
ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 18 ตุลาคม 2564
นายกสั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับแฮกเกอร์ หลังประชาชนถูกดูกเงินผ่านธนาคารไทย
จากกรณีที่ชาวเน็ตแชร์ประสบการณ์โดนหักเงินจากธนาคารไทย โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมากที่โดนหักเงิน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการผู้บัญชีออนไลน์ของบัตรเดบิต และบางส่วนมีการใช้บัญชีดังกล่าวซื้อของออนไลน์ แต่ก็มีผู้เสียหายบางส่วนที่ไม่เคยใช้บัญชีซื้อสินค้า แต่โดนหักไปโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่ได้พึ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมานานแล้ว โดยช่วงวันที่โดนหักกันถี่ๆคือ 1-2 ต.ค. ที่ผ่านมา เมื่อเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางบนโลกออนไลน์ ทำให้ประชาชนตรวจสอบบัญชีย้อนหลังของตนเองจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็มีบางส่วนที่ถูกแฮกในช่วงเวลาอื่น
ซึ่งต่อมาพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยต่อภัยทางสื่อสังคมออนไลน์ที่หลอกลวงสร้างความเสียหายให้กับประชาชน โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
ขณะที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สอดรับตามนโยบายรัฐบาลพร้อมกำชับสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวนสอบสวน จับกุม ปราบปรามภัยทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกรูปแบบ พร้อมขยายผลถึงเครือข่ายของผู้กระทำความผิดตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด จริงจัง เห็นผลเป็นรูปธรรม
โดยขอแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งไปยังธนาคารเพื่อทำการอายัดบัตรและปฎิเสธการชำระเงินค่าบริการทางออนไลน์ และทำการตรวจสอบรายการเดินบัญชี รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถเดินทางไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนในทุกพื้นที่ใกล้บ้าน เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้กระทำความผิดและนำตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 269/5 ผู้ใดใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อแนะนำแนวทางการป้องกันกรณีที่คนร้ายได้ข้อมูลที่อยู่ด้านหน้าบัตรและตัวเลขรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร คนร้ายจึงสามารถนำไปใช้ทำธุรกรรมผ่านทางออนไลน์ที่มีมูลค่าไม่สูงได้ โดยไม่ต้องใช้ OTP ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการทำธุรกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือผ่านทางออนไลน์ที่ต้องแจ้งข้อมูลด้านหน้าบัตรและรหัส 3 ตัวที่อยู่ด้านหลังบัตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องระวังการหลอกลวงให้กรอกข้อมูลบัตรเพื่อจ่ายเงินค่าภาษีของเว็บไปรษณีย์ไทยปลอม
ซึ่งคนร้ายจะทำหน้าเว็บไซต์มีโลโก้ไปรษณีย์ไทยเหมือนของจริง หลีกเลี่ยงการกดลิงค์ที่มีการส่งมาทางอีเมล SMS หรือ สื่อสังคมออนไลน์ หากต้องการเข้าไปที่เว็บไซต์ใด ขอให้พิมพ์ชื่อเว็บด้วยตัวเองเพื่อป้องกันเข้าไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่มีความแนบเนียนมาก
นอกจากนี้ยังประชาชนควรนำแผ่นสติ๊กเกอร์ทึบแสงปิดรหัส 3 ตัวด้านหลังบัตร หรือจดรหัส 3 ตัวดังกล่าวเก็บเอาไว้ แล้วใช้กระดาษทรายลบตัวเลขรหัสดังกล่าวออกจากด้านหลังบัตร เพื่อความปลอดภัยในการใช้จ่ายประจำวัน และป้องกันมิจฉาชีพ มิให้แอบถ่ายรูปด้านหน้าและหลังบัตรเพื่อนำไปใช้จ่ายในโลกออนไลน์ ทั้งนี้ประชาชนที่พบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ซึ่งต่อมาเมื่อทางธนาคารแห่งประเทศไทยทราบเรื่องก็ได้ได้ออกมาชี้แจ้งผ่านทางเพจ ธนาคารแห่งประเทศไทย ชี้แจ้งว่า โดยเบื้องต้นพบว่า มิได้เกิดจากการรั่วไหลของข้อมูลจากธนาคาร แต่เป็นรายการที่เกิดจากการทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าและบริการกับร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ และไม่ใช่แอปดูดเงินตามที่ปรากฏเป็นข่าว ขณะนี้ธนาคารเจ้าของบัตรได้ดำเนินการระงับการใช้บัตรของลูกค้าที่มีรายการผิดปกติ และติดต่อลูกค้า รวมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบร้านค้าที่มีธุรกรรมที่ผิดปกติเหล่านี้
นอกจากนี้ ลูกค้าที่ตรวจสอบพบความผิดปกติของรายการธุรกรรมด้วยตนเอง สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันการทำธุรกรรมในทันที โดยธนาคารจะดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเร่งคืนเงินให้กับลูกค้าที่ได้รับความเสียหายตามขั้นตอนของธนาคารโดยเร็วต่อไป
