LOGO Goo Invest
Categories
ข่าวหุ้น

ข่าว หุ้น ธุรกิจ วันที่ 28 ตุลาคม 2564

ข่าวหุ้น เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน Goo Invest Trade

ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 28 ตุลาคม 2564

บิตคอยน์ปรับตัวร่วงลง 3.46%

   28 ต.ค.64 เวลา 05.16 น. บิตคอยน์ปรับตัวร่วงลง 3.46% เคลื่อนไหวที่ 58,683.0 ดอลลาร์ ในขณะที่เมื่อคือวัน27ต.ค.64 กูรูคาดการณ์ว่าบิตคอยน์จะปรับตัวลงต่อ หลังจากทรุดตัวลงใกล้หลุด 58,000 ดอลลาร์ รวมถึงนักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้ 

   โดยบิตคอยน์ได้ดิ่งลงแตะระดับ 58,100 ดอลลาร์เมื่อคืนวันที่ 27 ต.ค.64 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 64 และทรุดตัวลง 13% จากระดับ 67,016 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การร่วงดังกล่าว ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ลดลงสู่ระดับ 1.11 ล้านล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะดิ่งลงอย่างหนักแต่บิตคอยน์ยังคงทะยานขึ้น 35% นับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. และมีแนวโน้มทำสถิติปรับตัวดีที่สุดในเดือนนี้นับตั้งแต่เดือนก.พ.

   ทั้งนี้ได้เกิดจากปัจจัยทางเทคนิคบ่งชี้ว่า บิตคอยน์ถึงเวลาปรับฐานแล้ว และมีแนวโน้มในช่วงขาลง โดยจะทดสอบแนวรับที่ระดับ 54,000 ดอลลาร์ การร่วงลงอาจรุนแรงยิ่งขึ้น ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ ที่มีแนวโน้มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ คิวอี เร็วกว่าที่คาดไว้

 

ขอบคุณ : กรุงเทพธุรกิจ

 

ดอร์ลาร์ อ่อนค่าลง ราคาทองตลาดนิวยอร์กปิดบวก 5.4

   สัญญาทองคำปรับขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 1.6% เมื่อคืนนี้ 27ต.ค.64 โดยมี ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ 93.8082   ซึ่งการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ ทำให้อ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ จากการทำสัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ มีราคาถูกลงรวมถึงมีความน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น

   โดยราคาทองตลาดนิวยอร์กปิดบวก สัญญาทองคำตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ โดยมีปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย รวมถึงสัญญาทองคำตลาด COMEX ที่จะส่งมอบในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,798.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

   ทั้งนี้นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลก โดยคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ BoE อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้วป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย

 

ขอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ

คลังเผย 5 แนวทางพัฒนาตลาดทุนไทย หลังร่วมประชุมบอร์ดกับ ก.ล.ต.

   นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ได้ประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ครั้งที่ 1/2564 โดยมีผู้แทนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน เข้าร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 ปี 2560 – 2564 สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 และการรายงานความคืบหน้าการดำเนินการของมาตรการของตลาดเงินและตลาดทุนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19

    ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบการกำหนดแนวทางและทิศทางของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่4 ปี 2565 – 2570 กำหนดให้สอดรับกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจโลกอย่างรอบด้าน ด้าน 5 ด้าน ได้แก่

 

  1. ส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงินผ่านกลไกตลาดทุน
  2. เพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย
  3. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับตลาดทุน
  4. ตลาดทุนยั่งยืน
  5. การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาวครอบคลุมถึงวัยเกษียณ (Financial Well-being)

   โดยที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลักในการดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 4 ต่อไป สำหรับความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 ปี 2560 – 2564  ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 ความคืบหน้าการดำเนินการของมาตรการของตลาดเงินและตลาดทุนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ได้สรุป ดังนี้

