ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 6 มิถุนายน 2565

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในเช้าวันจันทร์ในเอเชีย แต่การเคลื่อนไหวยังน้อย เนื่องจากนักลงทุนเกรงว่าว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากเผยแพร่รายงานการจ้างงานในสหรัฐฯ

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับกลุ่มสกุลเงินอื่น ๆ ลดลง 0.04% เป็น 102.118 

ดัชนี PMI ภาคการบริการของจีนที่เผยแพร่เมื่อช่วงเช้าเพิ่มขึ้นเป็น 41.4 ในเดือนพฤษภาคมจาก 36.2 ในเดือนเมษายน โดยขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน ชี้ให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ แม้ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด19 ในหลายๆเมือง แต่อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน และ ดัชนีผู้ผลิต (PPI) ของจีน จะครบกำหนดในวันศุกร์นี้

รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่านายจ้างเพิ่มงาน 390,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคม ซึ่งอยู่เหนือการคาดการณ์ และที่เคยที่บันทึกไว้ในเดือนเมษายนที่ 436,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม รายงานตัวเลขการจ้างงานที่ดีได้ทำให้นักลงทุนเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐยังคงมั่นใจในการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

ขณะนี้นักลงทุนรอ ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเงินซึ่งจะครบกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์

อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดอีกครั้งในเดือนพฤษภาคม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประกาศยุติการซื้อพันธบัตรในสัปดาห์นี้ และร่วมกับพันธมิตรระดับโลกในการกระชับนโยบายการเงินท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ECB จะเผยแพร่การตัดสินใจด้านนโยบายในวันพฤหัสบดีนี้ด้วย

ขณะนี้นักลงทุนเชื่อว่าจะมีกาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 125 จุดพื้นฐานในการประชุมอีกสี่ครั้งของ ECB ในปีนี้

“ด้วยอัตราเงินเฟ้อ (เขตยูโร) ที่ยังไม่ขึ้นสู้บนจุดสูงสุด ในความเห็นของนักงิเคราะห์ เป็นหน้าที่ของ ECB ที่จะผลักดันความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดพื้นฐานในเดือนกรกฎาคม

“อย่างไรก็ตาม หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การคลังและอุตสาหกรรมของฝรั่งเศส เปิดเผยตัวเลือกทุกอย่างในการประชุม ตลาดก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป เป็นโอกาสสำหรับ EURUSD ที่จะฟื้นตัว”

ในกลุ่มสกุลเงินดิจิตอล เหรียญบิทคอยน์ ยังคงวนเวียนอยู่ที่ประมาณ 30,000 ดอลลาร์และแปรับตัวขึ้นเล็กน้อยที่ 30,300 ดอลลาร์ในการซื้อขายช่วงแรก

ค่าเงินบาท USD/THB เปิดตลาด อ่อนค่าที่ 34.355 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ 

สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (3 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ

สัญญาทองแดงตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 8.05 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 4.4720 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาทองแดงได้รับแรงกดดันหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% สู่ระดับ 102.1390 เมื่อวันศุกร์

ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองแดงมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทองแดงยังได้รับผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 53.4 ในเดือนพ.ค. ลดลงจากระดับ 55.6 ในเดือนเม.ย. เนื่องจากต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น และอุปสงค์การชะลอตัวลง นอกจากนี้ ภาคบริการของสหรัฐยังได้รับแรงกดดันจากปัญหาขาดแคลนแรงงานและซัพพลายอีกด้วย 

โหลดโปรแกรมเทรด