แบงก์ชาติและสมาคมธนาคารไทย ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยธนาคารพาณิชย์มีระบบการรักษาความมั่นคงปลอดภัยและมีการตรวจสอบการทำธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างต่อเนื่อง เมื่อพบรายการที่ผิดปกติ ธนาคารจะแจ้งลูกค้าเพื่อตรวจสอบและยืนยันรายการธุรกรรม และพร้อมจะดูแลลูกค้าด้วยความรับผิดชอบเสมอ
ชอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ, เพจธนาคารแห่งประเทศไทย
เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ในขณะที่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น
นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุนธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยง หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มคลายกังวลปัญหาเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น ขณะเดียวกัน ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนก็เริ่มทยอยออกมาดีกว่าคาด ซึ่งตลาดจะรอลุ้นผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 3 พร้อมกับติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด อาทิ ประธานเฟด ถึงแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสที่เฟดจะเริ่มลดคิวอีในเดือนพฤศจิกายน
ซึ่งแนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ รวมถึงฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติ แต่ควรเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงภายใน อาทิ ปัญหาน้ำท่วม รวมถึง สถานการณ์ COVID ที่ยอดการระบาดยังอยู่ในระดับสูง จากความผันผวนของราคาทองคำก็อาจส่งผลต่อความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทได้เช่นกัน โดยราคาทองคำย่อตัวลง อาจเห็นโฟลว์ซื้อทองคำในสกุลเงินดอลลาร์ กดดันเงินบาทอ่อนค่าลง ขณะที่หากราคาทองคำปรับตัวขึ้น อาทิ แตะแนวต้านสำคัญ อาจมีแรงขายทำกำไร หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้น
นอกตากนี้ด้านมุมของแนวโน้มเงินดอลลาร์ ในสัปดาห์นี้ ภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด Risk-On อาจกดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งเงินดอลลาร์อาจไม่อ่อนค่าไปมาก หากบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดยังคงหนุนการลดคิวอีในเดือนหน้าและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมดีกว่าเศรษฐกิจอื่นๆ
ทั้งนี้ กรอบเงินบาทวันนี้ 18 ต.ค.6 4คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.30-33.50 บาท/ดอลลาร์ ในขณะที่สัปดาห์นี้ ที่ระดับ 33.10-33.60 บาท/ดอลลาร์ นอกจากนี้เชิงเทคนิคัล โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทอาจเริ่มแผ่วลงในระยะสั้นสอดคล้องกับการเกิด Bearish Divergence ซึ่ง เงินบาทยังมีแนวต้านสำคัญอยู่ในโซน 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่บรรดาผู้ส่งออกต่างรอเข้ามาทยอยขายดอลลาร์ ขณะที่ ผู้นำเข้าต่างรอซื้อเงินดอลลาร์ หากเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่า โดยแนวรับของเงินบาทจะอยู่ในโซน 33.00-33.10 บาทต่อดอลลาร์ โดยกรอบค่าเงินบาท
ขอบคุณ: ฐานเศรษฐกิจ
หุ้นเวียดนาม GDP สูงที่สุดในอาเซียน
ในปัจจุบันประเทศเวียดนามมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เติบโตในระยะยาว GDPสูงที่สุดในอาเซียน ทำให้มีนักลงทุนเข้าไปลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนโดยตรง (FDI) และการลงทุนผ่านตลาดหุ้น ซึ่งหากดูจากเม็ดเงินที่ไหลเข้ากองทุนรวมและผลตอบแทนที่สะสมอยู่ในระดับสูง สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมในกองทุนหุ้นเวียดนามที่สูงมากในปีนี้
นายศุภกร ตุลยธัญ CFAเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ พรินซิเพิลจำกัด กล่าวว่า เวียดนามเป็นประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจโดดเด่นกว่าประเทศอื่นในอาเซียน โดยก่อนที่จะมีการล็อกดาวน์ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีคาดการณ์การเติบโตของ GDP เวียดนามในปี 2564 ไว้ประมาณ 6-7% ซึ่งสูงที่สุดในอาเซียน โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ
1) การบริโภคภายในประเทศ
2) การส่งออก
3) เม็ดเงินลงทุนจากบริษัทต่างชาติ (FDI)
4) เงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ คาดการณ์การเติบโตของ GDP เวียดนามในปี 2565 ไว้ที่ประมาณ 6-8% ซึ่งก็ยังเป็นตัวเลขประมาณการเติบโตที่สูงที่สุดในอาเซียน
เมื่อมองในแง่ของการแข่งขันทางเศรษฐกิจปัจจุบันไทยยังคงนำเวียดนามอยู่ด้วยเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่กว่า 2 เท่า และรายได้เฉลี่ยต่อหัว (GDP per Capita) ที่สูงกว่า 2.6 เท่าของเวียดนาม อย่างไรก็ตาม ด้วยอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจของเวียดนามในปัจจุบัน อาจทำให้เศรษฐกิจของเวียดนามสามารถเติบโต จนมีขนาดเทียบเท่ากับไทยได้ในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งหากไทยต้องการที่จะรักษาสถานะความเป็นผู้นำไว้อาจต้องพึ่งพาความสามารถในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติให้มากขึ้น เพื่อพัฒนาศักยภาพในการเติบโตและการขยายตัวของเศรษฐกิจ