  1. ความคืบหน้าของการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 การดำเนินงานภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ประจำปี 2563 ประกอบด้วย 7 มาตรการหลัก 17 มาตรการย่อย และแผนงานสนับสนุน 65 แผนงาน โดยแบ่งเป็น
  • การเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือSMEs , วิสาหกิจเริ่มต้น หรือ Startup และนวัตกรรม
  • การเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
  • การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย
  • การพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมโยงของภูมิภาค
  • การมีแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ
  • การพัฒนาตลาดทุนดิจิทัล
  • การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 มีแผนงานที่ดำเนินการแล้วเสร็จจำนวน 32 แผนงาน
  1. ความคืบหน้าการดำเนินการของมาตรการของตลาดเงินและตลาดทุนในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่ประชุมได้รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านตลาดทุนและตลาดเงินที่ได้มีการดำเนินมาตรการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสภาธุรกิจตลาดทุนไทย

        2.1 การดำเนินมาตรการของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีมาตรการช่วยเหลือกิจการที่ประสบปัญหา COVID-19  คือ  ด้านการช่วยเหลือกิจการที่ประสบปัญหา COVID-19 มีการเสริมสภาพคล่องให้กิจการที่กำลังประสบปัญหา/ช่วยเหลือกิจการที่ประสบปัญหาแล้วผ่านมาตรการต่าง ๆ , ด้านการเปิดช่องทางและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงตลาดทุนอาทิ การอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ลงทุนในขั้นตอนการเปิดบัญชี รวมทั้งพัฒนาแบบฟอร์มมาตรฐาน และปรับปรุงหลักเกณฑ์การทำความรู้จักลูกค้าด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์, ด้านสร้างความเข้มแข็งและ Resiliency มีส่วนช่วยสร้างความยั่งยืน เป็นต้น

         2.2 การดำเนินมาตรการของ ธปท. ได้มีมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจและดูแลเสถียรภาพของระบบการเงินใน 2 ด้านที่สำคัญ คือ  มาตรการเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจ เช่น มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อให้ SMEs สามารถประคับประคองกิจการและรักษาการจ้างงานภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 , มาตรการสนับสนุนสภาพคล่องให้กับสถาบันที่ให้ความช่วยเหลือแก่กองทุนรวมตราสารหนี้ , มาตรการกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ เป็นต้น และมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ของประชาชนและภาคธุรกิจ

           2.3 การดำเนินมาตรการของสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม การประกอบธุรกิจประกันภัย  ได้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงออกมาตรการด้านประกันภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบด้านประกันภัยประกอบด้วยประชาชนและผู้ประกอบการบริษัทประกันภัยและคนกลางประกันภัย

            2.4 การดำเนินมาตรการของ ตลท. ได้มีการดำเนินมาตรการได้แก่ มาตรการดูแลความผันผวนในตลาด , มาตรการที่สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติให้ ตลท. ใช้เป็นการชั่วคราว เพื่อแก้ไขหรือบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากความผันผวนของตลาด,  มาตรการช่วยเหลือผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ การลดค่าธรรมเนียมให้แก่ผู้ร่วมตลาด และการปรับรูปแบบกิจกรรมให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจในภาวะการระบาดของCOVID-19 เป็นต้น

            2.5 การดำเนินมาตรการของ FETCOได้มีส่วนร่วมในการเสนอมาตรการ คือ  (มาตรการขอผ่อนปรนเงื่อนไขการหยุด เลื่อน นำส่งเงินสะสม/สมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มาตรการจัดตั้งกองทุนรวม SSFX เป็นต้น

 

ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

คลัง ชี้ GDP ไทยได้รับอนิสงค์จากการเปิดประเทศ ย้ำราคาน้ำมันจัดการได้ ยังไม่ต้องลดภาษี

   นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากช่วงครึ่งปีแรกการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย หรือ GDPขยายตัวได้ 2% ซึ่งเชื่อมั่นว่าตัวเลขในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะดีขึ้น โดยเป็นผลมาจากยอดการส่งออกของไทยที่มีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชน ผ่านโครงการคนละครึ่ง และยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมถึงมารตการเยียวยาอื่นๆ การเร่งรัดการลงทุนของรัฐและรัฐวิสาหกิจ รวมถึงการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทำให้นักท่องเที่ยวกลับมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐของไทย ส่วนปี2565 คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะมียอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวราว 6-8 ล้านคนแต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ต้องติดตาม

    โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีรวมไปถึงมาตรการของขวัญปีใหม่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ส่วนจำนวนสิทธิโครงการ คนละครึ่ง เฟส3 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการปรับลดสิทธิลงมาเหลือ 28 ล้านคน ล่าสุดมีผู้ลงทะเบียนรับสิทธิจนเต็มจำนวนแล้ว

   ส่วนเรื่องราคาน้ำมันแพง ขณะนี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ยังสามารถบริหารจัดการราคาน้ำมันดีเซล ไม่ให้เกินราคา 30 บาทต่อลิตรได้ และยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการทางภาษีสรรพสามิต เข้าไปช่วยพยุงราคา เนื่องจากราคาน้ำมันแพงนั้น เป็นวัฏจักรในช่วงหน้าหนาวของทุกปี และเมื่อพ้นหน้าหนาวราคาน้ำมันจะปรับลดลง

   ทั้งนี้ในวันที่ 28 ต.ค.64 จะมีการแถลงข่าวอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไตรมาส 3 และการปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564ใหม่ของกระทรวงการคลัง ดังนั้นต้องรอตัวเลขอย่างเป็นทางการจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เพื่อความแม่นยำ

 

ขอบคณ: มติชนออนไลน์

อินโดนีเซียประกาศ เป็นศูนย์กลางการส่งออก ยานยนต์ไฟฟ้า แห่งอาเซียน

   สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระบวนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจะเริ่มขึ้นในเดือนมี.ค.ปี 2565 ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท พีที ฮุนได แมนูแฟกเจอริง อินโดนีเซีย หรือ HMMI เกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมชีการัง Cikarang ทางตะวันออกของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานที่เริ่มต้นก่อสร้างเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา ด้วยเงินลงทุนรวม 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.6 หมื่นล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือระหว่างอินโดนีเซียและเกาหลีใต้ โดยมีกำหนดเริ่มดำเนินการในปีหน้า 2565 รวมถึงโรงงานแบตเตอรี่ก็เริ่มผลิตในปีเดียวกัน

    นายกูมีแวง คาร์ตาซาสมิตา รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่า  อินโดนีเซีย พร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้า ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยตั้งเป้าหมายระยะแรกผลิตรถยนต์และรถประจำทาง จำนวน 1,000 คัน ในปีหน้านี้ หรือ 2565 ซึ่งการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจะแสดงให้เห็นอุตสาหกรรมของเรากำลังก้าวไปสู่อุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากการประกาศให้ประชาคมระหว่างประเทศรู้ว่า อินโดนีเซียพร้อมแล้วที่จะเป็นศูนย์กลางการส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน และพื้นที่โดยรอบในภูมิภาค

   ทั้งนี้ตั้งเป้าหมายผลิตรถยนต์และรถประจำทางพลังงานไฟฟ้ารวม 600,000 คัน ภายในปี  2573 โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูงถึง 2.7 ล้านตัน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 29 ภายในปีเดียวกัน

 

ขอบคุณ: ฐานเศรษฐกิจ

Categories
การลงทุน ข่าวหุ้น ธุรกิจ ลับ เศรษฐี นอกตำรา

เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ

เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ?

         เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ อย่าโทษแต่สิ่งรอบข้างจนลืมมองตัวเอง คนเรามักโทษสิ่งอื่นเสมอแต่ไม่เคยมองตัวเอง โควิด19- ทำให้ทำงานไม่ได้ ต่อให้เจอวิกฤตอะไรคุณก็โทษได้ทั้งนั้น ที่ผ่านมาเห็นแต่คนโทษเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าเมื่อไหร่ 20 หรือ 30 ปีก็มีแต่คนบอกเศรษฐกิจไม่ดี ไม่เคยเห็นเลยที่บอกเศรษฐกิจดี แต่ทุกช่วงเวลาที่ผ่านมาก็ได้เห็นคนประสบความสำเร็จหน้าใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลาแม้จะในช่วงโควิด

เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยืดเยื้อมานานเป็นปี ส่งผลกระทบรุนแรงไม่ใช่แค่ เศรษฐกิจภายในประเทศ แต่ยังรวมไปถึง ภาคธุรกิจ ร้านค้า กิจการ มนุษย์เดือน ฟรีแลนซ์ ที่โดนปรับลดค่าจ้าง ลดค่าใช้จ่าย ภายใน หรือแม้กระทั่ง นักเรียน นักศึกษา ที่ได้รับผลกระทบ จากวิกฤติครั้งนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันไป และเพื่อให้ทุกอาชีพสามารถผ่านพ้นวิกฤติการเงินครั้งนี้ไปได้ เราจะมาดูวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาตัวรอด จากวิกฤติการเงินนี้ได้กัน

1. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่ลดรายจ่ายของความบันเทิง

       ช่วงวิกฤติการเงินสาหัสเช่นนี้ จะใช้จ่ายตามใจชอบเหมือนที่ผ่านมาคงไม่ได้ รายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น รายจ่ายเพื่อความบันเทิงคงจะต้องตัดออกไปก่อน เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับสถานะการเงินในช่วงวิกฤติให้ผ่านพ้นไปด้วยดี

2. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่จัดระเบียบกระเป๋าเงินของตนเอง

    กระเป๋าการเงินก็เปรียบเสมือนสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานะการเงินของเราในแต่ละช่วงเวลา ยิ่งในช่วงที่มีวิกฤติเรื่องโรคระบาดหนักเช่นนี้ วิธีที่จะสามารถเอาตัวรอดได้เป็นอย่างดีคือหันมาให้ความสำคัญ จัดระเบียบการเงินในกระเป๋าของเราเอง เตรียมพร้อมรับมือกับทุกเหตุการณ์ โดยแบ่งสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่จำเป็น และเงินออมสำรองยามฉุกเฉินไว้ใช้ในอนาคต

3. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ สร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็น

      เราไม่รู้ว่าโควิด-19 จะไปจากเราเมื่อไหร่ และสถานการณ์จะกลับมาเป็นปกติได้ตอนไหน หนทางการเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้คือ หยุดก่อหนี้ และเคลียร์หนี้สินคงค้างให้เสร็จสิ้น เมื่อหมดหนี้แล้ว เราก็อาจจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสด้วยการใช้ยอดขั้นต่ำการชำระหนี้มาแปลเปลี่ยนเป็นจำนวนเงินที่เราต้องออมในแต่ละเดือนก็ได้เช่นกันนะคะ นอกจากไม่มีหนี้แล้วยังช่วยให้มีเงินออมเพิ่มขึ้นอีกด้วย

4. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่เคยทำอาชีพเสริม

        สถานการณ์แบบนี้มีรายได้ทางเดียวคงไม่เพียงพอ และเพื่อเอาตัวรอดจากวิกฤติก็คงต้องหาอาชีพเสริม หรือช่องทางเพิ่มรายได้ขึ้นมา เพื่ออย่างน้อย ๆ จะได้ลดปัญหาเรื่องการขาดรายได้จากอาชีพหลักของเรา โดยอาจจะเลือกทำจากสิ่งที่เราชอบ หรือถนัดมาต่อยอดไอเดียหารายได้ ไม่แน่ว่าเราอาจจะเปลี่ยนจากอาชีพเสริมมาเป็นอาชีพหลักเลยก็ได้ค่ะ

5. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่ระวังเรื่องการลงทุน

      เศรษฐกิจตอนนี้มีความผันผวนสูง หากใครที่คิดว่าการลงทุนอาจจะช่วยให้เราได้ผลตอบแทนมาใช้ชีวิตรอดในช่วงนี้ได้อาจเป็นความคิดที่ไม่ถูกเสมอไป  เพราะเราอาจเสียเงินต้นไปจำนวนมากภายในพริบตา แต่ถ้าสำหรับใครที่ต้องการลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยง และเป็นระดับความเสี่ยงที่รับได้ แนะนำว่าให้ศึกษาการลงทุนแต่ละรูปแบบ และเงินที่จะนำไปลงทุนควรจะต้องเป็น “เงินเย็น” เท่านั้น

6. เศรษฐกิจไม่ดี เพราะโควิด หรือเพราะคุณ ไม่ติดตามข่าวสารมาตรการจากรัฐบาลและสถาบันการเงิน

        ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมาตรการเยียวยา ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ หรือขาดรายได้ให้แก่ประชาชน การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ช่วยเหลือแก่ผู้มีหนี้สิน นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสามารถเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นวิกฤติในช่วงนี้ไปได้

       วิธีการเอาตัวรอดทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางหนึ่ง ที่อาจะช่วยให้เราสามารถผ่านพ้นจากวิกฤติการเงินในช่วงโควิด-19 ไปได้ไม่มากก็น้อย แต่สุดท้ายแล้วเราต้องหาวิธีการปรับตัว และวิธีการจัดการเงินให้เหมาะสมกับตนเอง แล้วเราก็จะสามาระเอาตัวรอดจากวิกฤติครั้งนี้ไปได้

Categories
ธุรกิจ

พริกทอดกรอบ เริ่มต้นธุรกิจเพียง 1000 บาท

พริกทอดกรอบ เริ่มต้นธุระกิจเพียง 1,000 บาท

พริกทอดกรอบ ธุรกิจลงทุนน้อย กำไรดี ด้วยทุนเพียง 1,000 บาท ก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ สามารถทำเป็น รายได้เสริม หรือ ทำเป็น ธุรกิจหลักได้ ถ้าคุณกำลังมองหา ธุรกิจเสริม หรือรายได้เสริม ท่ามกลาง วิกฤตเศรษฐกิจ ในช่วงปี 2564 วิกฤติ covid19 ได้กินเวลายาวนานนับปีแล้ว ซึ่งส่งผลต่อรายได้ หรือบางคน อาจต้องเป็นหนี้เป็นสินก็มี ดอกเบี้ย ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน และ อยากหารายได้เสริมเพื่อ ปลดหนี้ แต่ก็ไม่รู้จะทำธุรกิจอะไรดี พริกทอดกรอบเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้คุณพิจารณา

พริกทอดกรอบ รายได้เสริม ลงทุน ธุรกิจ ลงทุนน้อย ธุรกิจช่วงโควิด19 Goo Invest

พริก รสชาติ ที่คุ้นเคยกับ คนไทย หรือ กับอีกหลายๆ ประเทศ พริกเป็นพืชเศรษฐกิจที่บ้านเรานิยมปลูกกันมาก ทั้งปลูกเพื่อบริโภคเอง หรือ จะปลูกส่งตลาด นับว่าเป็น วัตถุดิบ ใกล้ตัวที่หาได้ง่าย และเมื่อนำมาแปรรูปแล้ว สามารถสร้างมูลค่าได้เป็นเท่าตัว แถมยังช่วยยืดเวลา การเก็บรักษาให้นานได้ยิ่งขึ้น แทนที่จะต้องเสียเปล่า เพราะพริกการเก็บรักษามีอายุค่อนข้างสั้น การนำมาแปรรูปเป็น พริกทอดกรอบ จึงเป็นทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว แถมยังสร้างรายได้จากการขาย ได้อีกด้วย พริก มีหลากหลายสายพันธุ์ ที่เป็นที่นิยมในไทยมีหลายชนิดเช่น

  • 1. พริกชี้ฟ้า 
  • 2. พริกจินดา 
  • 3. พริกยอดสน 
  • 4. พริกพันธุ์ห้วยสีทน 
  • 5. พริกขี้หนูสวน 
  • 6. พริกกะเหรี่ยง 
  • 7. พริกหยวก 
  • 8. ซูเปอร์ฮอต 
  • 9. พริกเหลือง 
  • 10. พริกอัคนีพิโรธ
 
แต่ที่นิยมนำมาแปรรูปคือพริกสายพันธุ์ จินดา เพราะเป็นพริกเม็ดใหญ่และรถชาติเผ็ดพอดีไม่เผ็ดเกินไปและไม่น้อยไป พริกทอด คุณอาจคิดว่าเริ่มต้นที่ไทยแต่จริงๆแล้ว พริกทอด เริ่มต้นจากการเป็น ของทานเล่น ที่นำเข้ามาจากจีน จนกระทั่งเป็นที่นิยมในไทย ก่อนที่ผู้ประกอบการในไทยจะผลิตขายเอง พร้อมปรุงแต่งรสชาติ และยังจำหน่ายส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว อาทิ อินเดีย สหรัฐอเมริกา กัมพูชา จีน ฯลฯ โดยเฉพาะในจีนเองเราสามารถตีตลาดได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก สินค้าจากไทยมีการนำปรุงรถเพิ่มเติมโดยมี รสชาติ ที่โดดเด่น และเป็นที่นิยมอย่างมากคือ รสต้มยำ

