
ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 8 ธันวาคม 2564
หุ้นเด่นวันนี้
M (ฟินันเซีย ไซรัส) ซื้อเป้า 62 บาท คาดพลิกมีกำไรแข็งแกร่ง Q4/64 ราว 350-400 ลบ. ซึ่งโตได้เล็กน้อย Y-Y หลังกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ โดยยอดขายฟื้นต่อเนื่องในเดือน ต.ค.-พ.ย. ตามการคลาย Lockdown และจะดีสุดในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็น High Season พร้อมคาดจบปี 64 มีกำไร 113 ลบ. และจะเร่งขึ้นเป็น 2.2 พันลบ.ในปี 65 จากสมมติฐานสถานการณ์ปกติไม่มี Lockdown ขณะที่การฟื้นตัวของราคายัง Laggard เทียบกับรอบก่อนๆ โดยให้แนวรับ 51.50-50 บาท แนวต้าน 53.50-54 บาท
PTTEP (กรุงศรี) ซื้อเป้า 150 บาท ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเป็นบวกโดยตรง เนื่องจากมีสูตรราคาเป็น Oil link แนวโน้มกำไรสุทธิ Q4/64 คาดสูงขึ้น qoq และ yoy ตามปริมาณและราคาที่เพิ่มขึ้นและจะไม่มี Hedging loss Q2/64 และ Q3/64
AOT (กสิกรไทย) เป้า 64.46 บาท เห็นโอกาสลงทุนหลังหุ้นปรับตัวลงมามากกว่าหุ้นสนามบินต่างประเทศในสหรัฐฯหรือยุโรป Sentiment บวกหลังตลาดเริ่มคลายความกังวลจากโอมิครอนจะช่วยสนับสนุนการปรับตัวขึ้น
ขอบคุณ : สำนักข่าวอินโฟเควสท์
นักลงทุนคลายกังวลโอมิครอน ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 492 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 35,719.43 จุด เพิ่มขึ้น 492.40 จุด หรือ +1.40%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,686.75 จุด เพิ่มขึ้น 95.08 จุด หรือ +2.07% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,686.92 จุด เพิ่มขึ้น 461.76 จุด หรือ +3.03%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 500 จุดเมื่อคืนนี้ วันที่ 7 ธ.ค. 64 เพิ่มขึ้นติดต่อกันวันที่สอง หลังจากนายแพทย์แอนโทนี เฟาชี แพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาวได้แสดงความเห็นกับสื่อมวลชนว่า นับจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลบ่งชี้ว่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้ก่อให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรง และการหาข้อมูลเพิ่มเติมยังคงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อที่จะทำให้ภาพรวมความเสี่ยงของไวรัสโอมิครอนมีความชัดเจนมากขึ้น
หุ้น 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวกทั้งหมด นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 3.51%
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนจะไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยหุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ พุ่งขึ้น 2.45% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 3.72% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 1.12% หุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 1.48%
ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐลดลง 17.6% สู่ระดับ 6.71 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.68 หมื่นล้านดอลลาร์
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งหากสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
ขอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ
ธุรกิจใจชื้น โควิดสายพันธุ์ใหม่ โอไมครอน ไม่รุนแรงเหมือนที่คาด
ดร.ฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ นักวิชาการค้าปลีก เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ประเมินว่าสถานการณ์ของโควิดโอไมครอนในประเทศไทยขณะนี้ ไม่น่าส่งผลกระทบต่อภาพรวมกำลังการจับจ่าย และมู้ดของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่มากนัก
เนื่องจากที่ผ่านมาตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสเกิดขึ้นถึงขณะนี้ คนไทยยังตั้งการ์ดป้องกันโควิดสูงอยู่ ทั้งเรื่องการสวมหน้ากากอนามัย ใช้เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ รวมถึงด้านสุขอนามัยต่าง ๆ ที่เข้มงวดอยู่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผู้ประกอบการในหลายภาคธุรกิจ ทั้งค้าปลีก ร้านค้า ร้านอาหาร ต้องประเมินสถานการณ์ และติดตามอย่างใกล้ชิด
เชื่อว่าช่วงปลายปีใหม่การจับจ่ายของประชาชนจะยังคงอยู่ เนื่องจากคนไทยเริ่มชินกับการระบาด รวมถึงมีการป้องกันเข้มงวด ส่วนหนึ่งก็ต้องการบรรยากาศเฉลิมฉลองปลายปี หากการระบาดของไวรัสโอไมครอนในไทยยังสามารถควบคุมได้ และไม่ทวีความรุนแรงมากกว่านี้ เชื่อว่าภาพรวมกำลังซื้อ บรรยากาศช่วงปลายปีจะยังคงอยู่แน่นอน
