEs สามารถประคับประคองกิจการและรักษาการจ้างงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 , มาตรการสนับสนุนสภาพคล่องให้กับสถาบันที่ให้ความช่วยเหลือแก่กองทุนรวมตราสารหนี้ , มาตรการกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ เป็นต้น และมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ของประชาชนและภาคธุรกิจ

           2.3 การดำเนินมาตรการของสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย  ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงออกมาตรการด้านประกันภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบด้านประกันภัยประกอบด้วยประชาชนและผู้ประกอบการบริษัทประกันภัยและคนกลางประกันภัย

            2.4 การดำเนินมาตรการของ ตลท. ได้มีการดำเนินมาตรการได้แก่ มาตรการดูแลความผันผวนในตลาด , มาตรการที่สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติให้ ตลท. ใช้เป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากความผันผวนของตลาด,  มาตรการช่วยเหลือผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ การลดค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ร่วมตลาด และการปรับรูปแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจในภาวะการระบาดของCOVID-19 เป็นต้น

            2.5 การดำเนินมาตรการของ FETCOได้มีส่วนร่วมในการเสนอมาตรการ คือ  (มาตรการขอผ่อนปรนเงื่อนไขการหยุด เลื่อน นำส่งเงินสะสม/สมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มาตรการจัดตั้งกองทุนรวม SSFX เป็นต้น

 

ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

คลัง ชี้ GDP ไทยได้รับอนิสงค์จากการเปิดประเทศ ย้ำราคาน้ำมันจัดการได้ ยังไม่ต้องลดภาษี

   นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากช่วงครึ่งปีแรกการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หรือ GDPขยายตัวได้ 2% ซึ่งเชื่อมั่นว่าตัวเลขในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะดีขึ้น โดยเป็นผลมาจากยอดการส่งออกของไทยที่มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน ผ่านโครงการคนละครึ่ง และยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมถึงมารตการเยียวยาอื่นๆ การเร่งรัดการลงทุนของรัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐของไทย ส่วนปี2565 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวราว 6-8 ล้านคนแต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ต้องติดตาม

    โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีรวมไปถึงมาตรการของขวัญปีใหม่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนจำนวนสิทธิโครงการ คนละครึ่ง เฟส3 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปรับลดสิทธิลงมาเหลือ 28 ล้านคน ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิจนเต็มจำนวนแล้ว

   ส่วนเรื่องราคาน้ำมันแพง ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังสามารถบริหารจัดการราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกินราคา 30 บาทต่อลิตรได้ และยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีสรรพสามิต เข้าไปช่วยพยุงราคา เนื่องจากราคาน้ำมันแพงนั้น เป็นวัฏจักรในช่วงหน้าหนาวของทุกปี และเมื่อพ้นหน้าหนาวราคาน้ำมันจะปรับลดลง

   ทั้งนี้ในวันที่ 28 ต.ค.64 จะมีการแถลงข่าวอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาส 3 และการปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564ใหม่ของกระทรวงการคลัง ดังนั้นต้องรอตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อความแม่นยำ

 

ขอบคณ: มติชนออนไลน์

อินโดนีเซียประกาศ เป็นศูนย์กลางการส่งออก ยานยนต์ไฟฟ้า แห่งอาเซียน

   สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระบวนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มขึ้นในเดือนมี.ค.ปี 2565 ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท พีที ฮุนได แมนูแฟกเจอริง อินโดนีเซีย หรือ HMMI เกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมชีการัง Cikarang ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานที่เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนรวม 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือระหว่างอินโดนีเซียและเกาหลีใต้ โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการในปีหน้า 2565 รวมถึงโรงงานแบตเตอรี่ก็เริ่มผลิตในปีเดียวกัน

    นายกูมีแวง คาร์ตาซาสมิตา รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า  อินโดนีเซีย พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งเป้าหมายระยะแรกผลิตรถยนต์และรถประจำทาง จำนวน 1,000 คัน ในปีหน้านี้ หรือ 2565 ซึ่งการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจะแสดงให้เห็นอุตสาหกรรมของเรากำลังก้าวไปสู่อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากการประกาศให้ประชาคมระหว่างประเทศรู้ว่า อินโดนีเซียพร้อมแล้วที่จะเป็นศูนย์กลางการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และพื้นที่โดยรอบในภูมิภาค

   ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายผลิตรถยนต์และรถประจำทางพลังงานไฟฟ้ารวม 600,000 คัน ภายในปี  2573 โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 2.7 ล้านตัน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 29 ภายในปีเดียวกัน

 

ขอบคุณ: ฐานเศรษฐกิจ