ขั้นตอนการทำ และ ต้นทุน พริกทอดกรอบ

ขั้นตอนการทำ

  1. ขั้นตอนแรกคือการนำเม็ดออกจากพริก ด้วยการกรีดตามยาวแล้วนำเม็ดออกเพื่อลดความเผ็ด
  2. หลังจากนั้นนำพริกไปต้มในน้ำเดือด ต้มจนผิวพริกที่แห้งๆ ตึงขึ้น หรือใช้เวลาประมาน 10 นาที
  3. เมื่อเสร็จนำพริกล้างน้ำสะอาดประมาน 2-3 น้ำ จนกว่าน้ำจะใส 
  4. หลังจากนั้นนำพริกมาผึ่งให้แห้งก่อนนำไปคลุกแป้ง เมื่อพริกหายชุ่มน้ำ นำผงหมาล่า หรือ ผงบาบีคิวมาคลุกให้ทั่ว พร้อมใส่เกลือปรุงรสตามความชอบ 
  5. ส่วน งาขาว ต้นทุนค่อนข้างสูง สามารถใส่ได้ตามความเหมาะสม
  6. สุดท้ายค่อยๆ ใส่แป้งทอดกรอบ และคลุกเคล้าให้ทั่ว และนำพริกไปทอด วิธีสังเกตุ คือทอดไฟอ่อนๆ จนพริกจากสีแดงกลายเป็นสีส้ม
  7. หลังจากทอดเสร็จนำมาใส่ถาดใช้กระดาษซับมันลอง เพื่อซับน้ำมันให้แห้ง และบรรจุใส่กระปุกขนาด 100 กรัม

คำนวนต้นทุน

พริกแดงจินดา 1 กก. 151  บาท
แป้งทอดกรอบ 336 กรัม 10 บาท
เกลือป่น 15 กรัม 0.14 บาท
งาขาว 140 กรัม 13  บาท
ผงคลุกบาบีคิว 40 กรัม 8 บาท
นำมันพืช 1 ลิตร 30 บาท
กระปุกขนาด D7xH11 cm 25 ใบ 375 บาท
ค่าแรง ประมาน 2 ชั่วโมง 30 นาที 100 บาท
ค่าอื่นๆ (น้ำ,ไฟ,แก๊ส) 20% ของต้นทุนทั้งหมด
รวม 829 บาท 

* ราคาอาจเปลี่ยนแปลงตามวัตถุดิบ 800 – 850 บาท

ทำได้ทั้งหมด 2,500 กรัม หรือ 25 กระปุก
ต้นทุนประมาณกระปุกละ 33 – 34 บาท
หากต้องการให้ต้นทุนอยู่ที่ 50% ของราคาขาย
จะต้องขายกระปุกละ 66 – 68
หากขายกระปุกละ 70 บาท
กำไรจะอยู่ที่ 36 – 37 บาท ต่อ กระปุก

 

หากขายหมดจะเป็นเงิน 70*25 = 1,750

หักต้นทุนจะได้กำไรสุทธิ = 1,750 – 829 = 921 บาท

นับว่าเป็นรายได้เสริมที่ไม่เลวเลยใช่ไหมด้วย การลงทุน เริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ถือเป็นการทดลองธุรกิจ ที่ไม่แพงเลย เพื่อการทดลอง ตลาด ถือว่าเป็นการเรียนรู้ที่คุ้มมากๆ หากมีความเชี่ยวชาญสามารถนำมาเป็น ธุรกิจ หลักได้ไม่ยากเลย และยิ่งทำในปริมาณที่มากขึ้น ยิ่งจะมีต้นทุนที่น้อยลง และกำไรมากขึ้นอีกด้วย

 

หากท่านมีคำแนะนำใดๆ หรือสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ อยากให้เราช่วยนำมาวิเคราะห์กันอีก ก็สามารถทักแชทหาเราได้เลย ทางเราจะหาข้อมูลมาให้ท่านได้อ่าน 

Share Facebook
Share Twitter
ปก Bollinger Band Goo Invest Trade

Bollinger Bands

Bollinger Bands Bollinger Bands เป็น Indicator หนึ่งที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ยอมรับในวงการ การเทรด

Read More »