ส่วนกิจกรรมช่วงปลายปีของธุรกิจค้าปลีกที่มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากการระบาดไม่ได้เลวร้ายลง การจัดงานอีเวนต์แต่ละแห่งจะยังคงเดินหน้าปกติ เบื้องต้นขณะนี้หลายแห่งยังคงจัดกิจกรรมภายใต้มาตรการที่เข้มงวดอยู่แล้ว จะมีเพิ่มการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์มากขึ้น
นาวสาวธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ผู้บริหารศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ที่ประเมินว่าการพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในประเทศไทยจะทำให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศลดน้อยลง ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศ แม้จะมีการเดินทางท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่เชื่อว่ายังมีประชาชนและคนกรุงเทพฯอีกไม่น้อยที่เลือกจะใช้เวลาเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลปีใหม่ในกรุงเทพฯ ผ่านแลนด์มาร์กต่าง ๆ ที่มีการจัดงาน
สำหรับสามย่านมิตรทาวน์เตรียมกิจกรรมในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือน ธ.ค. ซึ่งถือเป็นช่วงเพรสทีจซีซั่น โดยวางแผนทำอีเวนต์ลานนม ซึ่งเป็นไฮไลต์ของทางศูนย์ นอกเหนือจากการตกแต่งต้นคริสต์มาส และบรรยากาศปีใหม่ต่าง ๆ
ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ และอยู่ในขั้นตอนทำตามระเบียบของศูนย์บริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และข้อกำหนดของกรุงเทพมหานคร โดยจะมีมาตรการป้องกันเข้มงวด และลดจำนวนคนที่สามารถเข้าร่วมงานได้ตามมาตรการรัฐ
นางสาวนรินติยา เสาวณีย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มิสเตอร์.ดี.ไอ.วาย. เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 400 สาขาทั่วประเทศ กล่าวว่า แม้พบผู้ติดเชื้อโอไมครอนในไทย แต่พฤติกรรมการใช้บริการและมูลค่าการจับจ่ายของผู้บริโภคยังไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ในระดับ 200-400 คนต่อวัน และ 200-250 บาทต่อคน เท่ากับช่วงที่ผ่านมา คาดว่าเป็นเพราะความเชื่อมั่นในการรับมือของรัฐบาล และความเข้มงวดของร้าน
บริษัทได้ยกระดับมาตรการป้องกันโรคให้เข้มงวดขึ้น ทั้งในส่วนของพนักงาน การจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการในร้าน ด้านแผนจัดการงานฉลองเปิดสาขาใหม่ก็ยังเดินหน้าตามเดิม และพร้อมปรับตัวหากรัฐมีมาตรการควบคุมโรคโดยนำประสบการณ์ช่วงล็อกดาวน์มาปรับใช้
นายกิตติ กันทรวิชัยวัฒน์ เลขาธิการสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี กล่าว
ว่า การไม่อนุญาตให้ 8 ประเทศกลุ่มเสี่ยงสูงในทวีปแอฟริกาใต้เข้าไทย กระทบต่อธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับใน จ.จันทบุรี เนื่องจากวัตถุดิบพลอยแดงมากกว่า 50% นำเข้าจากโมซัมบิก และอีกหลายประเทศในทวีปแอฟริกา ทั้งแทนซาเนีย ไนจีเรีย มาดากัสการ์ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบพลอย 60-70%
แม้ตอนนี้ผลกระทบยังไม่ชัดเจน ต้องรอประเมินสถานการณ์อีก 2 สัปดาห์ หากมาตรการห้ามเข้าประเทศเป็นระยะสั้นจะไม่มีผลกระทบมากนัก แต่ระยะยาวมีผลกระทบแน่นอน เพราะการสต๊อกสินค้ามีมูลค่าสูง มีผลกระทบต่อการผลิต เพราะปกติผู้ซื้อวัตถุดิบพลอยจะเดินทางไปดูสินค้าด้วยตัวเอง
ตอนนี้ห้ามเฉพาะคนเข้า-ออก ยังขนส่งวัตถุดิบพลอยมาได้ตามออร์เดอร์ และมีการนำพลอยมาจัดประมูลใน กทม. ช่วงโควิด-19 ระบาดต่อเนื่อง 2 ปีที่ผ่านมา มูลค่าการค้าพลอยลดลงเหลือเพียง 20-30% จากข้อจำกัดในการเดินทางเข้าไทย และการประกาศปิดตลาดพลอยหลายครั้ง เนื่องจากสินค้าอัญมณีต้องดูด้วยสายตาและสัมผัสจริง ช่วงไตรมาส 3 ตลาดการซื้อขายพลอยฟื้นตัวดีขึ้น 40-50%
กลุ่มลูกค้าหลักคือ จีน อเมริกา ยุโรป โดยเฉพาะจีนประมาณ 60% จากที่โควิดคลี่คลาย และนโยบายเปิดประเทศของไทยตั้งแต่ 1 พ.ย. 2564 มีชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาซื้อ-ขายพลอยในรูปแบบ test and go ที่น่าเป็นห่วงคือแรงงานที่ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน ทั้งนี้ เดือน ก.พ. 2565 สถาบัน GIT จะจัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี ถ้าโควิดไม่รุนแรงลูกค้าต่างประเทศน่าจะเข้ามาซื้อขายไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
นายชายพงษ์ นิยมกิจ ประธานหอการค้า จ.จันทบุรี และอุปนายกสมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า โมซัมบิกเป็นแหล่งวัตถุดิบพลอยมากกว่า 70% การปิดกั้นการเดินทางจึงกระทบการผลิตอัญมณีและเครื่องประดับที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัวขึ้น 40% จากปี 2563 ลดลงถึง 70-80% ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับค่อนข้างอ่อนไหวตามสถานการณ์โควิด-19 เช่นเดียวกับการท่องเที่ยว
ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ
ตลาดหุ้นไทยเช้านี้บวกเช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ-ยุโรปปรับขึ้นได้ดี
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปที่ปรับตัวขึ้นได้ดี จากคลายกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอนหลังสหรัฐฯว่าไม่รุนแรง แม้จะมีการแพร่ระบาดสูง
ราคาน้ำมันก็ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากคลายกังวลเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้มองเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนนี้ไม่น่าจะกระทบความต้องการใช้น้ำมัน ส่วนบ้านเราจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ก็ลดลง ทำให้มองว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นได้ โดยคาดว่าหุ้นในกลุ่มเปิดเมืองน่าจะขึ้นนำตลาดฯ ไม่ว่าจะเป็นหุ้นในกลุ่มโรงแรม, ท่องเที่ยว เป็นต้น และกลุ่มพลังงานก็น่าจะกลับมาด้วย อีกทั้งเงินบาทขณะนี้ได้แข็งค่าขึ้นทำให้น่าจะได้เห็นแรงซื้อของนักลงทุน
ทั้งนี้ยังต้องติดตาม FTSE Rebalance ซึ่งจะมีผลวันที่ 20 ธ.ค.64, ติดตามประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 14-15 ธ.ค., ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 16 ธ.ค., ติดตามองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่จะประกาศสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจะเป็นอย่างไร รวมถึงติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสำคัญ พร้อมให้แนวรับ 1,595-1,600 จุด ส่วนแนวต้าน 1,620-1,624 จุด
ขอบคุณ : สำนักข่าวอินโฟเควสท์
ราคาทองประจำวันนี้ครั้งที่ 1 ลดลง 50 บาท
ราคาทองวันนี้ สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขายประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2564 ครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.23 น. ลดลง 50 บาท ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 28,300.00 บาท ขายออกบาทละ 28,400.00 บาท ทองคำรูปพรรณรับซื้อบาทละ 27,788.28 บาท ขายออกบาทละ 28,900.00 บาท
โดยราคาทองเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2564 สมาคมค้าทองคำ ประกาศราคาขาย 4 ครั้ง ลดลง 150 บาท ทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 28,350.00 บาท ขายออกบาทละ 28,450.00 บาท ทองคำรูปพรรณรับซื้อบาทละ 27,833.76 บาท ขายออกบาทละ 28,950.00 บาท
ทั้งนี้สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,784.7 ดอลลาร์/ออนซ์
ขอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 30 มกราคม 2566 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 30 มกราคม 2566 ตลาดจับตาเฟดแถลงผลการประชุมวันพุธนี้ คาดขึ้นดอกเบี้ย
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 24 มกราคม 2566 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 24 มกราคม 2566 (รอบเช้า) ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งเทียบดอลล์ ร
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 มกราคม 2566 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 มกราคม 2566 (รอบเช้า) ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $16.90 เ
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 21 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า) ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $27.7 ด
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบบ่าย)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบบ่าย) ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเล็กน้อ
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า)
ข่าว หุ้น ธุรกิจ เศรษฐกิจ วันที่ 20 ธันวาคม 2565 (รอบเช้า) ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $2.5 บอนด