โดยกองทุนหุ้นเวียดนามเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนที่น่าสนใจ เพราะให้ผลตอบแทนที่ดี อย่างไรก็ดี นักลงทุนคงต้องศึกษาความเสี่ยงให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนเพราะตลาดหุ้นเวียดนามยังคงเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูงและมีสภาพคล่องต่ำกว่าตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก
ทั้งนี้นักลงทุนควรมีความเข้าใจในความเสี่ยงเหล่านี้ก่อนเข้าลงทุน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างค่าเงินบาทและค่าเงินด่อง ก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบโดยตรงต่ออัตราผลตอบแทน
ขอบคุณ: ประชาชาติธุรกิจ
ตลาดหลักทรัพย์สั่งเบรกซื้อขายหลักทรัพย์ GRAMMY
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหยุดพักการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAMMY เป็นการชั่วคราวตั้งแต่เวลา 10.22 น. ของวันที่ 18 ต.ค. 64 เป็นต้นไป เนื่องจากปรากฏวิธีบันทึกการซื้อขายรายใหญ่ (Tradereport-Big lot) จำนวน 52.05% ของทุนจดทะเบียนที่เรียกชำระแล้ว ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญและอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในหลักทรัพย์ GRAMMYต่อตลาดหลักทรัพย์ยังไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
โดยเช้านี้พบ 10 รายการ จำนวน 426.77 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 14.30 บาท มูลค่า 6,102.87 ล้านบาท ซึ่งความเคลื่อนไหวราคาหุ้น GRAMMY เช้านี้ เปิดตลาดที่ 14.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท และปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 15.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท หรือ 6.08% และปรับตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 15.40 บาท ซึ่งเป็นราคา ช่วง ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯสั่งหยุดพักการซื้อขาย
ขอบคุณ : กรุงเทพธุรกิจ
IRPC กำไรไตรมาส 3 โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทหลักทัพย์ โนมูระ พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ 18ต.ค.64 ว่า บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC คาดกำไรปกติ ไตรมาส 3/2564 ราว 2,630 ล้านบาท บวก 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งติดลบ52%เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยกำไรโตเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนหลักๆด้วยอัตรากำไรที่เพิ่มขึ้นของฝั่งโรงกลั่น ในความต้องการใช้ฟื้น และ supply ตึงตัวลดลง กว่าไตรมาสก่อนหน้าเพราะอัตรากำไรฝั่งปิโตรเคมีที่ลดลงจาก supply ใหม่เข้ามาฉุดและ demand ในจีนชะลอ โดยทั้งปี 2564 คาดกำไรที่ 1.1 หมื่นล้านบาท
โดยราคาหุ้นปัจจุบัน ซื้อขายที่ระดับ PBV ที่ 1.1 เท่า ขณะที่ ภาพธุรกิจสู่ Cycle ทำกำไร 2564-2566 แนะซื้อเป้า 4.90 บาท โดยคาด กำไรไตรมาส 3/2564 ยังคงโดดเด่นต่อเนื่องจาก spread ผลิตภัณฑ์ยังอยู่ในระดับสูง และสามารถเก็งกำไรรับการฟื้นตัวของ spread HDPE/PP (ผลิตภัณฑ์หลักฝั่งปิโตรเคมี) จากจุด bottom ในไตรมาส 3/2564 ได้
ขอบคุณ สำนักข่าวหุ้นธุรกิจ
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 30 มกราคม 2566 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 30 มกราคม 2566 ตลาดจับตาเฟดแถลงผลการประชุมวันพุธนี้ คาดขึ้นดอกเบี้ย
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 24 มกราคม 2566 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 24 มกราคม 2566 (รอบเช้า) ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งเทียบดอลล์ ร
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 มกราคม 2566 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 มกราคม 2566 (รอบเช้า) ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $16.90 เ
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า) ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $27.7 ด
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบบ่าย)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบบ่าย) ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเล็กน้อ
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า) ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $2.5 บอนด