LOGO Goo Invest
Categories
ข่าวหุ้น

ข่าว หุ้น ธุรกิจ วันที่ 7 มกราคม 2565

ข่าวหุ้น เศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน Goo Invest Trade

ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 7 มกราคม 2565

หุ้นเด่นวันนี้

  • OCEAN (เมย์แบงก์)เป้าเชิงกลยุทธ์ 2.89 บาท คาดกำไรปกติปี 65 จะขยายตัวสู่ระดับ 221 ล้านบาท เติบโตเด่นจากปี 64 ที่มีกำไรเพียง 40 ล้านบาท แรงหนุนจากการรับรู้โครงการอสังหาฯ ผสานกับการต่อยอดในธุรกิจกัญชง ที่เป็น New S-Curveใหม่ที่คาดจะสร้างรายได้ตั้งแต่ 1Q65 และจะเร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงครึ่งหลังปี 65
  • PSL (คันทรี่ กรุ๊ป) “ซื้อ” เป้าหมาย 21.20 บาท คาดอัตราค่าระวางเรือเฉลี่ย (TCE) สำหรับเรือขนาดเล็ก-กลาง (Handysize และ Supramax) จะยังมีระดับที่ทำกำไรได้สูงตลอดทั้งปี 2022-23 จากประเด็นอุปทานล้นเกินที่หมดไป
  • SMD (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อเก็งกำไร” เป้าหมาย IAA Consensus 20.20 บาท การเร่งตัวของจำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอนในประเทศหลังปีใหม่ ทำให้การตรวจคัดกรองเชื้อ COVID-19 ด้วยตัวเองผ่านชุดเครื่องตรวจ ATK กลายเป็นสินค้าจำเป็นมากขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่เดินทางเป็นประจำ รวมถึงบางสถานที่ยังเพิ่มความเข้มงวดตรวจคัดกรองด้วย ATK ก่อนเข้ารับบริการ ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 65 เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 พันล้านบาท จากแนวโน้มปี 64 คาดว่าจะทำรายได้ที่ราว 1.55 พันล้านบาท เนื่องจากความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้จากการขายจากการขายชุดตรวจ ATK ให้กับหน่วยงานราชการและร้านสะดวกซื้อ 7-11

ขอบคุณ :  สำนักข่าวอินโฟเควสท์ 

ราคาทองวันนี้ ลดลง 50 บาท

บิตคอยน์วันนี้ปรับตัวร่วงลง  0.64%

     บิตคอยน์เคลื่อนไหวในแดนลบเช้าวันนี้ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ ปิดวันพฤหัสบดี(6ม.ค.)ร่วงลง 170 จุดหลังปรับตัวขึ้นในช่วงแรก ท่ามกลางความกังวลที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

       ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปรับตัวร่วงลง 170.64 จุด หรือ 0.4% ปิดที่ 36,236.47 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 0.1% ปิดที่ 4,696.05 จุด ดัชนีแนสแด็กร่วง 0.1%  ปิดที่ 15,080.86 จุด

       ส่วนราคาทองฟิวเจอร์ ปิดวันพฤหัสบดี ที่ 6 ม.ค. 65  ดิ่งลง 35.90 ดอลลาร์ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งระบุว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ และจะเริ่มปรับลดขนาดงบดุล

       สัญญาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 35.90 ปิดที่ราคา 1,789.20 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ขอบคุณ :  กรุงเทพธุรกิจ

 

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท อ่อนค่าที่ 33.57 บาท

        วันที่ 7 ม.ค. 65 รายงานจากห้องค้าเงิน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ อ่อนค่าที่ 33.57 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดสิ้นวันทำการก่อนหน้า โดยกรอบการเคลื่อนไหววันนี้คาดการณ์แนวรับที่ 33.45 บาท แนวต้านที่ 33.70 บาท

    โดยปัจจัยขับเคลื่อนตลาดช่วงนี้มาจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ระบุว่าการขึ้นดอกเบี้ย สามารถเริ่มต้นได้เร็วที่สุดในเดือนมีนาคม และควรลดขนาดงบดุลหลังจากนั้น เพื่อจัดการกับเงินเฟ้อ

      ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐ โดยไอเอสเอ็มในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 62.0  ส่วนปัจจัยในประเทศ ไทยประกาศยกระดับการเตือนภัยโควิด-19 จากระดับ 3 ปรับขึ้นเป็นระดับ 4 

      สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ เงินเฟ้อยูโรโซน และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานสหรัฐ

ขอบคุณ : ประชาชาติธุรกิจ

ยันเก็บภาษีปีนี้แน่ ขาขายหุ้น 0.1% รมว.คลัง มั่นใจไม่กระทบตลาดหุ้นไทย

         นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรอยู่ระหว่างศึกษาการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้น ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง หลังจากที่ได้ยกเว้นการจัดเก็บมานาน 30 ปี แต่คงต้องพิจารณาแนวทางการจัดเก็บให้มีความเหมาะสมที่สุด โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทำการศึกษาแนวทางเพื่อให้มีรูปแบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล

         ปัจจุบันการจัดเก็บภาษีหุ้นในต่างประเทศมี 2 รูปแบบ คือ

        1. เก็บจากส่วนต่างของกำไร (Capital Gain) ซึ่งมีข้อดี แต่การดำเนินการยุ่งยาก เป็นภาระกับผู้เสียภาษีมากกว่า หากกรมสรรพากรดำเนินการรูปแบบนี้จะต้องออกระเบียบและแก้กฎหมายใหม่ 

         2.เก็บจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้น ซึ่งกลุ่มประเทศอาเซียนส่วนใหญ่จัดเก็บวิธีการนี้

         สำหรับแนวทางการจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมการซื้อขายหุ้นน่าจะเหมาะสมกับประเทศไทยมากที่สุด โดยในต่างประเทศจัดเก็บทั้ง 2 ขา ทั้งขาขายและขาซื้อ แต่ในส่วนของไทยศึกษาการจัดเก็บจากการขายหุ้นฝั่งเดียวเท่านั้น ซึ่งภาระไม่ได้มาก อัตราจัดเก็บที่ 0.1% เท่ากับหากมีการขายหุ้นมูลค่า 1 ล้านบาท จะเสียภาษีเพียง 1,000 บาทเท่านั้น

      กรมสรรพากรจะเสนอแนวทางการศึกษาทั้งหมดให้ รมว.คลัง พิจารณาในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งการจะเริ่มเก็บภาษีต้องดูสภาพตลาดหุ้นด้วย ต้องยอมรับว่าแม้จะมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นไทยก็มีดัชนีเพิ่มขึ้น และมูลค่าการซื้อขายก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นมองว่าหากมีการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในปีนี้ ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยมากนัก

        การเก็บภาษีหุ้นไม่ได้มุ่งหวังเรื่องของรายได้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีด้วย เพราะเป็นการเสียในรูปแบบภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งปัจจุบันธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจประกัน การซื้อขายอสังหาริมทรัยพ์ ก็ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะทั้งหมด ไม่ได้รับการยกเว้นแต่อย่างใด ซึ่งภาษีหุ้นก็อยู่ในหมวดธุรกิจเฉพาะที่จะต้องเสียภาษีในอัตรา 0.1% เพียงแต่ที่ผ่านมาได้รับการยกเว้นมานานถึง 30 ปี

        นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าคณะกรรมการ FETCO จะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับมาตรการการจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ (Financial Transaction tax) เพื่อหาข้อสรุปในการทำหนังสือในนาม FETCO ไปยังกระทรวงการคลัง เพื่อชี้แจงมุมมองให้รับทราบ

      เสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าว  และส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยเช่นกัน เนื่องจากช่วงเวลาเก็บภาษีจากการขายหุ้นยังไม่เหมาะสม แม้จะเห็นใจรัฐบาลที่ขาดดุลงบประมาณอย่างต่อเนื่อง แต่หากมองมาตรการดังกล่าวในระยะยาวอาจกระทบต่อสภาพคล่องของตลาดทุน ซึ่งเป็นจุดขายหลักของตลาดหุ้น ซึ่งที่ผ่านมาตลาดหุ้นไทยมีสภาพคล่องโดดเด่นสุดในอาเซียน จึงไม่อยากเห็นการออกมาตรการที่จะส่งกระทบต่อสภาพคล่องและไม่เห็นด้วยที่จะออกมาในปีนี้

      หากมีการเก็บภาษีจากการขายหุ้นในปีนี้จริง เบื้องต้นประเมินว่าผลกระทบโดยรวมจะส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายตลาดจะหายไปราว 20-30% โดยกลุ่มนักลงทุนที่จะกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มนักลงทุนต่างชาติเนื่องจากต้นทุนในการซื้อขายหุ้นปกติก็สูงกว่า 1 เท่าตัวของนักลงทุนในประเทศอยู่แล้ว

        หากมีการจัดเก็บภาษีจะทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น นักลงทุนต่างชาติอาจเลือกไปเทรดในตลาดอื่นที่มีต้นทุนต่ำกว่า ซึ่งจะทำให้ยอดเทรดลดลงจากปัจจุบันที่มีสัดส่วนกว่า 40% ของปริมาณการซื้อขายรวม และกลุ่มถัดไปที่จะโดนผลกระทบคือกลุ่มเทรดเดอร์และ Prop Trade 

      ด้านนายวัชระ แก้วสว่าง หรือ เสี่ยป๋อง นักลงทุนรายใหญ่  กล่าวว่าเบื้องต้นประเมินการเก็บภาษีจากธุรกรรมซื้อขายหุ้น จะส่งผลกระทบต่อวอลุ่มซื้อขายหลักทรัพย์แน่นอน เพราะไม่ต่างกับการถูกเรียกเก็บค่านายหน้าซื้อขาย (ค่าคอมมิชชั่น) เพิ่ม  นอกจากนี้การเก็บภาษีขายหุ้นคาดว่าจะกระทบต่อการซื้อขายของหุ่นยนต์ (โรบอทเทรด) ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนราว 30% ของปริมาณการซื้อขายหุ้นทั้งหมด โดยคาดว่าวอลุ่มของกลุ่มนี้จะลดน้อยลง หรือหายไปชั่วขณะ เพราะต้องปรับระบบ หรือปรับสูตรใหม่ ภายหลังต้นทุนการขายต่อครั้งเพิ่มขึ้น 

      แต่หากมองในมุมบวก การเก็บภาษีขายหุ้นอาจส่งผลดีต่อนักลงทุนที่ถือหุ้นยาว เพราะที่ผ่านมาต้นทุนค่าคอมมิชชั่นถูก ส่งผลให้นักลงทุนในตลาดสามารถซื้อขายหุ้นระยะสั้นได้ แต่หากเก็บภาษีขายหุ้น คาดว่าการเก็บกำไรอาจลดลง เพราะนักลงทุนอาจหันมาถือยาวเพื่อเก็บกำไรยาวขึ้น 

ขอบคุณ : ฐานเศรษฐกิจ

ข่าวหุ้นล่าสุด ข่าวเด่นวันนี้ วันที่ 14 ธันวาคม 2564

หุ้นวันนี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *