
RSI indicator Relative Strength Index
RSI Indicator RSI Relative Strength Index พัฒนาโดย J.Welles Wilder โดยมีการพัฒนามาจาก ค่าความสัมพัน
ภาวะตลาดทองคำล่าสุด
ทองปิดบวก $13.2 ดอลล์อ่อนหนุนแรงซื้อ
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 13.2 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 1,713.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำฟื้นตัว หลังจากที่ปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 3%
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น ส่วนการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 251,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยแรงถึง 0.50% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0198 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0179 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1962 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1967 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6903 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6886 ดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว รุนแรงกว่าที่ ECB ส่งสัญญาณในเดือนมิ.ย.ว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพียง 0.25% ในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยล่าสุด นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 30.9% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00% ในการประชุมวันที่ 26-27 ก.ค. และให้น้ำหนัก 69.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผย GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐในสัปดาห์หน้าเช่นกัน ขณะที่เฟดสาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.6% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่คาดการณ์ในวันที่ 15 ก.ค.ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.5%
ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟียเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด–แอตแลนติก ดิ่งลงสู่ระดับ -12.3 ในเดือนก.ค. หลังจากแตะระดับ -3.3 ในเดือนมิ.ย. โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงานและคำสั่งซื้อใหม่
ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตในภูมิภาคมิด–แอตแลนติกอยู่ในภาวะหดตัว โดยเป็นการหดตัวเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
RSI Indicator RSI Relative Strength Index พัฒนาโดย J.Welles Wilder โดยมีการพัฒนามาจาก ค่าความสัมพัน
Fibonacci Retracement Fibonacci Retracement เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเป็นต
ทำไมต้องเทรดกับ Exness ลดภาระ Swap เพิ่มกำไร กับ Exness ทำไมต้องเทรดกับ Exness Ep.3ลดภาระ Swap เพิ่ม